- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เปิดคำให้การ'หม่อมอุ๋ย' ผู้จัดการมรดก'ปัฐวาท' ไขปม 'บิ๊กป้อม' คืนนาฬิกาหรูครบ22เรือนหรือยัง?
เปิดคำให้การ'หม่อมอุ๋ย' ผู้จัดการมรดก'ปัฐวาท' ไขปม 'บิ๊กป้อม' คืนนาฬิกาหรูครบ22เรือนหรือยัง?
"...สำหรับเรื่องการดูแลทรัพย์สินที่ไม่ใช่ตัวเงินรวมไปถึงนาฬิกานั้น คุณปัฐวาทเขาแบ่งเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นถ้าหากอยากจะรู้ว่า พล.อ.ประวิตรคืนนาฬิกาไปเมื่อใดนั้นก็ต้องไปถาม ลูกๆของคุณปัฐวาท ที่เป็นคนรับสืบทอดมรดก และในตอนนี้ลูกๆของ คุณปัฐวาท ก็เป็นผู้ที่ดูแลทั้งหมด ไม่ได้แบ่งให้ใคร..."
ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่คนในสังคมไทยให้ความสนใจ เฝ้ารอคอยดูบทสรุปท้ายว่าผลจะลงเอยอย่างไร สำหรับกรณีครอบครองนาฬิกาหรู ของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่อยู่ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ยืนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนี้ว่า ใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1. จากกรณีที่ปรากฎภาพถ่ายว่า พล.อ.ประวิตร มีนาฬิกาหรูจำนวน 25 เรือน จริงๆแล้วเป็นภาพซ้ำกันถึง 3 เรือน จึงทำให้ พล.อ.ประวิตร มีนาฬิกาหรูอยู่ทั้งสิ้น 22 เรือน
2. นาฬิกาหรูทั้งหมดนั้นได้ไปยืมมาจากเพื่อนเพียงแค่คนเดียว และเสียชีวิตไปแล้ว
3. การตรวจสอบของ ป.ป.ช.ที่จะต้องทำต่อ คือ ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัทที่เกี่ยวข้องที่เหลืออีก 10 บริษัท จากทั้งหมด 13 บริษัท และสอบพยานหน้าใหม่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 2 ปาก จากที่เคยซักถามไปแล้ว 4 ปาก
ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องจำนวนนาฬิกาหรู นั้น หากย้อนกลับไปดูข้อมูลภาพถ่ายนาฬิกาหรู ที่พล.อ.ประวิตร สวมใส่ที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้ จะพบว่า มี Rolex 11 เรือน นาฬิกา Patek Philippe 8 เรือน นาฬิกา Richard Mille 3 เรือน นาฬิกา Audemars Piguet 2 เรือน และ นาฬิกา A. Lange & Sohneอีก 1 เรือน มูลค่าหลายสิบล้านบาท
อย่างไรก็ดี จากการแถลงข่าวที่ระบุว่ามีนาฬิกาซ้ำกันอยู่ 3 เรือนนั้น เลขาธิการฯ ป.ป.ช. ไม่ได้ระบุว่านาฬิกาที่ซ้ำกันยี่ห้ออะไรบ้าง?
ขณะที่ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ตรวจสอบข้อมูลไปยัง ร้านนาฬิกา AUDEMARS PIGUET BOUTIQUE BANGKOK ซึ่งถูกระบุว่า เป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิการุ่น Royal Oak Chronograph Automatic Blue Dial มูลค่าเรือนละ 830,000 บาท ของ AUDEMARS PIGUET ที่ปรากฎเป็นข่าวว่าเป็น 1 ใน 22 เรือน ที่ พล.อ.ประวิตร เคยสวมใส่อยู่
ได้รับการยืนยันข้อมูลจากพนักงานข่ายรายหนึ่งว่า ป.ป.ช. เคยมาสอบถามข้อมูลแล้ว แต่ขอปฏิเสธจะให้ข้อมูลกับสำนักข่าวอิศรา เนื่องจากเป็นนโยบายรักษาความลับของทางบริษัท แต่ก็ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ป.ป.ช. มีการติดตามตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้จริง
ส่วนประเด็น ที่ว่า นาฬิกาหรูทั้งหมดนั้นได้ยืมมาจากเพื่อนเพียงแค่คนเดียว และก็เสียชีวิตไปแล้ว หากโฟกัสข้อมูลก่อนหน้านี้ จะพบว่า บุคคลที่อยู่ในข่ายว่าเป็นผู้ให้ พล.อ.ประวิตร ยืมนาฬิกาทั้ง 22 เรือน ดังกล่าว น่าจะเป็น นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท คอม-ลิงค์ จำกัด ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2560 ด้วยปัญหาสุขภาพ (อ่านประกอบ : เปิดปูม ‘เสี่ยคราม’ ตัวช่วย ‘บิ๊กป้อม’ ให้ยืมนาฬิกาหรู 22 เรือน กก.บ.ลงทุน‘ทรีนีตี้ วัฒนา’)
เบื้องต้นสำหรับประเด็นนี้ ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ทายาท ของ นายปัฐวาท เพื่อให้ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยข้อมูลทายาท ของนายปัฐวาท มีอยู่ 2 คน คือ น.ส.จิราพรรณ สุขศรีวงศ์ และ น.ส.จุติพร สุขศรีวงศ์ ซึ่งมีข้อมูลปรากฏว่า ‘จุติพร’ นั้น เคยทำธุรกิจศูนย์การเรียนรู้มวยไทยตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 3 และชั้น 4 อาคารท่ามหาราช ถ.มหาธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. ในช่วงปี 2559
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้จัดการกองมรดกของ นายปัฐวาท เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
ม.ร.ว.ปรีดียาธร ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า ตนเป็นผู้จัดการกองมรดกของนายปัฐวาท จริง แต่เป็นผู้จัดการในเฉพาะส่วนที่เป็นเงินสดเท่านั้น ที่ผ่านมา นายปัฐวาท แบ่งมรดกของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว คงเหลือแต่ในบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของนายปัฐวาท เท่านั้น ดังนั้นลูกๆของนายปัฐวาท จึงได้ไปยื่นต่อศาลให้ตนเป็นผู้จัดการมรดกเฉพาะในส่วนที่เป็นบัญชีธนาคารของนายปัฐวาท เท่านั้น
" สำหรับเรื่องการดูแลทรัพย์สินที่ไม่ใช่ตัวเงินรวมไปถึงนาฬิกานั้น คุณปัฐวาทเขาแบ่งเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นถ้าหากอยากจะรู้ว่า พล.อ.ประวิตรคืนนาฬิกาไปเมื่อใดนั้นก็ต้องไปถาม ลูกๆของคุณปัฐวาท ที่เป็นคนรับสืบทอดมรดก และในตอนนี้ลูกๆของ คุณปัฐวาท ก็เป็นผู้ที่ดูแลทั้งหมด ไม่ได้แบ่งให้ใคร"
ทั้งหมดนี้ คือความคืบหน้าในการติดตามตรวจสอบข้อมูลนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร ทั้ง 22 เรือน ของ ป.ป.ช. ที่สำนักข่าวอิศรา นำมาขยายผลต่อ
อย่างไรก็ดี หากพิจารณารายละเอียดการตรวจสอบข้อมูลของป.ป.ช. ในปัจจุบัน จะพบข้อสังเกตที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ หากเปิดปฎิทินข่าวดู จะพบว่าหลังจากที่นายปัฐวาท เสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2560 ยังปรากฎภาพถ่าย พล.อ.ประวิตรอยู่กับนาฬิกาหรูอีก 17 เรือนรวมถึงภาพที่ พล.อ.ประวิตร สวมนาฬิกายี่ห้อริชาร์ดมิลล์ที่ขณะเข้ารับตำแหน่งใน ครม. ประยุทธ์ 5 เมื่อเดือน ธ.ค.2560 จนเป็นต้นเหตุทำให้ต้องมีกระบวนการสอบสวนเกิดขึ้น
ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดข้อกังขาขึ้นมาว่า
1. ถ้าหากนาฬิกาทั้งหมดนั้น พล.อ.ประวิตร ยืม นายปัฐวาท มาจริง ทำไมถึงไม่คืนให้กับทายาทของ นายปัฐวาท ไปนับตั้งแต่วันที่เสียชีวิต
2. ถ้าหากขอยืมนาฬิกาหรูจากทายาทของนายปัฐวาท ต่อ ทำไมถึงไม่มีทายาทของนายปัฐวาท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องออกมายืนยันกับสังคมเลยว่า พล.อ.ประวิตรได้ต่ออายุการยืมนาฬิกากับทายาทของนายปัฐวาท และในตอนนี้ก็ไม่ปรากฎข้อมูลจากทางฝั่งของทายาทหรือครอบครัวของนายปัฐวาท ออกมายืนยันเลยว่า พล.อ.ประวิตรได้คืนนาฬิกาไปหมดแล้ว
3. มีภาพ พล.อ.ประวิตรสวมใส่นาฬิกาไม่ซ้ำเรือนออกงานในช่วงหลังจากนายปัฐวาท เสียชีวิต เป็นไปได้หรือไม่ว่า พล.อ.ประวิตรอาจจะคืนนาฬิกาไปบางส่วน หรือหมดแล้ว และไปซื้อนาฬิกามาใส่เอง?
4.ที่มาที่ไปของนาฬิกาหรูเหล่านี้มาจากไหนบ้าง มีการซื้อจากตัวแทนจำหน่ายแห่งไหนในประเทศไทย หรือว่าซื้อจากต่างประเทศ มีเอกสารหลักฐานอะไรที่ยืนยันความเป็นเจ้าของ ใบเสร็จรับงาน ใบสั่งซื้อสินค้า มีรายละเอียดเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ป.ป.ช. ไม่เคยนำมายืนยันต่อสาธารณชน
ทั้งหมดนี้ คือ ประเด็นสำคัญที่ซ่อนอยู่ในกรณีการตรวจสอบนาฬิกาหรู ของพล.อ.ประวิตร ที่สังคมต่างรอคอยการทำงานของ ป.ป.ช.และหน่วยงานตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง ว่าจะมีความชัดเจนออกมาเมื่อไร และมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ยืนยันความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้เพียงใด
อ่านประกอบ:
ป.ป.ช.มาถามข้อมูลแล้ว! พนง. ขาย Audemars เรือนละ8.3แสน ปัดตอบ 'ปัฐวาท' เจ้าของหรือไม่
ป.ป.ช.แจงผลสอบ นาฬิกาหรู 'พล.อ.ประวิตร' มีจริง 22 เรือน ยืมเพื่อนมาแค่คนเดียว