- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ทำความรู้จัก ‘ดร.อั๋น-เอก’ ทุนใหญ่? ก่อนชื่ออยู่บนผังซื้อโต๊ะจีน พปชร. 120 ล.
ทำความรู้จัก ‘ดร.อั๋น-เอก’ ทุนใหญ่? ก่อนชื่ออยู่บนผังซื้อโต๊ะจีน พปชร. 120 ล.
ทำความรู้จัก ‘ดร.อั๋น’ ชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผ่าน ‘บิดา’ คอนเนคชั่นลึกสายทหาร โลดแล่นแวดวงธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตร กรรมการ-ถือหุ้น 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ ฟันรายได้ไตรมาส 3 ปี 61 กว่า 2.4 พันล้าน ส่วน ‘ดร.เอก’ ณพพงศ์ ธีระวร อดีต ปธ.หอการค้าฯอายุน้อยสุดในไทย ที่ปรึกษา 2 รมต.รัฐบาล ‘บิ๊กตู่’ ก่อนทั้งคู่ปรากฏชื่อบนผังซื้อโต๊ะจีนงานระดมทุนพลังประชารัฐ 40 โต๊ะ 120 ล้าน
“อยู่ในกระบวนการไต่สวนหาข้อเท็จจริง สื่ออาจพบเรื่องของผังโต๊ะ แต่ในส่วนของ กกต. ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ โดยขั้นตอนจะต้องมีกระบวนการเข้าสู่พยานหลักฐาน อย่างครั้งที่แล้วกรณีสื่อนำเสนอเรื่องคลิปวีดีโอของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สำนักงาน กกต. ดำเนินการตรวจสอบ เมื่อได้ข้อมูลระดับหนึ่งจะมีหนังสือเชิญให้สื่อมาให้ข้อมูล แต่ในส่วนเรื่องโต๊ะจีนยังไม่ถึงขึ้นตอนดังกล่าว”
เป็นทีท่าล่าสุดจากปากของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายหลังสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เผยแพร่เอกสารแผนผังการจัดโต๊ะจีนในงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ 200 โต๊ะ วงเงินกว่า 650 ล้านบาท (อ่านประกอบ : เปิดเอกสารผังงานโต๊ะจีน 650 ล. พปชร. ชื่อคล้าย‘คลัง-ททท-กทม’หรา บริจาครวม 99 ล., เปิดผังงานโต๊ะจีน 650 ล. พปชร. ‘ดร.อั๋น-เอก’เหมา 120 ล. คลัง-ททท.โผล่ 69 ล.)
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามแผนผังที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบ และได้รับการยืนยันจากหนึ่งในคณะผู้จัดงาน คือ
1.ปรากฎโต๊ะที่ใช้ชื่อย่อคล้ายคลึงกับหน่วยงานของรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ คลัง ททท และ กทม รวม 33 โต๊ะ วงเงิน 99 ล้านบาท
2.มีกรรมการบริหารพรรค 2 รายที่ปรากฏชื่อโต๊ะเยอะที่สุด รวม 40 โต๊ะ 120 ล้านบาท ได้แก่ ดร.อั๋น หรือนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก จำนวน 16 โต๊ะ 48 ล้านบาท และ ดร.เอก หรือนายณพพงศ์ ธีระวร ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์) จำนวน 24 โต๊ะ 72 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 บัญญัติในหมวดของการบริจาคเงินของพรรคการเมืองว่า บุคคลใดจะบริจาคเงินให้พรรคการเมืองเกิน 10 ล้านบาท/ปี หรือนิติบุคคลใดจะบริจาคเงินให้พรรคการเมืองเกิน 5 ล้านบาท/ปี ต้องแจ้งที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทให้ทราบ
ประเด็นที่น่าสนใจจึงโฟกัสไปอยู่ที่ว่า ทั้ง ดร.อั๋น และ ดร.เอก เป็นผู้ซื้อโต๊ะเองทั้งหมด หรือใช้ลักษณะเรี่ยไร หรือชักชวนให้บุคคลอื่นมาร่วมระดมทุนซื้อโต๊ะครั้งนี้หรือไม่
เพราะหากใช้วิธีการชักชวน หรือเรี่ยไรให้บุคคลอื่นมาร่วมระดมทุน จะเข้าข่ายผิดตามมาตรา 73 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฯ ที่ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหรือสถานะหน้าที่ในการเรี่ยไรหรือชักชวนให้บุคคลใดมาร่วมระดมทุนพรรคการเมืองหรือเปล่า ?
อย่างไรก็ดีหากเป็นแวดวงนักธุรกิจ หรืออุตสาหกรรม อาจคุ้นเคยกับชื่อของ ดร. ทั้ง 2 คนเป็นอย่างดี แต่สำหรับประชาชนทั่วไปอาจไม่คุ้นหูมากนัก
พวกเขาเป็นใคร ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปประวัติพอสังเขปของ ดร. ทั้ง 2 รายให้ทราบ ดังนี้
@ดร.อั๋น นักธุรกิจไฟแรง-ปธ.สภาอุตฯตะวันออก รับผิดชอบ EEC ของรัฐบาล
ดร.อั๋น หรือนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ บุตรชายของนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชุดปัจจุบัน
เบื้องต้นต้องขอท้าวความไปยัง ‘บิดา’ ของ ดร.อั๋น เพื่อให้เข้าใจเส้นทางการเมืองของ 2 พ่อลูกมากขึ้น สำหรับนายมหรรณพ เมื่อปี 2529 เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก) ปี 2531-2534 เป็นกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนา ปี 2535-2544 เป็นรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรค) ต่อมาเป็นที่ปรึกษา รมว.แรงงาน (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ต่อมาช่วงปี 2546 ได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา ต่อมาเมื่อปี 2547 เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย หลังจากนั้นเมื่อปี 2548 ได้พ้นสมาชิกภาพจากพรรคไทยรักไทย ภายหลังการรัฐประหารปี 2549 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ส.ว. ประเภทสรรหา กระทั่งรัฐประหารปี 2557 จึงดำรงตำแหน่ง สนช.
สำหรับ ดร.อั๋น หรือนายชาญกฤช บุตรชายนายมหรรณพ นับเป็นหนึ่งในนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองคนหนึ่งในสายงานอุตสาหกรรม เมื่อปี 2559 นั่งเก้าอี้ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.สมุทรปราการ ต่อมาปี 2561 เป็นประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับความไว้วางใจให้เป็นหนึ่งในทีมงานที่ดูแลเรื่องระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC กระทั่งมาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ โดยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค
ส่วนในแวดวงธุรกิจ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) (TMILL) ยักษ์ใหญ่ในกลุ่มธุรกิจการเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร โดยมีคนสกุล ‘เดชวิทักษ์-ชุติมาวรพันธ์’ เป็นกลุ่มผู้บริหาร
บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL มีนางอรุณี เดชวิทักษ์ (ภรรยานายมหรรณพ) ถือหุ้นอันดับ 10 รวม 2 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.50% มีบริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 274,508,840 หุ้น คิดเป็น 68.86% โดยบริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) ปรากฎชื่อของนางเยาวนุช เดชวิทักษ์ (สกุลเดิม ชุติมาวรพันธ์ ภรรยา ดร.อั๋น) เป็นกรรมการบริษัทด้วย
รายได้ทางธุรกิจของบริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) แจ้งงบการเงินช่วงไตรมาส 3/61 มีรายได้รวม 1,060 ล้านบาท กำไรสุทธิ 88 ล้านบาทเศษ ส่วนบริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) แจ้งงบการเงินช่วงไตรมาส 3/61 มีรายได้รวม 1,486 ล้านบาท กำไรสุทธิ 162 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2561 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org โทรศัพท์ติดต่อผ่านไปยังคนใกล้ชิด ดร.อั๋น เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อโต๊ะจีนในงานระดมทุนพรรคพลังประชารัฐดังกล่าว เบื้องต้นได้รับการแจ้งจากหน้าห้องของ ดร.อั๋น ระบุว่า ไม่สะดวกจะชี้แจง ขอให้รอทางพรรคพลังประชารัฐแถลงข่าว
@ดร.เอก อดีต ปธ.หอการค้าฯอายุน้อยสุดในไทย-ที่ปรึกษา 2 รมต.ยุค‘บิ๊กตู่’
ส่วน ดร.เอก หรือนายณพพงศ์ ธีระวร พื้นเพเป็นคน อ.รามัน จ.ยะลา เคยเป็นประธานหอการค้า จ.ยะลา เมื่ออายุเพียง 39 ปี ว่ากันว่าเป็นประธานหอการค้าที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย โดยช่วงปี 2540 ภายหลังเรียนจบปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา ได้บินกลับมากอบกู้เศรษฐกิจของธุรกิจครอบครัวจากพิษวิกฤติต้มยำกุ้ง ทำให้ได้รับการจับตามองอย่างมากในแวดวงธุรกิจขณะนั้น
ต่อมา ได้ก้าวขึ้นเป็นประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนเป็นกรรมการหอการค้าไทย กระทั่งปี 2558 มาดำรงตำแหน่งประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ปี 2561 นั่งรองประธานกรรมการในคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาพันธ์เอสเอ็มทีไทย
สำหรับในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เส้นทางชีวิตของ ดร.เอก รุ่งโรจน์อย่างต่อเนื่อง ยังสวมหมวกเป็นคณะทำงานดำเนินงานส่งเสริมช่องทางการตลาด สำหรับศูนย์สาธิตการตลาด และตลาดประชารัฐ ระหว่างกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยอีกใบ นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา รมช.อุตสาหกรรม และที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ) ด้วย ก่อนจะก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ
สำหรับธุรกิจครอบครัว บริษัท ชัยวร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จดทะเบียนเมื่อปี 2547 ปรากฏชื่อนายณพพงศ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจคนเดียว ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2560 รายได้รวมแค่ 400 บาท รายจ่ายรวม 1,276,036 ขาดทุนสุทธิ 1,316,065 บาท
ดร.เอก เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลายสำนักเกี่ยวกับการตัดสินใจลงสู่สนามการเมืองว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต เพราะไม่เคยคิดลงสนามการเมือง แต่ประสบการณ์ทำงานให้ภาคเอกชนด้านเศรษฐกิจระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ทำให้เข้าใจปัญหาและข้อจำกัดของประเทศ โดยเข้ามาเพื่อผลักดันนโยบายแก้ปัญหา และปลดล็อคข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบเศรษฐกิจฐานราก ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ถือเป็นกำลังสำคัญมากที่สุดในการขับเคลื่อนประเทศ (อ้างอิงจาก 77ข่าวเด็ดออนไลน์)
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2561 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พยายามโทรศัพท์ติดต่อ ดร.เอก ตามเบอร์ส่วนตัวหมายเลข 081-970-55xx หลายครั้ง แต่ไม่มีผู้ใดรับสาย นอกจากนี้ยังโทรศัพท์ติดต่อไปยังเบอร์สำนักงานรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ตามเบอร์โทรศัพท์ 02-507-6884 ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่า นายณพพงศ์ เพิ่งถูกแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเมื่อไม่นานมานี้ และเป็นตำแหน่งลอย ไม่มีที่ทำงานในกระทรวง และไม่มีเบอร์ประสาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประสานงาน ยังประชุมคณะรัฐมนตรีอยู่
นี่เป็นฐานข้อมูลเบื้องต้น และสายสัมพันธ์ทางการเมืองของ 2 ดร.อั๋น-เอก ฐานทุนใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ปรากฏชื่อบนผังโต๊ะจีนรวม 40 โต๊ะ มูลค่า 120 ล้านบาท
ส่วนทั้ง 40 โต๊ะ จะเป็นเงินของ ดร. ทั้ง 2 คนนี้หรือไม่ คงต้องรอคำชี้แจงกันต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
เจาะขั้นตอนสอบโต๊ะจีน 650 ล.พปชร. ควานหาต้นตอผัง-วัดฝีมือ กกต.?
ถ้ามีพร้อมคืนเงิน! พปชร.ปัดไร้หน่วยงานรัฐซื้อโต๊ะ-กกต.รอผลเปิดชื่อ คลัง-ททท.ปฏิเสธ
หวั่นถูกตัดสิทธิ์การเมือง! 4 รมต.พปชร.ไม่ขึ้นพูดเวทีระดมทุนโต๊ะจีน-บิ๊กนักการเมืองพรึบ
ภาพชุดใครเป็นใคร-ยลโฉมอาหารงานโต๊ะจีน 3 ล. งานระดมทุน 'พลังประชารัฐ'