- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- หนุ่มวัย 27 ปี ผู้ถูกอายัดทรัพย์คดีทุจริตซื้อสารเคมี ขนเงินสด 68 ล. ตั้ง บ.รับเหมา
หนุ่มวัย 27 ปี ผู้ถูกอายัดทรัพย์คดีทุจริตซื้อสารเคมี ขนเงินสด 68 ล. ตั้ง บ.รับเหมา
เปิด 1 ใน 16 ตัวละคร วัย 27 ปีถูก ป.ป.ง.อายัดทรัพย์สอบฟอกเงินคดีทุจริตจัดซื้อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชกลุ่มอดีตผู้ว่าฯ ขนเงินสด 68 ล้าน ตั้ง บ.รับเหมาทำถนน โชว์หลักฐานใบสำคัญรับเงิน-บัญชีเงินฝาก ตอนจดทะเบียน จ.ขอนแก่น
กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เผยแพร่คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย 15/2560 วันที่ 9 ก.พ. 2560 อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (การจัดซื้อสารเคมีกำจัดศัตรูพืช) ประจำปีงบประมาณ 2554-2555 ในพื้นที่ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม อ.นาตาล อ.วารินชำราบ อ.เมืองอุบลราชธานี อ.น้ำยืน อ.เขมราช จ.อุบลราชธานี อ.เมืองอำนาจเจิญ อ.พนา จ.อำนาจเจริญ) กลุ่มนายสุรพล สายพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นางนฤมล มะลิวัลย์ และนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล กับพวก 16 ราย จำนวน 229 รายการ รวมวงเงิน 384.1 ล้านบาท โดยปรากฎชื่อ บริษัท ทรัพย์การัณย์ จำกัด อยู่ 1 ใน 16 รายด้วย
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า น.ส.พัชรี ศุภสรรพตระกูล กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ทรัพย์การัณย์ จำกัด (น.ส.พัชรี และ บริษัท ทรัพย์การัณย จำกัด ถูก ป.ป.ง.อายัดทรัพย์ทั้งคู่) เกี่ยวข้องกับ บริษัท มินถาพร จำกัด คู่สัญญาจัดซื้อสารเคมี จำนวน 10 สัญญา วงเงิน 102,440,750 บาท โดย น.ส.พัชรีเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองเป็นพยานในการจดทะเบียนจัดตั้งฯ ตามข้อมูลที่นำมารายงานไปแล้ว (อ่านประกอบ:บ.ทรัพย์การัณย์ ผู้ถูกอายัดทรัพย์กลุ่มอดีตผู้ว่าฯ ‘หุ้นใหญ่’โยงจัดซื้อสารเคมี 102 ล.)
ล่าสุดพบว่า นายศักดา หอมจันทร์ 1 ใน ผู้ถูก ป.ป.ง.อายัดทรัพย์ 16 ราย วัย 27 ปี ใช้เงินอย่างน้อย 68 ล้านบาท ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท นิลธาร จำกัด ทำธุรกิจรับเหมา โดยมีนายศักดาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท
จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท นิลธาร จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 ต.ค. 2555 ทุนเริ่มแรก 30 ล้านบาท ประกอบกิจการและจำหน่ายแอสฟัสท์ติกคอนกรีต ที่ตั้งเลขที่ 167/10-11 ถนนแก่นตูมประชาราษฎร์ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายศักดา หอมจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 3/51 หมู่ที่ 18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อายุ 27 ปี ถือ 280,000 หุ้น นายเติมศักดิ์ หอมจันทร์ อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน อายุ 56 ปี ถือ 10,000 หุ้น และ นางสายสุดา หอมจันทร์ อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน อายุ 53 ปี ถือ 10,000 หุ้น รวม 300,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
ในการจดทะเบียนชำระค่าหุ้น นายศักดา และผู้ถือหุ้นอีก 2 คนแจ้งว่าชำระเป็นเงินสด โดยมีใบสำคัญรับชำระเงินค่าหุ้น ทำขึ้นเมื่อ 28 ก.ย2555 เป็นหลักฐาน (ดูเอกสาร)
ต่อมา ได้จดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 4 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 17 ต.ค.2555 เพิ่มเป็น 60 ล้านบาท (เพิ่ม 30 ล้านบาท)
วันที่ 14 ก.ค.2558 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 40 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาทโดยแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด โดย 14 ก.ค.2556 ชำระ 17 ล้านบาท เป็น 77 ล้านบาท วันที่ 6 ส.ค.2558 ชำระ 10 ล้านบาท เป็น 87 ล้านบาท และ วันที่ 17 ส.ค.2558 ชำระ 13 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท ในการชำระเงินเพิ่มทุนแต่ละครั้ง นายศักดาระบุว่าได้ชำระค่าหุ้นเป็นเงินสด โดยมีใบสำคัญรับชำระค่าหุ้นเป็นหลักฐาน และหนังสือรับรองยอดเงินคงเหลือของธนาคารที่เปิดบัญชีเป็นหลักฐาน (ดูเอกสาร)
รวมยอดเงินที่นายศักดานำมาชำระค่าหุ้นตั้งแต่จดทะเบียนก่อตั้งจนเพิ่มทุนรวมทั้งสิ้นอย่างน้อย 68 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 เม.ย. 2559 บริษัท นิลธาร จำกัด มีนายศักดา เป็นผู้ถือหุ้น จำนวน 960,000 หุ้น (96%) นาย เติมศักดิ์ หอมจันทร์ และ นาง สายสุดา หอมจันทร์ คนละ 20,000 หุ้น (คนละ 25%)
แจ้งผลประกอบการรอบปี 2557 รายได้ 308,959,258 บาท ขาดทุนสุทธิ 43,445,322 บาท สินทรัพย์ 411,846,859 บาท หนี้สิน 459,168,928 บาท ขาดทุนสะสม 107,322,068 บาท รอบปี 2556 รายได้ 106,669,878 บาท ขาดทุนสุทธิ 60,662,393 บาท
อย่างไรก็ตาม นายศักดา และ บริษัท นิลธาร จำกัด ถูก คณะกรรมการธุรกรรม ป.ป.ง. อายัดทรัพย์สินไว้เป็นการชั่วคราว รวมบุคคลอื่นเป็น 16 ราย ตามคำสั่งลงวันที่ 9 ก.พ.2560 ด้วย
อ่านประกอบ:
เช็คสถานะคดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง12จว. ใครจ่อคิวถูกอายัด ซ้ำรอยอดีต'ผู้ว่าฯอุบล'
โชว์รายได้308ล.!เปิดตัวบ.นิลธารฯ ถูกปปง.อายัดทรัพย์พร้อมก๊วนอดีตผู้ว่าฯอุบล
ปปง.แพร่คำสั่งอายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯอุบล-พวก 384 ล. คดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง
คำสั่งปลดอดีตผู้ว่าฯออกจากราชการ พันจัดซื้อสารเคมีปราบศัตรูพืช จว.อีสาน
เปิด 31 ‘ตัวละคร-โครงข่าย' คดีจัดซื้อยาปราบศัตรูพืช 4 จว. 25 อำเภอ 1.5 พันล้าน
เบ็ดเสร็จ 25 อำเภอ'จัดซื้อยาปราบศัตรูพืช' เฉพาะ จ.ร้อยเอ็ด 3 บริษัท 19.7 ล.