- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- จับตา 'กองทุนอนุรักษ์พลังงาน' ยุค พปชร. วิจารณ์แซด ‘ชงเองกินเอง’?
จับตา 'กองทุนอนุรักษ์พลังงาน' ยุค พปชร. วิจารณ์แซด ‘ชงเองกินเอง’?
"... ทั้งสองกรณีดังกล่าว นับเป็นเรื่องสำคัญที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะต้องเร่งออกมาชี้แจงทำความจริงให้ปรากฎต่อสังคมโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเหตุผลความจำเป็นในการปรากฎชื่อบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรมต. เข้ามานั่งในตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากลั่นกรองงบประมาณเพื่อหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ปัญหาเรื่อง 'การชงเองกินเอง' แบบนี้ ไม่ให้ส่งกระทบต่อภาพลักษณ์การทำงานของกองทุนอนุรักษ์พลังงาน รวมไปถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาลโดยด่วน..."
การบริการงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานวงเงินนับหมื่นล้านบาท ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน ที่มี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ถึงปัญหาการแต่งตั้งบุคคลคนใกล้ชิด 'รัฐมนตรี' เข้ามานั่งทำงานในตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวกับการจัดสรรเงินกองทุน
เริ่มตั้งแต่การปรากฎชื่อ สุภาพสตรี รายหนึ่ง ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามานั่งเป็นอนุกรรมการกลั่นกรองงบกองทุนฯ ในขณะที่ สุภาพสตรี มีสถานะเป็นภรรยาของ 'คนสนิท' รัฐมนตรี ที่มีตำแหน่งเป็น ส.ว.ด้วย
ขณะที่ เลขานุการรัฐมนตรี น้องชายนักการเมืองขาใหญ่ในจังหวัดแห่งหนึ่ง ก็ปรากฎชื่อเข้ามานั่งตำแหน่งอนุกรรมการกลั่นกรองงบกองทุนฯ ด้วยเช่นกัน
ส่งผลทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า การปรากฎชื่อบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรมต. เข้ามานั่งในตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากลั่นกรองงบประมาณแบบนี้ จะส่งต่อการพิจารณาอนุมัติงบประมาณอย่างไรบ้าง?
เงินกองทุน ประจำปี 2563 นับหมื่นล้านบาท จากนี้ไป จะถูกใช้จ่ายไปในลักษณะการมุ่งจะทำโครงการพื่อสนับสนุนส่งเสริม 'สร้างฐานเสียง' ให้กับพรรคการเมืองแห่งหนึ่งหรือไม่
เพราะล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ในส่วนของ คนสนิทของรมต. ที่ตั้งแต่งภรรยาเข้ามานั่งเป็นอนุกรรมการกลั่นกรองงบกองทุนฯ ที่ผ่านมาเริ่มมีการจัดอบรมโดยใช้คำสั่งให้พลังงานจังหวัด ปลัดกระทรวงฯ กองทุนฯ เข้าร่วมเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์กองทุนนอกสถานที่จังหวัดกาญจนบุรีไปแล้ว จนทำให้ถูกตั้งคำถามถึงวัตถุประสงค์ในการจัดว่า จัดทำไม? จัดให้ใคร? เป็นหน้าที่หรือไม่?
ส่วนของฝั่งเลขานุการรัฐมนตรี ก็เริ่มมีกระแสข่าววงในว่า มีความเคลื่อนไหวระดับพื้นที่ ในลักษณะการปรากฎตัวของบุคคลบางกลุ่ม ไปติดต่อเจรจาจับมือรวมกับ รวมกับส.ส.ในพื้นที่
โดยอ้างว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารระดับสูง ให้รวบรวมงบประมาณนำเงินกองทุนออกมาใช้ทำโครงการอนุรักษ์พลังงานต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างฐานคะแนนเสียงให้กับ ส.ส. ทั้งที่สอบผ่านและสอบตกอย่างน้อยเฉลี่ยหัวละ 10 ล้านแล้ว?
ทั้งสองกรณีดังกล่าว นับเป็นเรื่องสำคัญที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะต้องเร่งออกมาชี้แจงทำความจริงให้ปรากฎต่อสังคมโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเหตุผลความจำเป็นในการปรากฎชื่อบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรมต. เข้ามานั่งในตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากลั่นกรองงบประมาณกองทุนฯ
เพื่อหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ปัญหาเรื่อง 'การชงเองกินเอง' แบบนี้ ไม่ให้ส่งกระทบต่อภาพลักษณ์การทำงานของกองทุนอนุรักษ์พลังงาน รวมไปถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาลโดยด่วน
นี่ยังไม่นับรวมกรณีมีกระแสข่าวว่า อธิบดีกรมที่รับผิดชอบงานด้านน้ำแห่งหนึ่ง เตรียมยื่นของบสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งที่เป็นภารกิจของหน่วยงานในพื้นที่ จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจเข้าข่ายผิดระเบียบกองทุนฯว่าด้วยการของงบประมาณแทนกันหรือไม่ สุดท้ายแล้วใครจะเป็นหน่วยงานของบประมาณกันแน่ ทรัพย์สินที่ของบประมาณจะเป็นของใคร จะสามารถส่งมอบให้ท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่ได้หรือไม่ การบำรุงรักษาค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ น้ำที่จะให้สูบมีจริงๆและเพียงพอหรือไม่
พร้อมกับข่าวสะพัดที่ตามมาว่า ในระดับพื้นที่เริ่มมีการวิ่งขายโครงการฯกันล่วงหน้าพร้อมกำหนดราคาส่วนต่างกันไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีขาใหญ่ประจำกระทรวงพลังงานเจ้าเก่า เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง?
ซึ่งกรณีนับเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ ที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะต้องรีบเข้าไปหาทางจัดการโดยด่วน ก่อนที่เงินกองทุนฯ หมื่นล้าน ปี 2563 จะถูกคนบางกลุ่มเข้าไปรุ่มทึ้งกันอย่างสนุกมือ อย่างที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความวิตกกังวลกันอยู่ในขณะนี้
ขณะที่ภาคประชาชน ซึ่งเป็นกลุ่มคนควรจะได้รับประโยชน์จริงๆ จากการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พลังงานรูปแบบต่างๆ คงทำได้แค่นั่งมองตาปริบๆ เท่านั้นเอง
อ่านประกอบ :
พนง.ยันมีส่วนร่วมแค่จำหน่ายตัวปั๊มน้ำ! ตามไปดูบ.ขายเครื่องกรองแสงอาทิตย์จว.ใต้ ตัวละ2ล.
เปิดตัว บ.ขายเครื่องกรองน้ำแสงอาทิตย์จว.ใต้ ตัวละ 2 ล.-เคยขายปั้มประปานครหลวง 1.5 ล.
วิจารณ์ขรม! พพ. ซื้อกรองน้ำแสงอาทิตย์แจก 3 จว.ใต้ แพงตัวละ 2 ล้าน
ใหญ่กว่าศอ.บต.ซื้อ6เท่า! นักวิชาการแจงเครื่องกรองน้ำ 3จว.ใต้ ตัวละ 2 ล.– มุ่งช่วย ปชช.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/