- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ส่องคดีทุจริตโลก: เมื่อธนาคารยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นถูกสหรัฐฯสอบสวน ปมเอี่ยวฟอกเงินเกาหลีเหนือ
ส่องคดีทุจริตโลก: เมื่อธนาคารยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นถูกสหรัฐฯสอบสวน ปมเอี่ยวฟอกเงินเกาหลีเหนือ
"...ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา ศาลประจำนิวยอร์กได้ออกหมายเรียกธนาคาร MUFG ให้มารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของหน่วยงานสอบสวนด้านการคลังได้ร้องต่อศาลว่าธนาคาร MUFG ได้ละเลยต่อมาตรการตรวจสอบเพื่อปองกันไม่ให้เกิดการทำธุรกรรมกับบุคคล บริษัท หรือประเทศที่ถูกแบล็คลิสต์ พร้อมระบุว่า ธนาคารล้มเหลวในการออกมาตรการเพื่อจะตรวจสอบตัวตนของลูกค้าชาวจีนจำนวน 2 รายที่ไปทำธุรกิจ ณ บริเวณชายแดนระหว่างประเทศจีนและเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบกิจกรรมการฟอกเงินอยู่บ่อยครั้ง..."
ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีข้อกล่าวหาทุจริตระดับโลกเกิดขึ้นคดีหนึ่ง โดยสื่อในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ลงข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของสำนักงานอัยการ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจะสืบสวนสอบสวนธนาคาร Tokyo-Mitsubishi UFJ (MUFJ) ซึ่งถือว่าเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยข้อกล่าวหาว่าอาจจะมีส่วนพัวพันกับการฟอกเงินที่ได้มาจาก กิจรรมของประเทศเกาหลีเหนือ
โดยในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา ศาลประจำนิวยอร์กได้ออกหมายเรียกธนาคาร MUFG ให้มารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของหน่วยงานสอบสวนด้านการคลังได้ร้องต่อศาลว่าธนาคาร MUFG ได้ละเลยต่อมาตรการตรวจสอบเพื่อปองกันไม่ให้เกิดการทำธุรกรรมกับบุคคล บริษัท หรือประเทศที่ถูกแบล็คลิสต์ พร้อมระบุว่า ธนาคารล้มเหลวในการออกมาตรการเพื่อจะตรวจสอบตัวตนของลูกค้าชาวจีนจำนวน 2 รายที่ไปทำธุรกิจ ณ บริเวณชายแดนระหว่างประเทศจีนและเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบกิจกรรมการฟอกเงินอยู่บ่อยครั้ง
เกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 หน่วยงานด้านคลังของสหรัฐอเมริกาได้ปรับเงินธนาคารแห่งนี้เป็นแล้ว 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (8,197,500,000 บาท) หลังจากที่ธนาคารได้นำบันทึกข้อมูลทางธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองประเทศอย่างประเทศอิหร่านและประเทศพม่าออกจากสารบบ และในปีต่อมาก็ได้มีการปรับธนาคารแห่งนี้ไปอีก 315 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (10,328,850,000 บาท ) ในฐานความผิดว่าพยายามจะปกปิดข้อมูลความผิดพลาดในการจัดการของธนาคาร
ทั้งนี้ MUFG ได้จัดประเภทและยกระดับตัวเองว่าเป็นธนาคารแห่งชาติเมื่อช่วง 1 ปีก่อน และยังยืนยันว่าหน่วยงานทางภาครัฐนั้นไม่มีอำนาจที่จะลงโทษธนาคารได้ นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ออกประกาศว่าเหตุผลของการยกระดับดังกล่าวมาจากการประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของธนาคาร
แต่อย่างไรก็ตามหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐได้กล่าวแย้งว่าการจัดประเภทของธนาคารดังกล่าวนั้นเป็นวิธีการที่จะหาทางหลบเลี่ยงไม่ให้โดนลงโทษโดยอาศัยการยกระดับ เพื่อที่จะได้มีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการตรวจสอบของธนาคารที่ดำเนินอยู่ ณ ขณะนี้
เบื้องต้น มีข้อสังเกตจากทางหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายของนิวยอร์กว่านับตั้งแต่ที่ธนาคารได้ถูกปรับเงิน ได้มีการติดตั้งระบบตรวจสอบเพื่อใช้ตรวจธนาคาร MUFG ในแง่ของธุรกรรมการเงินว่าจะไปเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือประเทศใดบ้างที่ถูกห้ามไม่ให้ซื้อขายกับสหรัฐอเมริกาหรือไม่ แต่ธนาคาร MUFG ก็ยังเลือกที่จะปกปิดข้อมูลดังกล่าว
ซึ่งหลังจากที่มีการปรับค่าปรับธนาคาร MUFG ทางหน่วยงานตรวจสอบของนิวยอร์กก็ได้ติดตั้งระบบตรวจสอบเอาไว้เพิ่มเติมกับทางธนาคารอีกเพื่อจะดักจับอาชญากรรมทางการเงิน จนกระทั่งในเดือน มี.ค. 2560 ก็พบว่ามีการรายงานว่าพบข้อมูลว่ามีอดีตลูกจ้างของธนาคาร MUFG รายหนึ่งเข้าไปมีส่วนร่วมเกี่ยวกับโปรแกรมต่อต้านการฟอกเงินหรือที่มีชื่อย่อโปรแกรมว่า “ไฟเผาขยะ” (Dumpster Fire)
และยังมีรายงานข่าวว่า หน่วยงานสอบสวนได้นำเอากรณีดังกล่าวไปฟ้องร้องต่อศาลแล้ว โดยกล่าวหาว่าหลังจากที่ธนาคาร MUFG ได้ยกระดับฐานะตัวเองจากธนาคารในระดับรัฐเป็นธนาคารแห่งชาติ มีความพยายามจะนำเอาระบบตรวจสอบที่ทางรัฐได้ติดตั้งเอาไว้ออกไป โดยไม่แสดงให้เห็นว่าได้พยายามที่จะแก้ไขข้อกล่าวหาของหน่วยงานสอบสวนที่มีต่อตัวธนาคาร
ดังนั้น ณ เวลานี้จึงกลายเป็นข้อถกเถียงกันระหว่างธนาคาร MUFG กับหน่วยงานสอบสวนของนิวยอร์กว่าการยกระดับฐานะของ MUFG เป็นธนาคารแห่งชาติมีความเหมาะสมหรือไม่ ในช่วงเวลาที่ทางหน่วยงานสอบสวนของรัฐลังสอบสวนข้อกล่าวหาการฟอกเงินของธนาคารอยู่
ขณะที่นาง Elizabeth Rosenberg เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของศูนย์กลางเพื่อความมั่นคงใหม่ของอเมริกัน (Center for a New American Security) ซึ่งศึกษาและวิจัยมาตรการลงโทษประเทศประเทศเกาหลีเหนือได้ระบุถึงสาเหตุหนึ่งของการออกมาตรการอันเข้มข้นเพื่อตรวจสอบป้องกันพฤติกรรมฟอกเงินของธนาคารนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะลงโทษและบังคับใช้กับประเทศที่ถูกบอยคอตซึ่งรวมไปถึงเกาหลีเหนือด้วย โดยถือว่าสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปยังไม่มีมาตรการที่เหมาะสมและเข้มข้นเพื่อที่จะจัดการกับลงโทษประเทศเกาหลีเหนือด้วยมาตรการทางการเงินแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามตัวแทนจากธนาคาร MUFG ได้ออกมาใหข้อมูลเช่นกันว่าทางธนาคารนั้นกำลังปรับปรุงระบบตรวจสอบของตัวเองให้มีความเหมาะสมในการตรวจสอบข้อทุจริตในกระบวนการธุรกรรมทางการเงินอยู่
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาตรการป้องกันการฟอกเงินที่ได้บังคับใช้กับทางธนาคารนั้นถือว่ามีข้อจำกัดที่ยากมากสำหรับธนาคารที่จะปฏิบัติตาม ขณะที่กลุ่มธุรกิจการค้าต่างๆ ณ เวลานี้ก็ต้องการให้รัฐสภาสหรัฐอเมริกาช่วยเหลือ แก้ไขหลักการ เงื่อนไขการรายงานธุรกรรมอัดผิดปรกติและสร้างความผ่อนคลายให้กับธนาคารต่างๆ เพื่อจะทำให้ผู้ใช้บริการธนาคารได้รู้สึกว่าความมั่นใจในการทำงานของธนาคาร
พร้อมทั้งลดมาตรการอันรุนแรงที่หน่วยงานทางกฎหมายได้ใช้ลงโทษธนาคารที่ไม่สามารถรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยได้ (เรียบเรียงจากเว็บไซต์ : https://www.nytimes.com/2018/11/21/business/mitsubishi-ufj-north-korea.html)
คดีนี้จึงนับเป็นคดีใหญ่อีกหนึ่งคดี ที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ส่องคดีทุจริตโลก : เมื่อ ปธ.ANOC ลงจากตำแหน่ง หลังถูกสอบปลอมแปลงกระบวนการอนุญาโตฯ จัดโอลิมปิก