- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- โดนเพิกถอนบริษัทฯแล้ว!แกะรอย2 ทัวร์จีนโยง 'รอยัลเจมส์ฯ'-สวมบัตรคนตายทำธุรกิจ
โดนเพิกถอนบริษัทฯแล้ว!แกะรอย2 ทัวร์จีนโยง 'รอยัลเจมส์ฯ'-สวมบัตรคนตายทำธุรกิจ
".. ล่าสุดบริษัททั้ง 2 แห่ง ถูกสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งให้เพิกถอน การจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจัดตั้งบริษัทจำกัด ตลอดจนการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง รายการทางทะเบียนทั้งหมดของบริษัทนี้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2559 .."
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรมการท่องเที่ยว กรมการพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมเข้าตรวจค้นบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด พร้อมจับกุมชาวจีนไม่ทราบชื่อ - นามสกุลจริง อายุ 57 ปี ซึ่งถูกตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบสวมบัตรประชาชนของคนไทยซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศไทย
จนนำไปสู่การตรวจค้นบริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทในเครืออีก 4 แห่ง ประกอบไปด้วย บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด บริษัทรอยัล พาราไดซ์ จำกัด เมื่อวันที่ 24 ส.ค.59 ที่ผ่านมา ซึ่งจากสืบทราบว่า 5 บริษัทมีความเกี่ยวพันกับ บริษัทฝูอัน ทราเวล และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด
โดย พลตำรวจตรีสุรเชษฐ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่า บริษัททั้ง 5 แห่งนี้ถือว่าเป็นบริษัททำทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยมีเครือข่ายซึ่งเป็นร้านค้ากระจายตัว อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า 1 ใน 5 บริษัทให้บริการรถเช่า มากกว่า 7,000 คัน ทั้งนี้ทางดีเอสไอ สรรพากร กรมการท่องเที่ยว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และปปง.ได้ตรวจยึดและอายัดเอกสาร ที่เกี่ยวข้องในบริษัท เพื่อนำไปสอบสวนขยายผลหลายรายการ โดยเบื้องต้นเชื่อว่า ทั้ง 5 บริษัทมีเงินหมุนเวียนและทรัพย์สินนับ 10,000 ล้านบาท
(อ่านประกอบ: 6.5 พันล!เจาะรายได้ รอยัลเจมส์ฯ-4 บ.เครือข่าย โดนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญใหญ่สุดในไทย)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด พบว่า ล่าสุดบริษัททั้ง 2 แห่ง ถูกสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งให้เพิกถอน การจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจัดตั้งบริษัทจำกัด ตลอดจนการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง รายการทางทะเบียนทั้งหมดของบริษัทนี้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2559
บริษัท ซิน หยวน ทราเวล จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 ทุน 2 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 370/8 อาคารสุภัทรา ชั้น 7 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจนำเที่ยว รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเที่ยวทุกชนิด
ปรากฎชื่อ นายสมเกียรติ คงเจริญ และ นายวินิจ จันทรมณี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 30 เมษายน 2559 นาย สมเกียรติ คงเจริญ ถือหุ้นใหญ่สุด 14,000 หุ้น (70%) นาย วินิจ จันทรมณี ถืออยู่ 4,000 หุ้น (20%) นาง ยุเซี้ย หาน ถืออยู่ 2,000 หุ้น (10%)
บริษัท บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด จดทะเบียน 24 มีนาคม 2554 ทุน 2 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 503 อาคารเค.เอส.แอล.ทาวเวอร์ ชั้น 11 ห้อง 503/19 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจจัดนำเที่ยว
ปรากฎชื่อ นาง ธวัล แจ่มโชคชัย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 30 พฤษภาคม 2557 นาง ธวัล แจ่มโชคชัย นาย สมเกียรติ คงเจริญ ถือหุ้นใหญ่สุดคนละ 8,000 หุ้น (40%) นาย วินิจ จันทรมณี ถืออยู่ 4,000 หุ้น (20%)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.59 กรมการท่องเที่ยว ได้แถลงผลการตรวจสอบเป็นทางการ ระบุว่า นายสมเกียรติ คงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด เป็นบุคคลต่างชาติเข้ามาสวมบัตรประชาชนของนายสมเกียรติ คงเจริญ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว
ส่วน นางธวัล แจ่มโชคชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด เป็นผู้มีส่วนช่วยเหลือและให้การสนับสนุนกับกลุ่มบุคคลต่างชาติที่สวมบัตรประชาชนคนไทยหลายราย
ขณะที่ นายธนากฤต รินรัตน์ และ นายภูวดล สุขเจริญ ถูกระบุว่า สวมบัตรประชาชนและเป็นมัคคุเทศก์ให้กับบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด
โดย นายสุธรรม เดชดี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยวและนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง เปิดเผยว่า เชื่อว่าพฤติการณ์การกระทำผิดของนายสมเกียรติ คงเจริญ และนางธวัล แจ่มโชคชัย ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด เป็นคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทยเข้ามาประกอบธุรกิจนำเที่ยว และได้ช่วยเหลือให้คนต่างชาติสวมประชาชนคนไทยแล้วเข้ามาเป็นมัคคุเทศก์ให้กับบริษัท เพื่อประโยชน์ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ในลักษณะของทัวร์ต่ำกว่าทุนหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย
พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อนายสมเกียรติ คงเจริญ และนางธวัล แจ่มโชคชัย โดยเสนอศาลขอออกหมายจับ ซึ่งต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับ ให้จับคุมตัว นายสมเกียรติ คงเจริญ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1484/2559 ลง 30 ก.ค. 59 กล่าวหาว่า “กระทำการเป็นสมาชิกอั้งยี่” และนางธวัล แจ่มโชคชัย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1485/2559 ลง 30 ก.ค. 59 กล่าวหาว่า “กระทำการเป็นสมาชิกอั้งยี่” ซึ่งจะดำเนินการส่งให้พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจนครบาลพญาไท, บางพลัด, ทุ่งสองห้อง, ท่าข้าม ดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป