- Home
- Isranews
- ตะกร้าข่าว
- ศาลอาญาพิพากษา 'ชาญณรงค์' อดีต ผอ.สมศ.จำคุก 2 ปี คดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ศาลอาญาพิพากษา 'ชาญณรงค์' อดีต ผอ.สมศ.จำคุก 2 ปี คดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี/ปรับหมื่นบาท 'ชาญณรงค์' ผอ.สมศ. ส่วนพวกอีก 4 ราย จำคุก 1 ปี/ปรับ 5 พันบาท แต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน ปมปลด จนท. โดยมิชอบ
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอาญา คดีหมายเลข อ.2453/2557 ที่นางสาวสิรินงนุช สุจรรยา และนางสาวณัฐธยาน์ บุณยทวีพัฒน์ เจ้าหน้าที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) จำเลยที่ 1 และคณะกรรมการสอบสวนวินัยและจรรยาบรรณ ประกอบด้วย นายมณฑล สงวนเสริมศรี นายนิวัติ บูรณะกุล นางกฤษณา ลิ่มสุวรรณ นางฉันทวิทย์ สุชาตานนท์ จำเลยที่ 2-5 ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ศาลพิจารณาพิพากษาให้ จำเลยที่ 1 นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ จำคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท จำเลยที่ 2-5 นายมณฑล สงวนเสริมศรี นายนิวัติ บูรณะกุล นางกฤษณา ลิ่มสุวรรณ นางฉันทวิทย์ สุชาตานนท์ จำคุก 1 ปี ปรับ 5,000 บาท โดยให้รอลงอาญาไว้ก่อน
นายณรงค์ พลมาตร์ ทนายความโจทก์ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากปี 2553 โจทก์ทั้งสองถูกนายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการ สมศ. ในขณะนั้นสั่งปลดออกจากเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งบริหารเป็นวิชาการ ต่อมาถูกปลดออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่ สมศ. ในข้อหากระทำผิดวินัยร้ายแรง จึงนำความเข้าสู่ศาลปกครองและศาลอาญา ซึ่งทั้งสองศาลมีคำพิพากษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือจำเลยปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเดือนพ.ค. 2559 นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระงับการปฏิบัติหน้าที่ผอ.สมศ. ชั่วคราว ก่อนที่ในช่วงปลายปี 2559 จะมีคำสั่งหัวหน้า คสช. เพิ่มเติมอีก 1 ฉบับ ให้พ้นจากตำแหน่งผอ.สมศ. ไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี