- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- 10 ปี โกย 4,090 ล้าน ถุงเงิน 'จีทีเอช' ก่อนแพแตก!
10 ปี โกย 4,090 ล้าน ถุงเงิน 'จีทีเอช' ก่อนแพแตก!
"..ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ปี 2557 ระบุว่ามีรายได้รวม 833,158,091 บาท ในจำนวนนี้ เป็นรายได้จากการผลิตภาพยนตร์ 493,320,407 บาท รายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 35,323,737 บาท รายได้จากการรับจ้างผลิตและบริการ 257,970,241 บาท รายได้จากการขายสินค้า 22,876,298 บาท มีรายจ่ายรวม 651,423,393 บาท กำไรสุทธิ 146,024,878 บาท.."
มีการตั้งโต๊ะเปิดแถลงข่าว "ปิดตัวบริษัท" อย่างเป็นทางการ ไปเมื่อวันที่ 13 พ.ย.2558 ที่ผ่านมา สำหรับค่ายหนังอารมณ์ดี "จีทีเอช"
โดยมีเหตุผลสำคัญมาจาก ฝ่ายไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (จีทีเอช เกิดจากการรวมตัวของสามหุ้น คือ GMM (จีเอ็มเอ็ม) + Tai Entertainment (ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์) + Hub Ho Hin (หับโห้หิ้น)) มีความประสงค์จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่หุ้นส่วนมองไม่ตรงกัน โดยหับโห้หิ้นเห็นว่ายังไม่พร้อม ขณะที่แกรมมี่มองเห็นข้อดีทั้งสองฝ่าย แต่ก็หาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจแยกทางกัน!
ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงของการแยกทางกันครั้งนี้จะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงสำคัญประการหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ในขณะนี้ คือ นับตั้งแต่จดทะเบียนตั้งบริษัทฯ เมื่อเดือนเมษายน 2547 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีรายได้รวมกว่า 4,090 ล้านบาท
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท จี เอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2547 ทุนปัจจุบัน 300 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 92/11 ซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์ ผลิต สร้าง จัดจำหน่าย
ปรากฎชื่อ นางสาวบุษบา ดาวเรือง ,นางจิราภรณ์ รุ่งศรีทอง, นายปรีย์มน ปิ่นสกุล, นางสาวสุวิมล จึงโชติกะพิศิฐ , นายวิสูตร พูลวรลักษณ์ , นางจงกลนาฎ พูลวรลักษณ์ , นางสาวจินา โอสถศิลป์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 28 เมษายน 2558 บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 15,299,998 หุ้น มูลค่า 114,749,985 บาท บริษัท หับโห้หิ้น บางกอก จำกัด ถืออยู่เป็นอันดับ 2 จำนวน 4,169,999 หุ้น มูลค่า 27,438,593.42 บาท คนในตระกูลพูลวรลักษณ์ ถือหุ้นร่วมอยู่เป็นอันดับ 3 ส่วนนาย จิระ มะลิกุล รวมถือหุ้นอยู่ด้วยจำนวน 400,000 หุ้น มูลค่า 4,000,000 บาท
ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ปี 2557 ระบุว่ามีรายได้รวม 833,158,091 บาท ในจำนวนนี้ เป็นรายได้จากการผลิตภาพยนตร์ 493,320,407 บาท รายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 35,323,737 บาท รายได้จากการรับจ้างผลิตและบริการ 257,970,241 บาท รายได้จากการขายสินค้า 22,876,298 บาท มีรายจ่ายรวม 651,423,393 บาท กำไรสุทธิ 146,024,878 บาท
สำหรับรายได้ย้อนหลังไปนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ เมื่อปี 2557 มีดังนี้
ปี 2556 แจ้งว่ามีรายได้รวม 632,391,682 บาท รวมรายจ่าย 518,140,733 บาท กำไรสุทธิ 83,890,457 บาท
ปี 2555 แจ้งว่ามีรายได้รวม 391,020,208 บาท รวมรายจ่าย 356,411,335 บาท กำไรสุทธิ 26,140,309 บาท
ปี 2554 แจ้งว่ามีรายได้รวม 360,492,132 บาท รวมรายจ่าย 302,196,849 บาท กำไรสุทธิ 46,043,262 บาท
ปี 2553 แจ้งว่ามีรายได้รวม 294,981,486 บาท รวมรายจ่าย 294,720,153 บาท กำไรสุทธิ 201,950 บาท
ปี 2552 แจ้งว่ามีรายได้รวม 383,590,407 บาท รวมรายจ่าย 337,065,835 บาท กำไรสุทธิ 35,378,861 บาท
ปี 2551 แจ้งว่า มีรายได้รวม 323,257,445 บาท รวมรายจ่าย 300,810,412 บาท กำไรสุทธิ 13,990,574 บาท
ปี 2550 แจ้งว่ามีรายได้รวม 321,637,211 บาท รวมรายจ่าย 296,441,025 บาท กำไรสุทธิ 18,611,344 บาท
ปี 2549 แจ้งว่า มีรายได้รวม 201,482,447 บาท รวมรายจ่าย 216,358,605 บาท ขาดทุนสุทธิ 14,876,158 บาท
ปี 2548 แจ้งว่า มีรายได้รวม 219,879,018 บาท รวมรายจ่าย 237,888,628 บาท ขาดทุนสุทธิ 18,009,610 บาท
ปี 2547 แจ้งว่า มีรายได้รวม 128,289,879 บาท รวมรายจ่าย 120,666,091 บาท กำไรสุทธิ 5,228,709 บาท
หากนับรวมเฉพาะรายได้รวมตั้งแต่ปี 2547 -2557 รวมระยะเวลา 10 ปี อยู่ที่ ตัวเลข 4,090,180,006 บาท
สำหรับ บริษัท ไท เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ที่ถูกระบุว่า เป็นต้นในการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ นั้น จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2529 ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 390/31 ถนนสุขุมวิท 18 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจผลิตภาพยนตร์และวิดีทัศน์
ปรากฎชื่อ นาย วิสูตร พูลวรลักษณ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับ "จีทีเอช" อีกแง่มุมหนึ่ง ก่อนประกาศปิดตัวบริษัทเป็นทางการ
แพแตกแยกย้ายกันไปทำงานตามความต้องการของตัวเอง!