- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ปลวกขึ้นห้อง'สุขุมพันธ์'!ไขที่มางบ16 ล.ปรับปรุงห้องผู้บริหารกทม. ก่อน 'สตง.'เจอตอ
ปลวกขึ้นห้อง'สุขุมพันธ์'!ไขที่มางบ16 ล.ปรับปรุงห้องผู้บริหารกทม. ก่อน 'สตง.'เจอตอ
"..กลุ่มตรวจสอบการบริหารพัสดุที่ 2 ได้พยายามเข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่ปรับปรุงดังกล่าว โดยได้ประสานกับสำนักเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งได้รับแจ้งว่าต้องอนุญาตจากผู้บริหารก่อน แต่ก็ไม่ได้รับการแจ้งกลับแต่อย่างใด ทำให้การตรวจสังเกตการณ์ไม่อาจทำได้ ซึ่งกลุ่มตรวจสอบการบริหารพัสดุที่ 2 จะประสานสำนักการโยธา หน่วยงานเจ้าของโครงการเพื่อเข้าตรวจสอบอีกครั้ง.."
"ในเรื่องนี้หากเป็นการดำเนินการหาผู้รับเหมาหรือประกวดราคาหลังจากดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงไปแล้วนั้น ย่อมสื่อให้เห็นว่าเป็นเรื่องไม่สุจริต ไม่โปร่งใส เพราะหากเป็นการดำเนินการตามระบบของทางราชการ จะไม่มีการก่อสร้างก่อนจึงประกวดราคาทีหลัง ซึ่งตามความเป็นจริงทำไม่ได้อยู่แล้ว"
คือ คำสัมภาษณ์ของ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2559 ที่ผ่านมา ถึงความคืบหน้าล่าสุดในการตรวจสอบโครงการจ้างปรับปรุงห้องทำงานผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ของ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร วงเงินงบประมาณ 16,500,000 บาท ที่กำลังปรากฎเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้
นายพิศิษฐ์ ยังระบุด้วยว่า "แม้ว่าการดำเนินการก่อนนั้นสามารถทำได้บ้าง แต่ทำได้ในกรณีที่จำเป็นหรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าไม่กระทบการงบประมาณของหน่วยงานราชการที่อาจจะได้ราคาถูกลงจากการแข่งขันของเอกชนหรือผู้รับเหมา นอกจากนี้หากทำโครงการก่อนประกวดราคา อาจจะเข้าข่ายการร่วมกับเอกชนฮั้วประมูล เพราะถือว่าเป็นการกีดกันผู้รับเหมารายอื่น เนื่องจากจะไม่มีการแข่งขันกันอย่างถูกต้อง ที่สำคัญหาก กทม.ให้ข้อมูลว่าไม่ใช่เป็นการดำเนินโครงการเก่าแต่เป็นโครงการใหม่ ก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นการเปิดประกวดราคาซ้ำกันหรือไม่ นอกจากนี้มีความจำเป็นในการก่อสร้างหรือจัดซื้อมากน้อยเพียงใด และราคาวัสดุอุปกรณ์ที่จัดซื้อหรือติดตั้งตามที่ประกาศออกมานั้นเหมาะสมเพียงใด เพราะนั่นอาจจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ซึ่ง สตง.จะดำเนินการหาข้อมูลและตรวจสอบตามหน้าที่ต่อไป"
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงเรื่องนี้สั้นๆ ว่า "โครงการนี้ไม่ใช่แค่ห้องผู้ว่าฯ กทม.แต่รวมถึงห้องทำงานผู้บริหารท่านอื่นด้วย "
ทั้งนี้ เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการฯ นี้ มากขึ้น โดยเฉพาะเหตุผลและความจำเป็นของโครงการ ที่ต้องใช้งบประมาณสูงถึง 16.5 ล้านบาท สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอ ดังนี้
@ ที่มาโครงการ
จากการตรวจสอบข้อมูลของ สำนักข่าวอิศรา พบข้อเท็จจริงดังนี้
1. ในช่วงปลายเดือนมี.ค.2559 กองกลาง สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ขอความอนุเคราะห์ ให้สำนักการโยธา กทม. ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เนื่องจากกองกลางฯ สำรวจพื้นที่ศาลาว่าการฯ กทม. แล้วพบว่า
- แผ่นปูนซีเมนต์และเหล็กเส้นเป็นสนิมหลุดร่วงในห้องน้ำชาย
- ท่อน้ำรั่วไหล ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ ลานจอดรถยนต์ผู้บริหารและภายในห้องอมรพิมาน
2. สำนักงานเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ได้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณห้องทำงานผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซมตามที่ผู้บริหารกทม. สั่งการ พบว่า ต้องดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมห้องเลขานุการและห้องผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากฝ้าเพดานห้องน้ำชายมีน้ำหยดซึ่งติดกับห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม.
3. สำนักการโยธา ได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ภายในศาลาว่าการฯ กทม.ปรากฎ ว่า
- ฝ้าเพดานห้องน้ำชายมีคอนกรีตหลุดร่วงจำนวนมาก พื้นไม้ลามิเนต มีปลวกขึ้น มีน้ำไหลจากพื้น ชั้น 3 ลงมาในห้องน้ำและห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม.
- ห้องน้ำชั้น 2 มีหยดน้ำไหลลงไปถึงฝ้าเพดานห้องน้ำชั้นล่าง
- ห้องเลขานุการผู้ว่าฯกทม. ผนังห้อง ฝ้าเพดาน พื้นไม้มีปลวกขึ้น และขยายไปยังห้องทำงานผู้ว่าฯกทม.
- โถงหน้าลิฟต์ และห้องที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม.ได้รับเสียหายต่อเนื่อง
เบื้องต้น สำนักงบประมาณ กทม. ได้โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 ของสำนักการระบายน้ำ กทม. จำนวน 2 รายการ ไปตั้งรายการจ่ายใหม่ สำนักการโยธา งานสำรวจออกแบบและก่อสร้าง หมวดค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง (ค่าที่ดิน) รายการปรับปรุงห้องทำงานผู้บริหาร กทม. เป็นเงิน 16,550,000 บาท
จากการตรวจใบประมาณราคากลางของสำนักการโยธา กทม. ซึ่งคำนวณ ณ วันที่ 25 พ.ค.2559 และสำนักการโยธา ได้ดำเนินการประกาศราคากลางทางเว็บไซต์ของสำนักการโยธาแล้ว ราคากลาง 16,500,000 แยกออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ค่างานต้นทุน (คำนวณในราคาทุน) ประกอบด้วยงานปรับปรุงห้องโถง, ห้องอัมรินทร์, หน้าห้องผู้ว่าฯ กทม., ห้องทำงานผู้ว่าฯกทม. , ห้องทำงานเจ้าหน้าที่ สผว., ห้องประชุมผู้ว่าฯกทม. , ห้องเลขานุการผู้ว่าฯกทม. ,ห้องเตรียมอาหาร, ห้องน้ำ , โถงลิฟต์และโถงบันได , ห้องทำงานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.
ค่าก่อสร้าง 13,275,826.86 บาท
ส่วนที่ 2 ครุภัณฑ์จัดซื้อหรือสั่งซึ้อ (โต๊ะ, เก้าอี้, ทีวี, เครื่องเสียง, เครื่องรับสัญญาณ, ดาวเทียม, ตู้เย็น )
ค่าก่อสร้าง 2,207,955.70 บาท
ส่วนที่ 3 ค่าใช้จ่ายพิเศษตามข้อกำหนดฯ
ค่าก่อสร้าง 1,030,158 บาท
รวมเป็นเงิน 16,513,940.56 บาท
@ ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สตง.
ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงจาก สตง. ได้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า ภายหลังจากที่ ผู้ว่าฯ สตง. ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการนี้ กลุ่มตรวจสอบการบริหารพัสดุที่ 2 ได้สอบถามเจ้าหน้าที่สำนักการโยธาเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฯ แจ้งว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ และสำนักการโยธากรุงเทพมหานคร ยังมิได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างแต่อย่างใด และมีข้อสังเกตที่น่าสนใจอยู่ที่ เหตุผลการดำเนินการกับราคาค่าใช้จ่ายไม่สัมพันธ์กัน
อย่างไรก็ดี กลุ่มตรวจสอบการบริหารพัสดุที่ 2 ได้พยายามเข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่ปรับปรุงดังกล่าว โดยได้ประสานกับสำนักเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งได้รับแจ้งว่าต้องอนุญาตจากผู้บริหารก่อน แต่ก็ไม่ได้รับการแจ้งกลับแต่อย่างใด ทำให้การตรวจสังเกตการณ์ไม่อาจทำได้ ซึ่งกลุ่มตรวจสอบการบริหารพัสดุที่ 2 จะประสานสำนักการโยธา หน่วยงานเจ้าของโครงการเพื่อเข้าตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนเอกสารส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ แบบรูปรายการ เอกสารขออนุมัติจัดจ้าง เบื้องต้น กลุ่มตรวจสอบการบริหารพัสดุที่ 2 ได้ทำการประสานกับสำนักการโยธาไว้แล้ว ซึ่งทางสำนักการโยธาจะรวบรวมจัดส่งให้โดยเร็วต่อไป
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการจ้างปรับปรุงห้องทำงานผู้บริหารกทม. วงเงินงบประมาณ 16,500,000 บาท ระหว่าง สตง. กับ กทม. ซึ่งเป็นโครงการล่าสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 หน่วยงาน เคยเปิดศึกการตรวจสอบมาแล้วรอบหนึ่ง ในโครงการประดับไฟกทม. 39.5 ล้านบาท ซึ่งมีบทสรุปสำคัญอยู่ที่ สตง. ได้ชี้มูลความผิด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ กทม. จากการกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่ถูกต้อง และขั้นตอนการจัดจ้างโครงการส่อพฤติการณ์ฮั้วประมูลเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐพ.ศ. 2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว
และส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. สอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่ในขณะนี้!
ส่วนผลสอบโครงการใหม่นี้ บทสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร นับจากนี้โปรดติดตามอย่างใกล้ชิด...