พลิกแฟ้มข้อมูล “คณะรัฐประหารทั้ง 11 ชุด” ในรอบ 81 ปีรวมชุด "ประยุทธ์"
"..ในตลอดระยะเวลา 81 ปี ที่ผ่านมาของระบอบประชาธิปไตยไทย กองทัพคือหนึ่งในตัวแปรสำคัญและเป็นอีกขั้วอำนาจที่ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน ในนาม “คณะรัฐประหาร” ที่คอยพลิกกระดาน “เปลี่ยนขั้วอำนาจ”.."
ภายหลังจาก "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผู้บัญชาทหารบก ออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 1/2557 ประกาศทำการรัฐประหาร แบบปัจจุบันทันด่วน
หลังที่ประชุมร่วมตัวแทน 7 ฝ่าย ล่ม! พร้อมดำเนินการ ควบคุมตัวผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด คือ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตัวแทนวุฒิสมาชิก ตัวแทนพรรคเพื่อไทย (พท.) ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตัวแทนคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ตัวแทนจากรัฐบาล และตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปที่กรมทหารราบที่ 1 กองพันที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 พ.1 รอ.) ทันที
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เหตุการณ์รัฐประหารครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 11 ที่เกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ชาติไทย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รวบรวมข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย ในตลอดระยะเวลา 81 ปี ที่ผ่านมาของระบอบประชาธิปไตยไทย พบว่า กองทัพคือหนึ่งในตัวแปรสำคัญและเป็นอีกขั้วอำนาจที่ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน
ในนาม “คณะรัฐประหาร” ที่คอยพลิกกระดาน “เปลี่ยนขั้วอำนาจ” ทางการเมืองมาแล้วก่อนหน้านี้ จนถึงปัจจุบันมานำเสนอดังต่อไปนี้
รัฐประหารครั้งที่ 1. ( อภิวัฒน์ 2475 )
วันที่ 24 มิถุนายน 2475 โดย “คณะราษฎร” นำโดยพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา, นายนาวาตรี หลวงสินธุสงครามชัย, อำมาตย์ตรี หลวงประดิษฐ์ มนูธรรม และข้าราชการทหารบก ทหารเรือและข้าราชการพลเรือน รวมทั้งสิ้น 99 คน ร่วมกันยึดอำนาจการปกครองปประเทศ และเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
รัฐประหารครั้งที่ 2.
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะรัฐประหาร” นำโดยพลโทผิน ชุณหะวัณ ทำการยึดอำนาจการปกครองและล้มล้างรัฐบาลของ พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ และยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489
รัฐประหารครั้งที่ 3.
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2494 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะบริหารประเทศชั่วคราว” หรือเรียกกันว่า “รัฐประหารเงียบ” นำโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ทำการยึดอำนาจการปกครองและล้มล้ามรัฐบาลของตนเอง และยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492
รัฐประหารครั้งที่ 4.
วันที่ 16 กันยายน 2500 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะปฏิวัติ” นำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการยึดอำนาจการปกครองและล้มรัฐบาลของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่มิได้ยกเงิกรัฐธรรมนูญ
รัฐประหารครั้งที่ 5.
วันที่ 20 ตุลาคม 2501 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะปฏิวัติ” นำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ทำการปฏิวัติซ้ำอีกครั้งหนึ่ง และยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2495
รัฐประหารครั้งที่ 6.
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะปฏิวัติ” หรือเรียกกันว่า “ปฏิวัติตัวเอง” นำโดย จอมพลถนอม กิตติขจร ทำการยึดอำนาจการปกครองและล้มล้างรัฐบาลของตนเอง และยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2511
รัฐประหารครั้งที่ 7.
วันที่ 6 ตุลาคม 2519 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” นำโดย พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ทำการยึดอำนาจการปกครอง และล้มล้างรัฐบาลของ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช และยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517
รัฐประหารครั้งที่ 8.
วันที่ 20 ตุลาคม 2520 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” หรือเรียกกันว่า “ปฏิวัติซ้ำ” นำโดยพลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ทำการยึดอำนาจการปกครองและล้มล้างรัฐบาลของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร และยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2519
รัฐประหารครั้งที่ 9.
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ
( รสช.)” นำโดยพลเอกสุนทร คงสงพงษ์ ทำการยึดอำนาจการปกครองและล้มล้างรัฐบาลของ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ และยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521
รัฐประหารครั้งที่ 10.
วันที่ 19 กันยายน 2549 โดยคณะรัฐประหารที่ใช้ชื่อว่า “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ( คปค.)” ทำการยึดอำนาจการปกครอง และล้มล้างรัฐบาลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร และยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
รัฐประการครั้งที่ 11.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาทหารบก ออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557
โดยให้เหตุผลสำคัญ ว่า จากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศในหลายพื้นที่ เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บและเกิดความเสียหายต่อ ทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัวจนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผล กระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้น
เพื่อให้สถานการณ์ดัง กล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชากองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป
สิ้นเสียงคำแถลงจบลง ดูเหมือนว่า "กงล้อ" ประวัติศาสตร์ แห่ง "รัฐประหาร" ได้หมุนย้อนคืนกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้งแล้ว!