- Home
- Isranews
- ตะกร้าข่าว
- ซีพีแรมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารภูมิภาคเอเชีย มอบคุณค่าสู่สังคม
ซีพีแรมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารภูมิภาคเอเชีย มอบคุณค่าสู่สังคม
30 ปี ซีพีแรม เดินหน้ามอบคุณค่าสู่สังคม มุ่งสู่องค์กรที่ยั่งยืน พร้อมยกระดับชีดความสามารถเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารภูมิภาคเอเชีย เพื่อตอกย้ำผู้นำด้าน FOOD PROVIDER มาตรฐานโลก
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2560 บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและผู้นำด้าน FOOD PROVIDER มาตรฐานโลก จัดงาน “30 ปี ซีพีแรม” ภายใต้แนวคิด “เคียงข้างกันตลอดไป(TOGETHER FOREVER)” ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยได้รับเกียรติจากนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร เป็นประธานในงานดังกล่าว ในครั้งนี้นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ได้ประกาศทิศทางองค์กร 5 ปี (ค.ศ.2018-2022)
ด้วยปณิธานที่จะส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ ซึ่งนอกจากรสชาติอร่อยแล้ว ยังเพียบพร้อมด้วยความปลอดภัย และให้คุณค่าทางโภชนาการ มุ่งมั่นสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ได้คุณภาพมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงการสร้างการสร้างคุณค่าสูงสุดให้แก่ผู้บริโภคตามมาด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าให้กับพันธมิตร ด้วยการพัฒนาการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ( SUPPLY CHAIN MANAGEMENT) จนกระทั่งส่งสินค้าถึงมือลูกค้าให้มีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุดเสมอมา โดยมีสินค้าและบริการในกลุ่มบริษัท ซีพีแรม จำกัด อาทิ แบรนดืเจด ดราก้อน, แบรนด์เดลี่ไทย, แบรนด์เดลิกาเซีย, และแบรนด์ซีพีแรมแคทเทอริ่ง เป็นต้น
นายวิเศษ วิศิษฏืวิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด เปิดเผยว่า ซีพีแรมเดินทางผ่านยุคต่างๆ มาแล้วถึง 6 ยุค แต่ละยุคใช้เวลา 5 ปี รวมเวลาถึงวันนี้ ซีพีแรมมีอายุ 30 ปี เหตุผลที่เราแบ่งซีพีแรมในแต่ละยุคนั้น ก็เพราะว่าเรามีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์องค์กรในระยะยาวไว้ทุกๆ 5 ปี เช่นเดียวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย ตัวอย่างเช่น ยุคที่ 6 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปนี้คือ ยุคครบเครื่องด้วยนวัตกรรม เราได้มุ่งเน้นในการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและได้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่โดดเด่นขึ้นมากมาย แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเราก็มั่งมั่นสู่ความเป็นเลิศและเติบโตอย่างมั่นคงมาอย่างต่อเนื่อง ดังเห็นได้ว่า ในความเป็นเลิศนั้น ในยุคที่ 6 เราได้รับรางวัล DEMING PRIZE 2015 และรางวัล KANO QUALITY AWARD 2016 ในระดับสูงสุด “DIAMOND AWARD” และในด้านการเติบโตอย่างมั่นคง เราก็ได้ขยายโรงงานอีก 4 แห่งในยุคนี้ด้วย
สำหรับซีพีแรมยุคใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ววันนี้ นับจากนี้ไปอีก 5 ปี เราเรียกยุคที่ 7 นี้ว่า “ยุคศรีอัจฉริยะ” มอบคุณค่าสู่สังคม มุ่งสู่องค์กรที่ยั่งยืน ศรีอัจฉริยะมาจากคำสองคำ คำว่าศรีคือความดีงาม และคำว่าอัจฉรินะคือความเก่งเฉลียวฉลาด เมื่อนำสองคำนี้มารวมกันเรียกว่า ศรีอัจฉริยะ จึงมีความพร้อมด้วยความดีและความเก่ง ในยุคศีอัจฉริยะนี้ ซีพีแรมและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ จะร่วมกันส่งมอบความดีคู่ความเก่งให้กับผู้บริโภคและสังคมในเวลาเดียวกัน ความดีและความเก่งนั้นไม่ใช่ 2 เรื่องที่เราจะส่งมอบ แต่เป็นเรื่องเดียว ที่มี 2 ด้านทั้งความดีและความเก่งอยู่ด้วยกันในเวลาเดียวกัน
ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ร้อยเรียงกันมาตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำจึงมีส่วนสำคัญในการตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคและสังคมทั้งสิ้น เราเรียกการร้อยเรียงของผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำนี้ว่า หวงโซ่อุปทาน หรือ SUPPLY CHAIN และร่วมส่งมอบความดีคู่ความเก่งให้กับผู้บริโภคและสังคม 3 ประการด้วยกัน คือ FOOD SAFETY, FOOD SECURITY และ FOOD SUSTAINNABILITY หรือจำง่ายๆ ว่า 3S ไม่ได้เป็นเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง เราจะต้องร่วมกันทำตลอดห่วงโซ่อุปทานส่งมอบความดีคู่ความเก่งใน 3S นี้ให้กับผู้บริโภคและสังคมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วอะไรจะเป็นโซ่ทองคล้องใจให้เราทำความดีคู่ความเก่งนี้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เราเรียกสิ่งนั้นว่า TRUST หรือความเชื่อใจอย่างไร้ข้อสงสัย หากถามว่าใครคือคนทำอาหารให้เราทานตั้งแต่เล็กจนโตที่อยู่ในใจเรา ทุกคนต้องตอบว่า “คุณแม่ของเราเอง” แม่สรรหาและปรุงอาหารที่เราชอบมาให้เราทาน เลือกแต่ของดีๆ ปลอดภัย อร่อย และมีคุณค่า เพราะเราเชื่อใจคุณแม่อย่าง ไร้ข้อสงสัย เราจึงเป็นลูกค้าปรพจำของคุณแม่ตลอดมา ซึ่งก็มีความหมายเดียวกับ TRUST ตั้งแต่นั้นมาซีพีแรมจึงได้เปลี่ยนใช้วิสัยทัศน์ใหม่ว่า “เราจะเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานชั้นนำที่ลูกค้ามอบความไว้วางใจให้”
ทั้งนี้เป้าหมายยุค 7 หรือใน 5 ปีต่อจากนี้ ซีพีแรมมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และท้าทายมาก เราจะขยายการผลิตไปสู่ภูมิภาคมากขึ้น มีโรงงานใหม่เกิดขึ้นอีก 5 แห่ง 2 แห่งในที่ตั้งใหม่คือ โรงงานลำพูน และโรงงานสุราษฎร์ธานี และอีก 3 แห่งในที่ตั้งเดิม คือโรงงานชลบุรี โรงงานขอนแก่น และโรงงานบ่อเงิน จังหวัดปทุมธานี ซึ่งจะมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้น 50-70% เพื่อการรองรับการขยายตัวของตลาดที่เพิ่มปีละ 15% และช่วยเสริมสร้างศักยภาพการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจและการสร้างงาน สร้างรายได้ในภูมิภาค เราจะใช้เงิน 1% ของยอดขายหรือปีละ 150-200 ล้านบาท ทุ่มให้กับการวิจัยและพัฒนา ให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมของตนเอง เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย THAILAND 4.0 รวมถึงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน และการยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งซีพีแรมจะใช้เทคโนโลยีชีวภาพ มาพัฒนาอาหารสุขภาพและอาหารสำหรับบุคคลเฉพาะกลุ่ม เช่นผู้สูงวัยอาหารเด็ก และอาหารของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น เราจะนำเอาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบการผลิตอัตโนมัติมาร่วมทำงานในโรงงานในจุดที่ทำงานหนักและมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ
ซีพีแรม เดินหน้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้กับทุกระบบงาน เรายังคงมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศด้วยการยกระดับการบริหารจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์กรให้สูงขึ้นเราเคยได้รับรางวัล DEMING PRIZE มาเเล้ว แต่เราก็ยังมีความท้าทายที่จะก้าวไปสู่รางวัล GRAND DEMING PRIZE แต่ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ซีพีแรมคงไม่สามารถทำได้โดยตัวเราเพียงลำพัง เราจะต้องทำด้วยกันตลอดห่วงโซ่อุปทาน
ในยุคที่ 7 นี้ เราจะมีการพัฒนาร่วมกัน แบ่งปันความรู้ แบ่งปันข้อมูลกันด้วยความเชื่อใจ ไว้วางใจซึ่งกันและกันตลอดห่วงโซ่อุปทาน เราจะยกระดับขีดความสามารถของเราสู่ THAILAND 4.0 ด้วยห่วงโซ่อุปทานที่มีเทคโนโลยีมีการบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศยกระดับขึ้นพร้อมๆ กัน และซีพีแรมจะทำความดีคู่ความเก่ง โดยมุ่งเน้นตลอด 5 ปี ในยุคที่ 7 ยุคศรีอัจฉริยะนี้ไปพร้อมกัน