- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ข้อมูลน่าสะพรึง! ชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วย’อาวุธปืน’เกือบ 40,000 คนในปี 2560
ข้อมูลน่าสะพรึง! ชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วย’อาวุธปืน’เกือบ 40,000 คนในปี 2560
“พบว่าชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรปเป็นผู้ก่อการฆาตกรรมด้วยอาวุธปืนกว่า 23,927 ครั้งจากปริมาณการเกิดเหตุการทั้งหมด 39,773 ครั้ง ซึ่งอัตราดังกล่าวรวมการอัตนิวิบาตกรรมด้วย”
กรณีศึกษาความรุนแรงในการใช้อาวุธปืนในสหรัฐ
จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดของทั้งศูนย์ควบคุมและยับยั้งโรครวมถึงองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อยับยั้งความรุนแรงจากอาวุธปืนเผยอัตราการเสียชีวิตจากอาวุธปืนของชาวอเมริกันพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี โดยผู้ก่อการฆาตกรรมด้วยอาวุธปืนมากที่สุดเป็นชายอเมริกันเชื้อสายยุโรป ในขณะที่เหยื่อจากอาวุธปืนสูงสุดคือชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา
ข้อมูลการสำรวจล่าสุดของศูนย์ควบคุมและยับยั้งโรค(Center for Disease Control and Preventions หรือ CDC) เผยว่า ชาวสหรัฐฯ เสียชีวิตจากอาวุธปืนกว่าเกือบ 40,000 รายในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดจากการตายด้วยอาวุธปืนในรอบทศวรรษ การสำรวจข้อมูลในเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการสำรวจข้อมูลของกองทุนการศึกษาเพื่อยับยั้งความรุนแรงจากอาวุธปืน (Educational Fund to Stop Gun Violence) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีอุดมการณ์สนับสนุนนโยบายควบคุมอาวุธปืน
สำนักข่าว CNN ได้ลองสำรวจข้อมูลในเรื่องเดียวกันและพบว่าในปี 2560 มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนกว่า 39,773 ราย ซึ่งมากกว่าในปี 2542 กว่า 10,000 ราย อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเนื่องมาจากอาวุธปืนต่อประชากร 100,000 คนเพิ่มขึ้นจาก 10.3 คนในปี 2542 เป็น 12 คนในปี 2560
ผู้สำรวจข้อมูลของ CDC ยืนยันกับ CNN เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่าตัวเลขดังกล่าวถูกต้องและการเสียชีวิตจากอาวุธปืนเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2544 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการบันทึกสถิติการเสียชีวิตจากอาวุธปืน
นักสำรวจข้อมูลจาก CNN กล่าวเพิ่มเติมว่ามีผู้เสียชีวิตจากการอัตนิวิบาตกรรมด้วยอาวุธปืนกว่า 23,854 รายในปี 2560 ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงที่สุดในรอบ 18 ปี ซึ่งมากกว่าในปี 2542 กว่า 7,000 ราย และอัตราการเสียชีวิตจากการกระทำอัตนิวิบาตรรมด้วยอาวุธปืนเพิ่มจาก 6.0 ในปี 2542 เป็น 6.9 ในปี 2560
ข้อมูลสถิติการเสียชีวิตจากอาวุธปืนนี้บันทึกทั้งการฆาตกรรม การอัตนิวิบาตกรรม การเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ การเสียชีวิตจากสงคราม และการเสียชีวิตจากการถูกวิสามัญฆาตกรรม
เมื่อวิเคราะห์ปริมาณการเสียชีวิตจากอาวุธปืนโดยแบ่งจากชาติพันธุ์และเพศ พบว่าชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรปเป็นผู้ก่อการฆาตกรรมด้วยอาวุธปืนกว่า 23,927 ครั้งจากปริมาณการเกิดเหตุการทั้งหมด 39,773 ครั้ง ซึ่งอัตราดังกล่าวรวมการอัตนิวิบาตกรรมด้วย
ในปี 2560 ผู้ชายชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรปอัตนิวิบาตกรรมด้วยอาวุธปืนสูงที่สุด โดยมีอัตราสูงถึง 14 รายจากประชากร 100,000 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับ
• 2.2 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรป
• 6.1 รายในผู้ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
• 0.7 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
• 3.0 รายในผู้ชายชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
• 0.5 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
• 9.3 รายในผู้ชายชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียนและอลาสก้า
• 1.4 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียนและอลาสก้า
ในปีเดียวกันอัตราเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากอาวุธปืนของผู้ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันพุ่งสูงสุดถึง 33 รายจากประชากร 100,000 ราย เมื่อเปรียบเทียบมกับ
• 3.5 รายในผู้ชายชาวเมริกันเชื้อสายยุโรป
• 1.1 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรป
• 3.5 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
• 1.4 รายในงผู้ชายชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
• 0.5 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
• 4.8 รายในผู้ชายชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียนและอลาสก้า
• 1.2 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียนและอลาสก้า
ในปีเดียวกัน ผู้ชายชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียนและอลาสก้ามีอัตราการเสียชีวิตจากอาวุธปืนจากการถูกวิสามัญฆาตกรรมหรือจากสงครามสูงที่สุดโดยสูงถึง 1.1 รายต่อประชากร 100,000 คน เมื่อเปรียบเทียบกับ
• 0.3 รายในผู้ชายชาวเมริกันเชื้อสายยุโรป
• 0.0 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรป
• 0.5 รายในผู้หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
• อัตราการเสียชีวิตของชาติพันธุ์อื่นไม่มีการบันทึกข้อมูลไว้หรือข้อมูลเชื่อถือไม่ได้
อเดลีน แอลชิน (Adelyn Allchin) ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจและวิจัยด้านสาธารณสุขกองทุนการศึกษาเพื่อยับยั้งความรุนแรงจากอาวุธปืนกล่าวว่า “ในปี 2560 มีคนกว่า 109 คนเสียชีวิตทุกวันจากการกระทำความรุนแรงด้วยอาวุธปืน ความรุนแรงจากการใข้อาวุธปืนเป็นหายนะทางสาธารณสุขที่มีการระบาดอย่างแพร่หลายและยังคงต้องการทางออก ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมเราถึงต้องมีการออกฏหมายควบคุมอาวุธปืน เช่น การควบคุมการออกใบอนุญาต หรือกฎหมายที่ยังหละหลวม”
“ความรุนแรงจากอาวุธปืนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรามานานแล้ว สมควรแก่เวลาแล้วที่ผู้แทนของเราในทุกระดับจะต้องร่วมมือกันทำงานเพื่อยับยั้งการก่อความรุนแรงจากอาวุธปืนให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดและให้กลายเป็นเหตุการที่ไม่ปกติ
เมื่อวันพุธที่ 12 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา องค์กรปืนไรเฟิลแห่งชาติได้ทวีตข้อความแสดงจุดยืนว่า “การออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนไม่ใช่ทางออกของปัญหา” ถ้าเราต้องการยับยั้งการเกิดความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืน ผู้นำของเราจะต้องเลิกกล่าวหาว่าองค์กรปืนไรเฟิลแห่งชาติกลายเป็นผู้ร้ายและหาหนทางยับยั้งการเสียชีวิต”
ทั้งนี้ พลเรือนชาวอเมริกันสามารถครอบครองปืนได้อย่างถูกกฏหมายตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ มีข้อมูลระบุว่า ในปี 2009 พลเรือนชาวอเมริกันมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองมากถึง 310 ล้านกระบอก ขณะที่พลเรือนทั่วโลกมีอาวุธปืนครอบครอง 650 ล้านกระบอกเท่ากับว่าคนอเมริกันมีปืนเกือบครึ่งหนึ่งของคนทั้งโลกที่มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และตัวเลขขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ
เป็นข้อมูลอีกด้านเกี่ยวกับความรุนแรงจากอาวุธปืนอันน่าสะพรึงกลัวในสหรัฐ
ที่มา: https://www.nbc15.com/content/news/Gun-deaths-in-US-reach-highest-level-in-nearly-40-years-CDC-data-reveal-502774212.html?fbclid=IwAR3S7iCywYiVG8PdoGCYcQhvkpW6nyxIjlAcKMaSLoVT4Jm84jckiNnO48k