- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- จากปิดช่องแดงถึงบุกโบนันซ่า!จับตารัฐบาลงัด"ไม้ตาย"สยบกลุ่มต้าน
จากปิดช่องแดงถึงบุกโบนันซ่า!จับตารัฐบาลงัด"ไม้ตาย"สยบกลุ่มต้าน
“…มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ เลิกใช้ “กฎอัยการศึก” เตรียมงัด “มาตรา 44” ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่ให้อำนาจล้นฟ้าแก่ “หัวหน้า คสช.” มาใช้แทน เพื่อเตรียมกำราบ “คลื่นใต้น้ำ” สยบทุกความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มต้าน” ให้อยู่หมัด...”
สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มกลับเข้าสู่ความร้อนแรงตามอุณหภูมิ “เดือนเมษา” อีกครั้ง!
แม้ว่าช่วงก่อนหน้านี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเริ่มผ่อนปรน ปล่อยให้มีการวิพากษ์วิจารณ์แบบ “ลูบหน้าปะจมูก” ได้อยู่บ้าง แต่หากใครมาแรงแบบ “เชือดเนื้อเถือหนัง” ก็เรียกไป “ปรับทัศนคติ” ทั้งทางแจ้ง-ทางลับแทบจะทันที
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในห้วงปลายเดือนมีนาคม-ปัจจุบัน ปรากฏข่าวที่มี “นัยยะ” แฝงเร้นไปในทาง “กระชับพื้นที่” คนเสื้อแดง-กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อยู่อย่างน้อย 3-4 ข่าวด้วยกัน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ประมวลภาพให้เห็นกันชัด ๆ ดังนี้
เริ่มจากมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ให้ “พีซทีวี” และ “ทีวี 24” ช่องโทรทัศน์ของคนเสื้อแดง งดออกอากาศ 7 วัน เนื่องจากมีหลายรายการที่ออกอากาศแล้วเข้าข่ายยั่วยุ ขัดต่อประกาศของ คสช. โดยหนึ่งในรายการเหล่านั้นมี “ประธานตู่” จตุพร พรหมพันธ์ และ “เลขาฯเต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นพิธีกรอยู่ด้วย
ร้อนถึงคู่หู่ “ตู่-เต้น” ต้องรีบออกตัวชี้แจงว่า ระดับความเข้มข้นในรายการของทั้ง 2 ช่อง เมื่อเทียบกับช่องอื่นที่มีความร้อนแรงกว่า แต่กลับถูกปิดฝ่ายเดียว จึงเชื่อว่าน่าจะมี “ฉากหน้า-เบื้องหลัง” กดดันมติ กสท. อย่างแน่นอน
ทำให้หลายฝ่ายเคลือบแคลงสงสัยว่า สาเหตุที่แท้จริงของการสั่งปิด “ช่องประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ” ของคนเสื้อแดง เกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ ?
พร้อม ๆ กันกับกรณี “พระครูวินัยธร (พชร) ฐานกโร” หรือพระอาจารย์เพชร เจ้าอาวาสวัดประยงค์กิตติวนาราม เขตหนองจอก กทม. เกจิชื่อดัง และมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ “จตุพร” เป็นอย่างดี สึกจากความเป็นพระเสียแล้ว
ท่ามกลางเสียงซุบซิบที่ว่าพระรูปนี้เบื้องหลังแล้วเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ “พีซทีวี”
สำหรับ “พระอาจารย์เพชร” นั้น มีชื่อเสียงอยู่ในแวดวง “ตลาดหุ้น” เป็นอย่างมาก เนื่องจากนักเล่นหุ้นขาใหญ่หลายคนเป็นลูกศิษย์ นอกจากนี้ยังมีความสนิทสนมกับ “จตุพร” ดังจะเห็นได้จาก ในพิธีวางศิลาฤกษ์ฐานหลวงพ่อทวดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใกล้กับ “โบนันซ่า” เขาใหญ่ ก็ได้ “พระอาจารย์เพชร” เป็นประธานฯ รวมไปถึงในวันเกิด “จตุพร” เมื่อปี 2556 ก็ได้ “พระอาจารย์เพชร” เจ้าเก่าที่จัดงานวันเกิดให้
เมื่อข้ามฟากมายัง “โบนันซ่า” แล้ว ข่าวที่ร้อนแรงที่สุดคงจะหนีไม่พ้นที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 กรมป่าไม้ และสำนังานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าตรวจสอบการถือครองที่ดินของสนามแข่งรถ “โบนันซ่า” เขาใหญ่ หลังปรากฏหลักฐาน น.ส.3 ก. บางส่วนของพื้นที่สนามแข่งรถรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกลุ่ม-ตระกูลนักธุรกิจชื่อดังอย่าง “เตชะณรงค์”
(อ่านประกอบ : ปฏิบัติการทวงคืนผืนที่ป่าจาก "โบนันซ่า เขาใหญ่" ของคนตระกูล "เตชะณรงค์")
ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือ เมื่อหลายปีก่อนพื้นที่ของ “โบนันซ่า” เคย “ถูกยืม” ใช้เป็นสถานที่จัดชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม นปช. และให้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี “โฟนอิน” มาแล้ว !
นอกจากนี้ “ไพวงษ์ เตชะณรงค์” บิดา “ภูผา เตชะณรงค์” เจ้าของสนามแข่งรถ “โบนันซ่า” เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ยุค “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” เมื่อปี 2554 และภายหลังรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค. 2557 “ไพวงษ์” คือหนึ่งในนักธุรกิจที่ถูก คสช. เรียกรายงานตัวอีกด้วย
เมื่อพิจารณาจากข่าวข้างต้นแล้ว ลองมองมายังฝั่งรัฐบาลดูบ้าง
พบว่ามีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ เลิกใช้ “กฎอัยการศึก” เตรียมงัด “มาตรา 44” ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่ให้อำนาจล้นฟ้าแก่ “หัวหน้า คสช.” มาใช้แทน
เพื่อเตรียมกำราบ “คลื่นใต้น้ำ” สยบทุกความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มต้าน” ให้อยู่หมัด
แม้ว่าทั้งหมดนี้ไม่อาจเชื่อมโยงให้เห็นกันแบบ “ชัด ๆ” แต่ก็พอทราบ “ท่าที” ของ “รัฐบาลท็อปบู๊ต” แล้วว่า “เอาจริง-ทำจริง” อย่างแน่นอน !