- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ดูชัด ๆ ก่อนอดีต ส.ส.‘วรสิทธิ์’ ได้หุ้น บ.รับเหมาฯ 30 ล. 8 ปีเสียภาษีกี่บาท?
ดูชัด ๆ ก่อนอดีต ส.ส.‘วรสิทธิ์’ ได้หุ้น บ.รับเหมาฯ 30 ล. 8 ปีเสียภาษีกี่บาท?
ดูชัด ๆ หนังสือแจ้งรายได้-เสียภาษี อดีต ส.ส. ‘วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์’ ลูกชาย ‘เกรียง-รจนา’ ก่อนได้หุ้น บ.รับเหมา ‘กัลป์ตินันท์’ 30 ล้าน ปี’57 ก่อนหน้านี้ 8 ปี เสียภาษีกี่บาท ?
ยังเป็นเงื่อนปมที่สาธารณชนหลายคนสงสัยอยู่ สำหรับกรณีการถือครองหุ้นบริษัท กัลป์ตินันท์ จำกัด ของนายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (บุตรชายนายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต ส.ส.อุบลฯ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับนางรจนา กัลป์ตินันท์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลฯ)
เนื่องจากก่อนหน้าที่จะลงเล่น ‘การเมืองระดับชาติ’ โดยได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อุบลฯ ตั้งแต่ปี 2551 กระทั่งได้รับเลือกอีกครั้งในปี 2554 และพ้นตำแหน่งเมื่อปี 2556 ไม่เคยแจ้งเงินลงทุนแม้แต่แห่งเดียว แต่ปรากฏว่าในช่วงพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อปี 2557 ได้แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า มีเงินลงทุน 1 แห่ง คือ บริษัท กัลป์ตินันท์ฯ โดยถือหุ้นอยู่มูลค่า 30 ล้านบาท
ขณะที่จากการตรวจสอบก่อนหน้านี้พบว่า นายวรสิทธิ์ เคยถือครองหุ้นเกี่ยวกับธุรกิจตระกูล ‘กัลป์ตินันท์’ อย่างน้อย 2 แห่ง ได้แก่ หจก.อุบลวรสิทธิ์ และบริษัท กัลป์ตินันท์ โดยในส่วนของ หจก.อุบลวรสิทธิ์ฯ ได้เข้าไปถือหุ้นตั้งแต่ก่อตั้ง ก่อนชื่อจะหายไปในช่วงปี 2546 ส่วนบริษัท กัลป์ตินันท์ฯ เข้าไปถือหุ้นตั้งแต่ยังเป็น ‘ด.ช.วรสิทธิ์’ เมื่อปี 2534 จำนวน 10 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2549 ถือหุ้น 5 ล้านบาท และชื่อได้หายไปในช่วงปี 2554
ก่อนที่ปัจจุบันได้กลับมาเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท กัลป์ตินันท์ฯ อีกครั้ง เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2557 จำนวน 3 หมื่นหุ้น (30 ล้านบาท)
(อ่านประกอบ : หุ้น บ.รับเหมา 30 ล.โผล่บัญชีทรัพย์สิน 'วรสิทธิ์'หลังพ้น ส.ส. 1 ปี -'เจ้าตัว' ไม่แจง)
คำถามสำคัญคือ นายวรสิทธิ์ นำเงินจากไหนไปซื้อหุ้นกลับคืนมาอีกครั้ง เนื่องจากในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯต่อ ป.ป.ช. ในช่วงเป็น ส.ส. นับตั้งแต่ปี 2551 (รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช) กระทั่งพ้นตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี เมื่อปี 2557 (รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) นายวรสิทธิ์มีรายได้เฉลี่ยประมาณปีละ 1 ล้านบาท มาโดยตลอด โดยระบุว่าเป็นรายได้จากในส่วนเงินเดือนเพียงอย่างเดียว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบใบเอกสารการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 91) และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายของนายวรสิทธิ์ ที่แจ้งไว้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. (บางปีไม่ได้แจ้ง ภ.ง.ด. 91 แต่แนบมาเพียงแค่หนังสือรับรองการหักษาภี ณ ที่จ่าย เท่านั้น) นับตั้งแต่ช่วงปี 2549-2556 พบรายละเอียด ดังนี้
ในช่วงปี 2549-2550 (สมัยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.อุบลฯ) นายวรสิทธิ์ แนบเอกสารการจ่ายภาษี 2 รอบ ได้แก่ ม.ค.-ธ.ค. 2549 มีรายได้ 305,400 บาท ไม่มีจำนวนเงินภาษีที่หักไว้ และ ม.ค.-5 พ.ย. 2550 มีรายได้ 257,893 บาท ไม่มีจำนวนเงินภาษีที่หักไว้ (ตรงกันกับที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ช่วงดำรงตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2551)
ช่วงปี 2553 (พ้นตำแหน่ง ส.ส. รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี 2554) นายวรสิทธิ์ แจ้งว่า มีรายได้ 1,251,960 บาท (ตรงกันกับที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554) มีภาษีที่หักและนำส่งไว้ 183,588 บาท
ช่วงปี 2554 (พ้นตำแหน่งครบ 1 ปี รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เมื่อปี 2555) แจ้งการเสียภาษีไว้ 2 ช่วง คือ ม.ค.-พ.ค. 2554 มีรายได้ 447,609 บาท ภาษีที่หักและนำส่งไว้ 61,196 บาท และ ส.ค.-ธ.ค. 2554 มีรายได้ 564,136 บาท ภาษีที่หักและนำส่งไว้ 32,415 บาท รวมสองครั้งมีรายได้ 1,459,309 บาท (แต่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ช่วงพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อปี 2555 ว่ามีรายได้ทั้งหมด 1,011,746 บาท)
ช่วงปี 2555 (พ้นตำแหน่ง ส.ส. รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2556) แจ้งการเสียภาษีคือ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2555 มีรายได้ 1,362,720 บาท ภาษีที่หักและนำส่งไว้ 216,838 บาท (ตรงกันกับที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2556)
ช่วงปี 2556 (พ้นตำแหน่งครบ 1 ปี รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2557) แจ้งการเสียภาษีคือ ม.ค.-ธ.ค. 2556 มีรายได้ 1,278,465 บาท ภาษีที่หักและนำส่งไว้ 203,440 บาท (ตรงกันกับที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ช่วงพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อปี 2557)
รวม 8 ปี (นับเฉพาะช่วงที่มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.) มีรายได้ทั้งหมด 5,915,747 บาท เสียภาษีทั้งหมด 697,477 บาท (ดูเอกสารประกอบ)
อย่างไรก็ดีในการตรวจสอบรายได้และการเสียภาษีของนายวรสิทธิ์ครั้งนี้ ไม่สามารถดูรายละเอียดบางรายการได้ เนื่องจากนายวรสิทธิ์ได้แนบเอกสารประกอบบางอย่างไม่ครบถ้วน เช่น ใบ ภ.ง.ด. 91 หรือใบประกอบอื่น ๆ ในบางปี ทำให้สามารถตรวจสอบได้แค่ภาพรวมของรายได้ และการเสียภาษีเท่านั้น
เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงข้างต้น น่าสังเกตว่า นายวรสิทธิ์มีรายได้เฉลี่ยส่วนใหญ่หลังเข้ามาดำรงตำแหน่ง ส.ส. คือประมาณล้านบาทเศษเท่านั้น
แล้วนำเงินที่ไหนไปซื้อหุ้นบริษัท กัลป์ตินันท์ฯ มูลค่ารวม 30 ล้านบาทได้
เพราะต้องไม่ลืมว่า แม้จะได้รับการโอนหุ้นจากบิดา-มารดาด้วยความเสน่หาก็ตาม แต่ก็ต้องแจ้งในส่วนของรายได้กับ ป.ป.ช. ด้วย หรืออาจจะเป็นไปได้ว่านายวรสิทธิ์ลืมกรอกข้อมูลดังกล่าว ?
ขณะที่ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายวรสิทธิ์ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่า นายวรสิทธิ์ ไม่ขอชี้แจง เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว และบางบริษัทก็ปิดทำการไปแล้ว (แต่ไม่ระบุชื่อบริษัท)
อ่านประกอบ :
2 ธุรกิจรับเหมา‘เกรียง-รจนา’เปลี่ยนผู้ถือหุ้น 17 รอบ-ชื่อ รองหน.เพื่อไทย โผล่ ๆ หาย ๆ
เปิดธุรกิจ‘เสี่ยเกรียง-รจนา’เจ้าของ 2 บ.รับเหมา-กวาดงานรัฐ 134 โครงการ 3.5 พันล.
เปิดผู้รับเหมาทำถนนผ่านที่ดิน‘รจนา’ฟันงานเทศบาลอุบลฯ-ท้องถิ่น 70 สัญญารวด
สอบนายกเทศมนตรีอุบลฯ-เมียรอง หน.เพื่อไทย ตัดถนนผ่านที่ดินตัวเอง เสียหาย 19.7 ล.