ล้วงลึกรายได้พันล.!บ.ทายาทเลนโซ่ กวาดงานรัฐ 48 ล.ก่อนซิ่งเบนซ์มรณะ

ล้วงลึกธุรกิจ บมจ.เลนโซ่ คอร์ปอร์เรชั่น คู่สัญญาขายสารเคมี องค์การเภสัชกรรม -โรงงานยาสูบ 18 สัญญา 48 ล้าน ก่อนทายาทซิ่งเบนซ์คร่าชีวิต2นิสิตป.โท

จากข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอไปแล้ว สาธารณชนคงรับทราบกันแล้วว่า นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ที่ขับรถเบนซ์ ทะเบียน ษง 3333 พุ่งชนรถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า บนถนนพหลโยธิน ส่งผลทำให้ 2 นักศึกษาปริญญาโท เสียชีวิตสองราย เมื่อวันที่ 13 มี.ค.59 ที่ผ่านมา และล่าสุดกำลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 

เป็นทายาทนักธุรกิจกลุ่ม “เลนโซ่กรุ๊ป” เจ้าของธุรกิจเคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งในอดีตยังเคยเป็นผู้ประกอบการโทรคมนาคม โดยเฉพาะวิทยุติดตามตัว (เพจเจอร์) อีซี่คอลล์

ปัจจุบันปรากฎรายชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทธุรกิจ 15 แห่ง รวมวงเงินทุนจดทะเบียนมากกว่าพันล้านบาท 

ขณะที่ บริษัท เลนโซ่ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งนายเจนภพ วีรพร ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 รวมกับ นางสาว เจณณิช วีรพร คนละ 8,600,000 หุ้น มูลค่า 86,000,000 บาท เป็นธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนมากที่สุดจำนวน 550 ล้านบาท และแจ้งรายได้ผลประกอบการล่าสุด จำนวน 1,289,687,510.38  บาท 

(อ่านประกอบ:โกยรายได้พันล.!เจาะขุมธุรกิจทายาท“เลนโซ่กรุ๊ป”ซิ่งเบนซ์คร่าชีวิต2นิสิตป.โท)

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบัน บริษัท เลนโซ่ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาค้าขายสารเคมีกับหน่วยงานราชการ 2 แห่ง คือ องค์การเภสัชกรรม และโรงงานยาสูบ  จำนวน 18 สัญญา รวมวงเงินกว่า 48,343,242.43 บาท

ที่มา : ศูนย์ข่าวสืบสวน, สำนักข่าวอิศรา รวบรวม 

ส่วนความคืบหน้าในส่วนคดีความนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ต.ท.สมศักดิ์ พลพันขาง รองผกก.สอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา เข้าสอบปากคำและแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต่อนายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี หลังจากขับรถเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ษง-3333 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถฟอร์ด เฟียสต้า สีเทา ทะเบียน ฆย 6911 กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้นิสิตปริญญาโท มจร.ทั้ง 2 คน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 มีนาคม

"วันนี้มาแจ้งข้อหาแก่นายเจนภพ เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งนายเจนภพก็ให้การรับสารภาพ โดยผู้ต้องหามีสติ พูดคุยได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เนื่องจากคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนจึงไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนการสอบปากคำพยานในเหตุการณ์มีความคืบหน้าไปมาก ผู้ที่โพสต์คลิปเหตุการณ์ก็ได้ติดต่อเพื่อเข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งภายหลังจากเห็นคลิปเหตุการณ์ค่อนข้างยืนยันชัดในพฤติการณ์ของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน โดยทางตำรวจค่อนข้างมีพยานหลักฐานแน่นหนาในการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ" พ.ต.ท.สมศักดิ์ กล่าว 

พ.ต.ท.สมศักดิ์ ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้เดินทางมาพบนายเจนภพตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่นายเจนภพอยู่ในห้อง ไอซียู ทำให้ไม่สามารถสอบปากคำได้ ส่วนประเด็นที่สังคมสงสัยว่านายเจนภพดื่มสุรามาหรือไม่นั้น ยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุผู้ต้องหาไม่มีอาการมึนเมา หรือมีกลิ่นแอลกอฮอล์ ส่วนประเด็นสงสัยเรื่องนายเจนภพเคยขับรถประสบอุบัติเหตุมาหลายครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาข้อมูลอยู่เช่นกัน ต้องขอเวลาทำงาน แต่จะเร่งรัดทำให้เร็วที่สุด 

ขณะที่ พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุขับขี่รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ป้ายทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถ 2 นักศึกษาปริญญาโทมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ก่อนไฟคลอกเสียชีวิต บนถนนพหลโยธิน ขาออก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 52-53 อ.บางปะอินจ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ได้มีการประชุมพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับรายละเอียดคดี ได้มีการสอบปากคำแพทย์ที่ทำการรักษาตัว นายเจนภพ ที่ รพ.บางปะอิน และ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท เกี่ยวกับการรักษาอาการ

ส่วนประเด็นที่ประชาชนสงสัยว่า ทำไมไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ขณะเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุรินทร์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รายงานว่า ได้ขอตรวจวัดแอลกอฮอล์ นายเจนภพ แล้ว แต่ทางผู้ต้องหาได้ปฏิเสธการตรวจ ซึ่งถือว่าเป็นผลร้ายของผู้ต้องหา แม้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธแต่พนักงานสอบสวน สามารถดำเนินคดีได้ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก

ล่าสุด พนักงานสอบสวน ได้หลักฐานใหม่เป็นคลิปวงจรปิด รถเบนซ์แหกด่านพุ่งชนไม้กัน ที่ด่านพระรามที่ 4 ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นนายเจนภพ หรือไม่ หลังในโลกออนไลน์ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่บันทึกภาพขณะรถเบนซ์ หมายทะเบียน ษง-3333 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถคันเดียวกันที่ขับขี่โดยนายเจนภพ วีรพร  ขับแหกด่านทางด่วนพระราม 4 ชนไม้กั้น ช่องอีซี่พาสไปโดยไม่มีท่าทีที่จะหยุดรถ ลงมาดูความเสียหาย แต่อย่างใด (อ้างอิงข้อมูลข่าวความคืบหน้าคดีจาก ผู้จัดการออนไลน์ และไอ.เอ็น.เอ็น)