- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ครบทุกภาค! ป.ป.ช.เชือดล็อตใหญ่นักการเมือง-ขรก.ท้องถิ่นทุจริต 12 จังหวัด
ครบทุกภาค! ป.ป.ช.เชือดล็อตใหญ่นักการเมือง-ขรก.ท้องถิ่นทุจริต 12 จังหวัด
โดนครบทุกภาค! ป.ป.ช.เชือดล็อตใหญ่นักการเมือง-ขรก.ท้องถิ่น เอี่ยวคดีทุจริต 12 จังหวัด ‘อุตรดิตถ์’ นายกเทศมนตรี-พวก ฮั้วเอกชนปรับปรุงเตาเผาศพ ‘โคราช-นครสวรรค์’ จังหวัดละ 2 คดี
ท่ามกลางกระแสร้อนในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายหลัง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เสนอแนวทางถอนฟ้องคดีต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมทั้งทำหนังสือถึงคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ ประเมินว่า สามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากนายสมชาย วงศ์สวัดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ทำหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามาในคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551
ซึ่งแนวทางนี้ถูกหลายฝ่ายในสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันว่า อาจทำไปเพื่อช่วยเหลือในคดีดังกล่าว เนื่องจาก พล.ต.อ.วัชรพล เคยเป็นอดีต ‘มือขวา’ พล.ต.อ.พัชรวาท ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มาก่อน และก่อนหน้ามาดำรงตำแหน่งประธาน ป.ป.ช. เคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง) หรือรองเลขาฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ ‘บูรพาพยัคฆ์’ อีกด้วย
โดยคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมาย ยืนยันว่า สามารถทำได้ตามมาตรา 35 ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ต้องอยู่ในดุลยพินิจของศาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ ระบุชัดเจนว่า ไม่สมควรถอนฟ้อง เพราะอาจทำให้เข้าข่ายฐานกระทำผิดทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการได้ เหมือนกับกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดที่ 2 ที่ขึ้นเงินค่าตอบแทนให้ตนเอง กระทั่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกได้ (แต่รอลงอาญา 2 ปี) ขณะที่กรรมการ ป.ป.ช. บางคน รวมถึงอดีตกรรมการ ป.ป.ช. ที่เคยชี้มูลความผิดในคดีนี้ถึงกับ ‘ส่ายหัว’ ในแนวทางดังกล่าว
(อ่านประกอบ : เบื้องหลัง! ค้าน ปธ.ป.ป.ช.ถอนฟ้องคดีสลายพธม.-ระวังซ้ำรอยชุดขึ้นเงินเดือน?)
อย่างไรก็ดีไม่ว่าปัญหาภายในจะคุกรุ่นขนาดไหน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงพิจารณาคดีต่าง ๆ โดยในเดือน เม.ย. 2559 มีมติชี้มูลความผิดนักการเมืองและข้าราชการส่วนท้องถิ่นจำนวนหลายสิบราย ใน 12 จังหวัด
มีคดีอะไรบ้าง ? สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมไว้ ดังนี้
1.จังหวัดอุตรดิตถ์ : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด (1) นางประกายแก้ว รัตนนาคะ นายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ (2) นายพรชัย เอื้อประเสริฐ เทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ (3) นางสาววสมลหรือญาณิศา เทียมถนอม รองปลัดเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ (4) นายสมพงษ์ ยอดเมือง ผู้อำนวยการกองช่าง (5) สิบเอกอำพล ม่วงชู ผู้อำนวยการ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม (6) นายวรฤทธิ์ แก้วแสง นักบริหารงานออกแบบและก่อสร้าง 7 (7) นายครรชิต ชำนาญ วิศวกรโยธา 6ว (8) นายดำรง บดีรัฐ นายช่างโยธา 5 (9) บริษัท วิวดอย จำกัด (10) นางสาวพชร จิวธนณิหรือจันทร์จิรา วิทิตปริวรรต กรรมการผู้จัดการบริษัท วิวดอย จำกัด (11) หจก. กิจจาคอนซัลติ้ง-เอ็นจิเนียร์ (12) นายกิจจา วิศวกรนันท์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก. กิจจาคอนซัลติ้งฯ
ฐานสมยอมกันในการประกวดราคาจ้างเหมาปรับปรุงเตาเผาศพระบบไร้ควัน ไร้กลิ่น ให้กับวัดที่มีเมรุอยู่แล้ว จำนวน 8 วัด กำหนดราคากลางโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมและก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) นางประกายแก้วฯ มีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 73(1) แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(2) นายพรชัยฯ มีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 11, 12(2) แห่งพระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542
(3) นางสาววสมลฯ และสิบเอกอำพลฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามมาตรา 157(3) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(4) นายสมพงษ์ฯ และนายดำรงฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
(5) นายสรฤทธิ์ฯ และนายครรชิตฯ มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญา ตามมาตรา 11, 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
(6) บริษัท วิวดอย จำกัด, นางสาวพชรฯ กรรมการผู้จัดการบริษัท วิวดอย จำกัด, หจก.กิจจาคอนซัลติ้ง เอ็นจิเนียร์ และนายกิจจาฯ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก. กิจจาคอนซัลติ้งฯ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามมาตรา 11, 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ประกอบมาตรา 86(4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
2. จังหวัดเชียงใหม่ : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด (1) นายวิรัตน์ อินต๊ะปา นายก อบต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง (2) นายตะวัน อินต๊ะวงค์ ปลัดอบต.น้ำบ่อหลวง (3) ว่าที่ร้อยตรีพิทยา เรือนน้อย นักวิเคราะห์นโยบายและแผนระดับ 5 รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานปลัด (4) นางสาวสุชญา อภิญญาวิศาล บุคลากร 4
ฐานเบิกจ่ายค่าอาหารและค่าเช่าที่พักโครงการอบรมและศึกษาดูงานเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารให้แก่คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงานส่วนตำบลและผู้นำชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2555 เป็นเท็จ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) นายวิรัตน์ฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยต่อสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามาตรา 92(5) แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 151(6) และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(2) นายตะวันฯ และว่าที่ร้อยตรีพิทยาฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญามาตรา 157 และ 162(1), (2)(7) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(3) นางสาวสุชญาฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
3. จังหวัดพิษณุโลก : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด (1) นายเนตร สังข์เมือง นายก อบต.ดินทอง อ.วังทอง (2) นายณรงค์ฤทธิ์ คล้ายทอง ปลัด อบต.ดินทอง ฐานจัดทำโครงการเพื่อใช้จ่ายเงินกองทุนประกันสุขภาพโดยมิชอบ มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการที่จัดทำและเบิกค่าใช้จ่ายในโครงการเป็นเท็จ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) นายเนตรฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 151, 152(8) และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(2) นายณรงค์ฤทธิ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 151, 157 และ 162 (1), (4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
4. จังหวัดนคสวรรค์ : จำนวน 2 คดี
คดีที่หนึ่ง ชี้มูลความผิด (1) นายชัยวุธ จำปาเกตกุล นายก อบต.มาบแก อ.ลาดยาว (2) นายภาณุมาศหรือธัญเตชิษฐ์ ภู่พุ่ม เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักปลัด (3) นางณัฐญาณ์ คล้ายเดช ปลัดอบต. มาบแก (4) นายวิรัตน์ ปัทมาลัย หัวหน้าส่วนโยธา ฐานเบิกจ่ายเงินโครงการฝึกอบรมทบทวนอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของ อบต.มาบแก ปี 2555 เป็นเท็จ ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช. มีมติว่า
(1) นายชัยวุธฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(2) นายภาณุมาศฯ, นางณัฐญาณ์ฯ และนายวิรัตน์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง
คดีที่สอง ชี้มูลความผิด นางภัคชัญญา ซื่อสัตย์ศักดิ์ ประธานสภา อบต.สร้อยทอง อ.ตาคลี ฐานละเว้นไม่บรรจุญัตติเรื่องร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 เข้าระเบียบวาระการประชุมสภา เป็นเหตุให้สภาไม่สามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ได้
ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นางภัคชัญญาฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลย ไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
5. จังหวัดนครราชสีมา : จำนวน 2 คดี
คดีที่หนึ่ง ชี้มูลความผิด (1) ดาบตำรวจตึ๋ง พึ่งกิ่ง นายกเทศมนตรีตำบลโนนไทย อ.โนนไทย (2) นายสุวโรจน์ คงสงวนวงษ์ หรือจำนง ดีเดิม ปลัดเทศบาลตำบลโนนไทย ฐานไม่ควบคุมดูแลโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ ปล่อยให้ผู้รับจ้างนำดินที่ขุดลอกไปถมที่อื่น ซึ่งมิใช่สถานที่ที่กำหนดให้ทิ้งดิน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) ดาบตำรวจตึ๋งฯ มีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ ตำแหน่งหรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(2) นายสุวโรจน์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง
คดีที่สอง ชี้มูลความผิด (1) สิบเอกปรวิทย์หรือสุดสดี วงศ์หาญ รองนายกเทศมนตรีตำบลโนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง (2) นายเชิงชาย บุญช่วยก้าว ปลัดเทศบาลตำบลโนนสมบูรณ์ (3) นายรัตนชัย บุตรไทย นายช่างโยธา 5 (4) นายชูศักดิ์ สายเนตร นายช่างโยธา 1 ผู้ควบคุมงาน (5) นางศิณีนาฎ ปัดไธสง เจ้าพนักงานทะเบียน กรรมการตรวจการจ้าง (6) นางชนิศา เพ็งลาภ นักวิชาการศึกษา 3 กรรมการตรวจการจ้าง (7) นายทนงศักดิ์ เฝ้ากระโทก นักวิชาการประชาสัมพันธ์ 3 กรรมการตรวจการจ้าง (8) นายวัง ใหญ่กระโทก ตัวแทนชุมชน กรรมการตรวจการจ้าง (9) นางลำดวน ประการโพธิ์ ตัวแทนชุมชน กรรมการตรวจการจ้าง (10) นายเจริญ ศรแสง ตัวแทนชุมชน กรรมการตรวจการจ้าง (11) หจก. ตักทอง 49 โดยนายนิทัศน์ ทองกูล หุ้นส่วนผู้จัดการ
ฐานประมาณการโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำถนนสุขาภิบาล 3 เอื้อประโยชน์ให้ผู้รับจ้างและควบคุมงานก่อสร้างปรับปรุงศาลาประชาคมและก่อสร้างขยายผิวจราจรคอนกรีตเหล็กถนนร่วมมิตรไม่เป็นไปตามแบบแปลน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) สิบเอกประวิทย์ฯ มีมูลความผิดฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญา ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(2) นายเชิงชายฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(3) นายรัตนชัยฯ และนายชูศักดิ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 157 และ 162 (1), (4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(4) นางศิณีนาฎฯ, นางชนิศาฯ และนายทนงศักดิ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 157 และ 162 (4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(5) นายวังฯ ,นางลำดวนฯ และนายเจริญฯ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดตามมาตรา 157 และ 162 (4) ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(6) หจก. ตักทอง 49 โดยนายนิทัศน์ ทองกูล หุ้นส่วนผู้จัดการ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานกระทำความผิดตามมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
6. จังหวัดมหาสารคาม : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด นายจตุสิทธิ์ ลางคุลานนท์ นายกเทศมนตรีตำบลเชียงยืน อ.เชียงยืน ฐานกลั่นแกล้งไม่พิจารณาเลื่อนและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรโยธาระดับ 4 ทั้งที่มีคุณสมบัติครบถ้วน
ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายจตุสิทธิ์ฯ มีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
7. จังหวัดขอนแก่น : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด (1) นายจรัญ สิงห์สกล นายก อบต.กุดขอนแก่น อ.ภูเวียง (2) นายเสกสรร อดทน ปลัดอบต.กุดขอนแก่น (3) นายโกเมศ เจริญสุข เจ้าหน้าที่พัสดุ ฐานดำเนินการจ้างเหมาปรับปรุงซ่อมแซมแพเหล็กติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าโดยวิธีพิเศษ ทั้งที่ผู้รับจ้างได้ดำเนินการเสร็จแล้ว ไม่เป็นไปตามระเบียบพัสดุและจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้าง ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) นายจรัญฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 151, 157 และ 162 (4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
(2) นายเสกสรรฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 151, 157 และ 162 (4) รวมทั้งมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
(3) นายโกเมศฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญา ตามมาตรา 151, 157, 162 (4) และ 264 รวมทั้งมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
8. จังหวัดศรีสะเกษ : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด (1) นายประเชิญ พิชัย นายก อบต.โนนค้อ อ.โนนคูณ (2) นางเพ็ญศรีหรือเพ็ญนภา สุทธาคง หรือสุทธาคงคูณธนา รองนายก อบต.โนนค้อ (3) นางณัฐภรณ์ โคตรธาวิน ปลัดอบต.โนนค้อ (4) นางนงนิตย์หรือนันทวรรณ ประทีปทองหรือแก่นสาร เจ้าหน้าที่บริหารงานการเงินและบัญชี 4 (5) นายอนุพนธ์ พวงบุตร เจ้าหน้าที่บริหารงานช่าง 4 (6) นางเพ็ญนภา ชาญประดิษฐ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก. สุรชาติก่อสร้าง (7) นายแสวง พรมมาสุข ผู้รับมอบอำนาจจาก หจก. สุรชาติก่อสร้าง (8) นางสาวจุรีรัตน์หรือภัทราวดี คำศรี หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก. โพธิ์ธงกิตติก่อสร้าง (9) หจก. สรุชาติก่อสร้าง (10) หจก.โพธิ์ธงกิตติก่อสร้าง (11) นายสมาน ทำทวี ตัวแทนชุมชน (12) นายไถ่ จันทง ตัวแทนชุมชน
ฐานจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารเก็บพัสดุไม่เป็นไปตามระเบียบโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้เสนอราคารายหนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) นายประเชิญฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 10(9), 12 และ 13(10) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 รวมทั้งมาตรา 151 และ 157 ประกอบมาตรา 90(11) แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(2) นางเพ็ญศรีฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 12 และ 13 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 รวมทั้งมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(3) นางณัฐภรณ์ฯ นางนงนิตย์ฯ และนายอนุพนธ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 รวมทั้งมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(4) นางเพ็ญนภาฯ, นายแสวงฯ, นางสาวจุรีรัตน์ฯ, หจก. สุรชาติก่อสร้าง, หจก.โพธิ์ธงกิตติก่อสร้าง, นายสมานฯ และนายไถ่ฯ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
9. จังหวัดร้อยเอ็ด : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด นางรัชนี ไชยโส นายก อบต.ภูเงิน อ.เสลภูมิ ฐานเรียกรับเงินจากพนักงานส่วนตำบลและพนักงานจ้างเพื่อแลกกับการอนุมัติเบิกจ่ายเงินและสั่งจ่ายเช็คค่าประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) ประจำปีงบประมาณ 2554
ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นางรัชนีฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 149(12) และ 157 ตามประมวลกฎหมายอาญา
10. จังหวัดนครพนม : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด (1) นายประสิทธิ์ชัย แก้วดวงตา นายก(ประธานกรรมการบริหาร) อบต.นามะเขือ อ.ปลาปาก (2) ส.ต.ท. สมศักดิ์ เลิศสงคราม ปลัดอบต.นามะเขือ (3) นายสิริพงษ์ หาวงค์ กรรมการบริหาร (4) นายสนาม ทุมกิ่ง กรรมการบริหาร (5) นายประพันธ์ เหมเมือง หัวหน้าส่วนโยธา (6) นายนิยม บุญวงค์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก. บุญวงค์ก่อสร้าง
ฐานแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการปรับปรุงและซ่อมแซมถนนดินใหม่ ม. 8 และม. 11 โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ และตรวจรับงานทั้งที่ไม่ถูกต้องตามแบบรูปรายการที่กำหนด ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) นายประสิทธิ์ชัยฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 151 และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(2) ส.ต.ท. สมศักดิ์ฯ และนายประพันธ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(3) นายสิริพงษ์ฯ และนายสนามฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(4) นายนิยมฯ มีมูลความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
11. จังหวัดสุพรรณบุรี : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด (1) นายประคอง ป้อมสถิต นายก(ประธานกรรมการบริหาร) อบต.ดอนมะสังข์ อ.เมือง (2) นายบุญเหลือ พลายสถิต กรรมการบริหารในฐานะกรรมการตรวจการจ้าง (3) นางสาวปราณีหรือปารณีย์ เตียบฉายพันธุ์ หัวหน้าส่วนโยธาในฐานะผู้ควบคุมงานและกรรมการตรวจการจ้าง
ฐานตรวจรับและเบิกจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างถนนดินลงลูกรัง ม. 2 ทั้งที่งานก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลนและมีส่วนได้ส่วนเสียโดยอ้อมในสัญญาดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า
(1) นายประคองฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 151 และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(2) นายบุญเหลือฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(3) นางสาวปราณีฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
12. จังหวัดกระบี่ : จำนวน 1 คดี
ชี้มูลความผิด นายวิรัตน์ ปาไหน นายก อบต.คลองยาง อ.เกาะลันตา ฐานเรียกรับเงินเพื่อตอบแทนในการอนุมัติเบิกจ่ายค่าจ้างตามสัญญาโดยเร็ว
ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามมาตรา 149 และ 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งหมดคือคดีความทีเกี่ยวข้องกับนักการเมือง-ข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีทั้งนายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และข้าราชการระดับสูงในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชนที่เกี่ยวข้อง จำนวนรวมหลายสิบราย
แต่หากนับคดีท้องถิ่นที่อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง-ไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. ที่มีจำนวนหลายพันคดี ถือว่าเป็นเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น ?