- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ตัวจริงของ “นายกฯยิ่งลักษณ์” ไม่ได้เอ๋อ ไม่ได้เบลอ เธอแค่...
ตัวจริงของ “นายกฯยิ่งลักษณ์” ไม่ได้เอ๋อ ไม่ได้เบลอ เธอแค่...
8 สิงหาคมนี้ คนไทยจะมีผู้นำ ชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ครบ 365 วันแล้ว แต่ถามว่าเรารู้จัก “ตัวตนจริงๆ" ของผู้หญิงคนนี้ มากน้อยแค่ไหน?
คำตอบแบบคิดเร็วๆ น่าจะเป็น “น้อย” ถึง “น้อยมาก” !
เพราะตัวผู้นำแทบทุกประเทศ มักจะมีทีมงานคอยเซ็ตติ้ง “ภาพลักษณ์/อิมเมจ” ที่ต้องการให้ปรากฎต่อสาธารณะชนด้วยกันทั้งนั้น (ดูอย่างภาพยนตร์เรื่อง The Ides of March ที่เข้าชิงออสการ์ในปี 2012 สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ที่มีพล็อตว่าด้วยทีมหาเสียงประธานาธิบดีสหรัฐที่คอย “เก็บละเอียด” ภาพลักษณ์ให้ทุกเม็ด ตั้งแต่ตัวประธานาธิบดียังเป็นแค่ผู้สมัคร)
ทว่าสำหรับธิดาคนสุดท้ายของตระกูลชินวัตร ที่ก่อนเข้าสู่สนามการเมือง เธอถูกฟูมฟักราวกับ “ไข่ในหิน” และโดนเก็บตัวไว้เป็นความลับขั้นสุดยอด
แม้ชัยชนะในการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 หลังเธอโผล่บนเส้นทางการเมือง “เพียง 49 วัน” จะพิสูจน์วิธีการดังกล่าวว่าได้ผล แต่ยิ่งผลตอบแทนสูงตามที่คาด ความเข้มงวดในการ “เก็บเนี้ยบ” ก็ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ
เพราะทีมงานของสตรีรายนี้รู้ดีว่า ปัจจัยที่ทำให้ชนะมาได้ เป็น “สิ่งที่ถูกสร้าง” ขึ้นมา ที่พร้อมจะพังครึนลงได้ทุกเมื่อ เช่น “ปราสาททราย”
ถ้าอยากรู้ว่า อดีตนักธุรกิจหญิงวัย 44 รายนี้ถูกตีเส้นให้ “เป๊ะ” เพียงใด เพื่อสร้างกระแส “ยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์” ระหว่างแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง แนะนำให้อ่านบทความชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เทพธิดาดาวแดง ประมุขแห่งตึกไทยคู่ฟ้า” เขียนโดยคุณอิศรินทร์ หนูเมือง ปรากฎอยู่ในนิตยสาร October เล่ม 11 ตีพิมพ์ครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2554
ขอหยิบบางท่อนบางตอนมานำเสนอ เพื่อเรียกน้ำย่อย และพอให้ได้เห็นภาพ
“ช่างแต่งหน้าของเธอถูกจัดหามาจากกองถ่ายละครชื่อดังจากช่อง 3 เจ้าเดียวกับช่างแต่งหน้าดาราดังแห่งค่ายเมคเกอร์ วาย ของ ‘จ๋า-ยศสินี ณ นคร(เหมือนประสิทธิเวช)’ โฉมหน้าสวยของยิ่งลักษณ์กับ ‘แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ’ แห่งละคร ‘จำเลยรัก’ จึงละม้ายคล้ายกันทุกช็อต ทั้งหน้าจอโทรทัศน์และบนโปสเตอร์หาเสียง”
“พวงมาลัยแขวนคอเมื่อปราศรัยบนเวที ต้องสีแดง-สลับขาว เข้ากับสีเสื้อของพรรคสีขาวขลิบแดง”
“ทันทีที่มีคนทักว่าทรงผมของเธอ(บนโปสเตอร์หาเสียง)สื่อให้เห็นถึงความอันตรายของสตรีเพศ ทีมงานของเธอก็นำเสนอภาพโปสเตอร์ใหม่ที่ผมสั้น-หยิกเป็นลอนน้อยกว่าเดิม”
“ทั้งบทพูดกับสื่อ-บทปราศรัยกับชาวบ้าน-บทตอบคำถามระดับสัมภาษณ์พิเศษหรือสัมภาษณ์แบบเผชิญหน้า จึงถูกกำหนดด้วยคีย์เวิร์ดหลัก จำง่าย โดนใจ กว้างๆ ไม่เฉพาะเจาะจง..สคริปต์สำหรับการปรากฏตัวทางการเมือง ในการแถลงข่าวครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทย จงใจใช้คำว่า ‘แก้ไขไม่แก้แค้น’..ตามด้วยบทพูดปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่ ครอบคลุมเรื่องนิรโทรกรรม-ปรองดอง ภายใต้สคริปต์ที่ทีมงานกำหนดไว้ 45 นาที แต่ยิ่งลักษณ์พูดตามสคริปต์ได้เพียง 15 นาทีเท่านั้น”
ในบทความดังกล่าว ได้ระบุถึงทีมงานที่เข้าไปช่วยในภารกิจปั้นยิ่งลักษณ์ ว่ามีทั้งคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร-คนเดือนตุลาในตึกชิน-สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และแกนนำพรรคเพื่อไทยบางส่วน
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลก ที่เมื่อ “ยิ่งลักษณ์” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกฯ คนที่ 28 แล้ว จะมีการส่งคนมาตามประกบนายกฯ มือใหม่ทุกฝีก้าว เป็นมือขวา-มือซ้าย ทั้ง “สุ” สุทิษา ประทุมกุล อดีตนักประชาสัมพันธ์คู่หูนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ และ “หนุ่ย” พ.ต.ท.วทัญญู วิทยผโลทัย อดีตนายกตำรวจติดตามทักษิณ ขณะที่มีทีมยุทธศาสตร์คอยมอนิเตอร์ทุกฝีก้าวของเธออยู่ไม่ห่าง
โดยฉากหน้า “สุ” จะทำหน้าที่ส่งซิกให้ผู้นำหญิงเดินหนีเวลาเจอคำถามแทงใจดำ (เช่นครั้งหนึ่ง เมื่อเธอถูกถามหลังประชุม ครม.ว่า ประมาณการณ์จีดีพีปี 2554 ไว้เท่าไร? แล้วออกอาการอึกอัก ก็มีมือดีดันให้เธอรีบเดินขึ้นรถตู้ส่วนตัวทันที) ส่วน “หนุ่ย” จะเป็นผู้กันนักข่าวไม่ให้เดินตามไปซักต่อ
ขณะที่คำตอบต่อทุกคำถามของยิ่งลักษณ์ถูกเตี๊ยมมาให้เป็นลักษณะกว้างๆ วนเวียนไปมาอยู่ไม่กี่รูปแบบ เช่น ขอปรึกษาผู้รู้ก่อนค่ะ, ขอเวลาทำงานดีกว่าค่ะ, เรื่องนี้ต้องให้สภาพิจารณาค่ะ ฯลฯ
ซึ่งทุกอย่างก็ยิ่งหนักข้อขึ้นเมื่อ “ปุ้ม" สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เข้ามาจัดแจงสารพัดเรื่องราวรอบตัวประมุขตึกไทย อย่างเต็มตัวในฐานะเลขาธิการนายกฯ เป็นเหตุให้กระทั่งสื่อมวลชนที่มีภารกิจหลักคือตามติดนายกฯ ทุกฝีก้าว ยังมีโอกาสได้คุยกับ “ผู้นำหญิง” ในลักษณะจับเข่าคุย-ถอดหัวโขน ไม่มีคนมาล้อมหน้าล้อมหลัง ในรอบปีเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น !
ครั้งแรก ที่ จ.เชียงใหม่ ปลายปี 2554 ... ครั้งที่สอง ริมท่าน้ำนนท์ กลางปี 2555
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ครั้ง ก็พอได้เห็นตัวตนของมนุษย์ชื่อ “ปู-ยิ่งลักษณ์” ที่ไม่ได้ถูกเซ็ตขึ้นมา แม้จะเพียงแค่ส่วนเสี้ยวเดียว
ทั้งวิธีเจียดเวลาไปเลี้ยงลูกชายคนเดียว อารมณ์ความรู้สึกต่อการถูกจ้องจับผิด รวมถึงสาเหตุของการพูดผิดๆ ถูกๆ เวลาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่ามาจากอาการเกร็งกล้อง รวมถึงแอบเกรง “ฝ่ายค้าน” !
เพราะเธอเชื่อฝังหัวว่าทุกคำพูดมีสิทธิ์ถูกหยิบมาเป็นประเด็นทางการเมือง ระหว่างให้สัมภาษณ์เธอจึงคิดวนไปเวียนมา กระทั่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดง่ายๆ เช่นการพูดคำว่าหญ้าแฝกผิดเป็นหญ้าแพรก หรือฟังคำถามเรื่องเรือดำน้ำผิดไปตอบเป็นเรือดันน้ำ เป็นต้น
และยิ่งพูดผิดหลายครั้งเข้า ทีมงานเลยกำชับให้ประหยัดถ้อยคำ ทั้งๆที่ เธอเป็นคนคุยเก่งถึงเก่งมาก เรียกภาษาชาวบ้านก็คือ “เม้าธ์กระจาย!” ซึ่งแน่นอนว่า ยิ่งถูกวางบทให้ขัดแย้งกับบุคลิกส่วนตัวมากเท่าไร โอกาสจะเกิดความผิดพลาดก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นธรรมดา
นอกจากนี้ ตัวเธอก็มีความสามารถอยู่ในระดับหนึ่ง เห็นได้จากการอธิบายเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วมหรือแก้ปัญหาของแพงให้กับนักข่าวฟังเป็นฉากๆ ในช่วง “ปิดเทป” แต่พอตั้งกล้อง-เปิดไมค์เมื่อไร ดันกลายเป็นอีกคน
ดังนั้นหากจะถามว่า ผ่านมา 1 ปี เรารู้จักตัวตนจริงๆ ของ “นายกฯ หญิง” คนนี้แล้วหรือยัง คำตอบก็อาจจะเป็น ก็รู้เท่าที่เขาอยากจะให้รู้นั่นแหล่ะ เพียงแต่ในทางการเมือง ตอนนี้เธอยังสวมบทคนสวย, เก่ง, ฉลาด, มีความสามารถ และมีภาวะผู้นำ ได้ “ไม่เนียน” เท่าที่วางเอาไว้ ยังเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามนำข้อผิดพลาดของเธอไปล้อเลียนได้ว่า เธอเอ๋อ เบลอ หรือตั้งฉายาเป็น ปูนิ่ม, หญิงเอ๋อ, หนูไม่รู้ ฯลฯ
ส่วนเรื่องที่จะให้เธอเป็นตัวของตัวเองเต็ม 100% ในหัว “คนต่างประเทศ” ย่อมไม่มีอยู่แล้ว !!!