ชำแหละสถานะ‘เอคิว’ ความพยายามผู้บริหารใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.?

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 24 สิงหาคม 2559 เวลา 13:04 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | ข่าวบุคคลดัง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) | คดีกรุงไทยปล่อยกู้

เจาะความเห็นผู้สอบบัญชีในงบการเงินปี’58 ‘เอคิว เอสเตท’ ลูกหนี้คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยหมื่นล้าน พบเคยอุทธรณ์ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาให้หักหนี้จากมูลค่าหุ้น ขายโครงการ 586 ล้านใช้หมุนเวียนในบริษัท ทำสัญญานายหน้าขายที่ดินใช้หนี้ ขายเงินลงทุน 1.5 พันล้านให้บริษัทย่อยยืม

PIC aqkrungthai 24 8 59 1

บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิมบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หนึ่งในเอกชนที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้ชดใช้กว่าหมื่นล้านบาท จากกรณีร่วมกันทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานคร

สาธารณชนอาจทราบกันไปแล้วว่า บริษัท เอคิวฯ เพิ่งถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งระงับการซื้อขายหุ้น เนื่องจากไม่ส่งความเห็นผู้สอบบัญชีงบการเงินประจำปี 2558 ขณะเดียวกันยังไม่ส่งงบดุลประจำไตรมาส 1 ปี 2559 ด้วย

อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบความเห็นของผู้สอบบัญชีของบริษัท เอคิวฯ ที่ไม่ได้แจ้งต่อ ตลท. ระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัท เอคิวฯ ไม่ได้ส่งความเห็นผู้สอบบัญชี เนื่องจากมีความไม่แน่นอนในการดำเนินงานของบริษัท จากที่ถูกคำพิพากษาศาลฎีกาฯให้ชดใช้หนี้ในคดีดังกล่าว และปัจจุบันผู้บริหารยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ ในการชำระหนี้

(อ่านประกอบ : ตลท.ห้าม‘เอคิว’ลูกหนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.ซื้อขายหลักทรัพย์-ยังขายที่ดินใช้หนี้ไม่ได้, ขาดทุนล่าสุด 2.2 พันล.! ล้วงเหตุผล ‘เอคิว’ลูกหนี้กรุงไทยหมื่นล.ทำไมยังไม่ชดใช้?, เปิดรายงานผู้สอบบัญชี! จับท่าทีผู้บริหาร‘เอคิว’ใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.)

ไม่ว่าข้อเท็จจริงเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร ?

แต่จากการตรวจสอบหมายเหตุงบการเงินของบริษัท เอคิวฯ ประจำปี 2558 ผู้สอบบัญชีได้ลงลึกในรายละเอียด และ ‘ตอกย้ำ’ ถึงสถานะความไม่แน่นอนของบริษัท ในการดำเนินการชดใช้หนี้ดังกล่าวด้วย ?

อย่างไร สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปให้เข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้

ภายหลังศาลฎีกาฯ พิพากษาให้บริษัท เอคิวฯ บริษัท โบนัส บอร์น จำกัด บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด บริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นแนล จำกัด และบริษัท แกรนด์ คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ชดใช้ค่าเสียหาย 10,004,467,480 บาท นั้น

(อ่านรายละเอียดคำพิพากษา : พิพากษาจำคุก “ร.ท.สุชาย-วิโรจน์” 18 ปี ทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย ชดใช้หมื่นล., จำแนกจำเลย-โทษเรียงตัวคดีกรุงไทย ไขปริศนา? ไฉนไม่มีชื่อ“พานทองแท้”)

@อุทธรณ์ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

ต่อมาบริษัท เอคิวฯได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของบริษัท และยื่นอุทธรณ์แก่ที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาว่า ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาในส่วนของการกำหนดค่าเสียหาย ทั้งนี้ได้ขอให้พิจารณาหักมูลค่าค่าเสียหายจาก

1.เงินค่าใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้น เนื่องจากธนาคารกรุงไทยยังไม่ได้แจ้งว่า ได้มีการนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 13.17 ล้านหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 118.57 ล้านหน่วย ออกขายไปเมื่อใด และได้รับเงินจากการขายเป็นจำนวนเท่าใด

2.หักเงินที่บริษัท แกรนด์ คอมพิวเตอร์ฯ ได้วางมัดจำค่าหุ้นของบริษัทแทนธนาคารกรุงไทยดังกล่าว ไปเป็นค่าจองหุ้นสามัญจำนวน 197.62 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับคำอุทธรณ์ดังกล่าว

@ขายโครงการเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในบริษัท

เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันของบริษัท ทำให้ถูกระงับการให้สินเชื่อจากสถาบันการเงินในประเทศหลายแห่ง ดังนั้นในเดือน เม.ย. 2559 บริษัท ได้ขายโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาแห่งหนึ่งให้แก่บริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกันในประเทศแห่งหนึ่ง มีต้นทุนจำนวน 373 ล้านบาท รวมมูลค่าการขาย 586 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานภายในกลุ่มบริษัท โดยบริษัทได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อแล้วในเดือน มิ.ย. 2559

@หานายหน้าขายที่ดิน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2559 และเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2559 บริษัท เอคิวฯ ได้ทำสัญญาค่านายหน้าและสัญญาแต่งตั้งตัวแทนกับบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกันในประเทศแห่งหนึ่ง เพื่อขายที่ดินหลักประกันในคดีร่วมกันทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ โดยมีค่าอัตรานายหน้าร้อยละ 2.5 ของราคาซื้อที่ตกลงกัน และค่าธรรมเนียมตัวแทนมีอัตราร้อยละ 1.5 ของราคาซื้อที่ตกลงกันแต่ไม่เกินจำนวน 150 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวจะได้รับชำระค่าตอบแทนเมื่อมีการขายที่ดินสำเร็จเท่านั้น

@ขายเงินลงทุนให้บริษัทย่อยกู้ยืม

ภายหลังศาลฎีกาฯมีคำพิพากษาคดีดังกล่าว บริษัท เอคิวฯได้ขายเงินลงทุนชั่วคราวรวม 1,577.80 ล้านบาท และนำเงินดังกล่าวให้บริษัทย่อยกู้ยืม โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อปีและร้อยละ MLR ต่อปี ทั้งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ให้บริษัทย่อยใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งหมดคือความพยายามของผู้บริหารบริษัท เอคิวฯ ที่ต้องการหาเงินมาเพื่อชดใช้หนี้แก่ธนาคารกรุงไทยกว่าหมื่นล้านบาทตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ

ไม่ว่าความพยายามของผู้บริหารในกรณีนี้จะเป็นอย่างที่ระบุไว้ในงบการเงินหรือไม่

แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันยังไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด !

อ่านประกอบ :

จำแนกจำเลย-โทษเรียงตัวคดีกรุงไทย ไขปริศนา? ไฉนไม่มีชื่อ“พานทองแท้”

ตลท.ห้าม‘เอคิว’ลูกหนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.ซื้อขายหลักทรัพย์-ยังขายที่ดินใช้หนี้ไม่ได้

‘สมยศ’ขายหุ้น‘เอคิว’ 750 ล.ให้‘เสี่ยโนอาร์-ลูก’ก่อนชิงนายกฯสมาคมบอล

‘พานทองแท้’ให้ถ้อยคำคดีฟอกเงินกรุงไทยแล้ว-‘กาญจนาภา’ขอเลื่อน

‘แม่-สามีกาญจนาภา’รับได้เงิน‘เสี่ยวิชัย’จริง! ดีเอสไอเรียก‘โอ๊ค’แจง 4 มี.ค.

หลักฐานใหม่คดีฟอกเงิน!พบ พนง.บ. พานทองแท้ถูกยืมชื่อซื้อหุ้น ทอท.

คาดสอบปากคำ‘พานทองแท้’คดีฟอกเงิน ก.พ.-ดีเอสไอขีดเส้นปิดคดี เม.ย.นี้

‘พานทองแท้’ขอเลื่อนให้ปากคำคดีฟอกเงินกรุงไทย-ดีเอสไอยันนัดหน้าต้องมา