คลี่ปมเงินระดมทุน พปชร. ต้องโชว์หมดก้อนเดียว 622 ล.ใน 30 วัน-ถ้าเกินมีโทษ?

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 14:50 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

เกาะติดเลือกตั้ง 2562 | Isranews | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

เงินระดมทุน | โต๊ะจีน | พรรคพลังประชารัฐ

“…หากพิจารณาตามมาตรา 64 และ 65 ดังกล่าว จะเห็นได้ว่า เมื่องานระดมทุนโต๊ะจีนจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2561 พรรคพลังประชารัฐต้อง ‘เปิดเผย’ จำนวน และที่มาของเงิน รวมถึงชื่อบุคคล และนิติบุคคล ที่สนับสนุนเงินระดมทุนภายใน 30 วัน นั่นคือภายในวันที่ 18 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมาโดยทันที การอ้างว่า หนังสือของ กกต. ระบุให้ชี้แจงเพิ่มเติมภายใน 15 วันนั้น เป็นคนละประเด็นกัน…”

PIC tohjean 1 2 62 1

จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหนังสือถึงนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ชี้แจงหลักฐานเพิ่มเติม กรณีการจัดงานระดมทุนโต๊ะจีนพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่า ยังขาดหลักฐานอยู่อย่างน้อย 3 รายการ ได้แก่ วัตถุประสงค์ในการบริจาคเงิน ใบเสร็จที่ต้องออกให้แก่ผู้ระดมทุน และไม่สามารถนำเงินระดมทุนแยกไปใส่ไว้ในบัญชีบริจาคเงินของพรรคการเมืองได้

โดยหลังการเปิดตัวผู้สมัคร กทม. ของพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโต้โผใหญ่จัดงานระดมทุนดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า พรรครับทราบเรื่องแล้ว อยู่ระหว่างจัดทำหนังสือชี้แจงเพิ่มเติมแก่ กกต.

“จริง ๆ เรื่องนี้เราแฮปปี้ เพราะที่ผ่านมาเราสรุปเอาเองว่า ตอนที่จัดงานระดมทุน แล้วมีคนต้องการสนับสนุนเราจำนวนมาก แต่หลายคนไม่ได้ให้เงินในวันนั้นทันที ทยอยให้หลังจากวันที่ 19 ธ.ค. เราก็คิดว่า น่าจะนำมาใส่ในบัญชีผู้บริจาค แต่เมื่อ กกต. ตีความว่า เงินทั้งหมดจากงานวันที่ 19 ธ.ค. ต้องใส่ในส่วนของเงินระดมทุนอย่างเดียว ก็เป็นเรื่องดี เพราะการจัดการบัญชีเงินบริจาคยุ่งยากกว่า เบื้องต้นเท่าที่ทราบตอนนี้ หากไม่นับก้อนแรกที่เราแจ้ง กกต. ไปแล้ว 90 ล้านบาท ก้อนที่เหลือนำเข้าบัญชีเงินระดมทุนแล้วประมาณเกือบ 200 ล้านบาท จากยอดทั้งหมด และจะทยอยนำเงินเข้าบัญชีเรื่อย ๆ จนครบ 532 ล้านบาทที่เหลือ” เป็นคำยืนยันจากนายณัฏฐพล (อ่านประกอบ : เอกชนที่สนับสนุนเพื่อนกัน! พปชร.พร้อมแจงเงินระดมทุน กกต.ก้อนหลังมาแล้ว 200 ล.)

อย่างไรก็ดีประเด็นสำคัญของเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปข้อเท็จจริงให้ทราบ ดังนี้

หนึ่ง พรรคพลังประชารัฐเปิดเผยเงินระดมทุนช้ากว่า 30 วันได้ไหม ?

นายณัฏฐพล ระบุว่า กำลังทยอยนำเงินก้อนที่เหลืออีก 522 ล้านบาท เข้าบัญชีเงินระดมทุนโต๊ะจีน เพื่อส่งให้ กกต. โดยจะทำให้เสร็จ 15 วัน ตามกำหนดเส้นตายจากหนังสือของ กกต. หลังจากนั้นจะเปิดเผยต่อสาธารณะให้ประชาชนรับทราบ

กรณีนี้นายณัฏฐพล อาจเข้าใจอะไรบางอย่างผิดพลาดไปหรือไม่ เพราะตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 64 สรุปได้ว่า การหารายได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมืองต้องกระทำโดยเปิดเผย และแสดงวัตถุประสงค์ว่าเป็นการระดมทุนของพรรคการเมืองอย่างชัดเจน โดยให้หัวหน้าพรรคการเมืองประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปถึงจำนวนและที่มาของเงิน และให้มีหนังสือแจ้งนายทะเบียนทราบด้วย ภายใน 30 วันนับแต่วันที่กิจกรรมดังกล่าวสิ้นสุดลง ทั้งนี้ให้ระบุชื่อบุคคลผู้สนับสนุนเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 1 แสนบาทขึ้นไปด้วย

ส่วนมาตรา 65 ระบุว่า ทุกเดือนให้พรรคการเมืองประกาศรายชื่อผู้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าตามที่ กกต. กำหนดแต่ต้องไม่น้อยกว่า 5 พันบาท ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปพร้อมทั้งวัตถุประสงค์ของการบริจาค และให้แจ้งนายทะเบียนทราบตามแบบหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่ กกต. กำหนด

หากพิจารณาตามมาตรา 64 และ 65 ดังกล่าว จะเห็นได้ว่า เมื่องานระดมทุนโต๊ะจีนจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2561 พรรคพลังประชารัฐต้อง ‘เปิดเผย’ จำนวน และที่มาของเงิน รวมถึงชื่อบุคคล และนิติบุคคล ที่สนับสนุนเงินระดมทุนภายใน 30 วัน นั่นคือภายในวันที่ 18 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมาโดยทันที

ส่วนการอ้างว่า หนังสือของ กกต. ระบุให้ชี้แจงเพิ่มเติมภายใน 15 วันนั้น เป็นคนละประเด็นกัน เพราะสิ่งที่ กกต. ให้ชี้แจงคือในส่วนของวัตถุประสงค์การจัดงาน เรื่องใบเสร็จ และเรื่องตัวเงินทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องทางทะเบียนที่จะต้องจัดส่งให้ กกต. อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับกรณีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องเปิดเผยตัวเลข ‘ทั้งหมด’ ภายใน 30 วันนับจากกิจกรรมระดมทุนสิ้นสุดลง

PIC ระดมทนโตะจน พปชร 1
(งานระดมทุนโต๊ะจีน พปชร. เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2561 ขอบคุณภาพจาก matemnews.com)

สอง หากพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่เปิดเผยบุคคล และนิติบุคคลที่ระดมทุนใน 30 วัน อาจสุ่มเสี่ยงถูกอะไรบ้าง ?

ตามหมวดบทกำหนดลงโทษ ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 กำหนดไว้หลายส่วนด้วยกัน ได้แก่

มาตรา 106 สรุปได้ว่า หากหัวหน้าพรรคการเมือง นายทะเบียนสมาชิก หรือเหรัญญิกพรรค ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 64 วรรคสอง หรือวรรคสาม (การประกาศให้ประชาชนทราบถึงบุคคล และนิติบุคคล ที่สนับสนุนเงินระดมทุนภายใน 30 วัน) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และปรับอีกวันละ 1 พันบาทตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

มาตรา 122 สรุปได้ว่า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 65 มาตรา 67 (หากมีบุคคล หรือนิติบุคคลประสงค์บริจาค ต้องออกใบเสร็จให้) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และปรับอีกวันละ 1 พันบาทตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

มาตรา 123 สรุปได้ว่า พรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 64 วรรคหนึ่ง (การหารายได้จากการการระดมทุน ต้องกระทำโดยเปิดเผย และแสดงวัตถุประสงค์ว่าเป็นการระดมทุนของพรรคการเมืองชัดเจน) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

(อ่าน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 คลิกที่นี่)

จนถึงขณะนี้ พรรคพลังประชารัฐ อาจสุ่มเสี่ยงทำผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 106 122 และ 123 โดยอาจถูกปรับนับตั้งแต่ครบกำหนด 30 วันหลังจบกิจกรรมระดมทุนพรรคพลังประชารัฐ คือนับตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2562 เป็นต้นมา

ถ้าคำนวณ ณ วันที่ 1 ก.พ. 2562 เท่ากับว่าพรรคพลังประชารัฐถูกปรับตามมาตรา 106 และ 122 ไปแล้ว เป็นเงิน 50,000 + 28,000 บาท และถูกปรับตามมาตรา 123 อีก 1 แสนบาท รวมทั้งหมดเบ็ดเสร็จ 178,000 บาท

หากพรรคพลังประชารัฐยังคงยึดกรอบตามหนังสือของ กกต. ที่ระบุว่าต้องชี้แจงและเปิดเผยใน 15 วัน คือสิ้นสุดในวันที่ 9 ก.พ. 2562 อาจต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน 194,000 บาท

นี่ข้อเท็จจริงตามกฎหมายพรรคการเมืองเกี่ยวกับการจัดงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดราวเดือนเศษที่ผ่านมา ทั้งเงื่อนปมที่ยังไม่เคลียร์ว่า ตกลงแล้วตามแผนผังการจัดงาน ชื่อโต๊ะคล้ายหน่วยงานรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ คลัง ททท กทม คือของใคร รวมถึงกลุ่มทุน-เอกชนผู้บริจาคให้พรรคพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่เป็นคู่สัมปทาน และคู่สัญญารายใหญ่ของรัฐ ?

ฉากต่อไปที่ต้องจับตาดูคือ บุคคล-นิติบุคคลที่เหลืออีก 151 ราย ในยอดเงินก้อนที่เหลืออีก 532 ล้านบาทจะมีใครบ้าง ต้องติดตาม!

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/