- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- วิคตอเรีย ซีเครท ที่แท้อาบอบนวดเก่า‘เสี่ยชูวิทย์’ เปลี่ยนมือ 3 หน
วิคตอเรีย ซีเครท ที่แท้อาบอบนวดเก่า‘เสี่ยชูวิทย์’ เปลี่ยนมือ 3 หน
สืบค้นเอกสารดูความเป็นมา หจก.อมรินทร์ออนเซน ผู้ประกอบการ‘วิคตอเรีย ซีเครท’อาบอบนวดชื่อดัง ก่อนถูกทลาย จดทะเบียนปี 2509 นายทหารหุ้นใหญ่ เสี่ยชูวิทย์’โผล่ปี 36 พร้อมย้ายที่ตั้งใหม่ เปลี่ยนมือ 3 รอบ ก่อนถึง‘ศศิธร’ปี 49-ล่าสุด มีประวัติถูกสรรพากรทวงถาม
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลรายงานไปแล้วว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อมรินทร์ออนเซน (AMARIN ONSEN LIMITED PARTNERSHIP) เจ้าของสถานบริการอาบอบนวดชื่อดัง ‘วิคตอเรีย ซีเครท’ เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)และหลายหน่วยงานเข้าไปทลายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีชื่อ น.ส. ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เป็นเจ้าของและมีเครือข่ายรวม 10 แห่ง (อ่านประกอบ: ใครคือเจ้าของ ‘วิคตอเรีย ซีเครท’ อาบอบนวดดัง โยง 10 แห่ง)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่าสถานบริการแห่งนี้เปลี่ยนมือมาแล้วอย่างน้อย 3 หน เรียบเรียงความเป็นมาดังนี้
หจก. อมรินทร์ออนเซน (AMARIN ONSEN LIMITED PARTNERSHIP) จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 30 ส.ค. 2509 ประกอบกิจการอาบน้ำ อบ นวด สาภาพบุรุษและสตรี ที่ตั้งเลขที่ 524/1 ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน พระนคร ทุน 300,000 บาท มีหุ้นส่วน 3 คน 1.พ.ต.รังสรรค์ ประดิษฐ์พงษ์ อาชีพรับราชการ ลงหุ้นด้วยเงิน 150,000 บาท 2.นายศุภชัย พรหมเดช อาชีพรับจ้าง ลงหุ้น 75,000 บาท และ 3.นายวีระชาติ พรหมเดช อาชีพรับจ้าง ลงหุ้น 75,000 บาท
29 ก.ย.2526 เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ นายสุรศักดิ์ ทองบุญชุม 150,000 บาท นางสุนีรัตน์ ทองบุญชุม และ น.ส.เอกรัชฎ์ ทองบุญชุม คนละ 75,000 บาท ย้ายที่ตั้งเลขที่ 20 ตรอกบางขุนพรหม ถ.สามเสน แขวงสามเสน เขตพระนคร กรุงเทพฯ
14 ส.ค.2534 เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ นายสุรศักดิ์ ทองบุญชุม 150,000 บาท ที่เหลือ นางสุนีรัตน์ ทองบุญชุม น.ส.เอกรัชฎ์ ทองบุญชุม และนายวิศิษฎ์ แซ่ฟ้ง มี นางสุนีรัตน์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ
23 เม.ย.2536 เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ นายบรรเจิด เตชะอินทราวงศ์ ลงหุ้นใหญ่ 150,000 บาท นายชูวิทช์ กมลวิศิษฎ์ 100,000 บาท นายสำราญ ภัทรเกษวิทย์ 50,000 บาท และ นายวิศิษฐ แซ่ฟ้ง 10,000 บาท โดยมีนายชูวิทช์ และ นายวิศิษฐ แซ่ฟ้ง เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ (ดูเอกสารประกอบ)
27 ก.ย.2536 นายชูวิทย์ ลงหุ้นใหญ่ 250,000 บาท และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ มีนายสำราญ ภัทรเกษวิทย์ ลงหุ้น 50,000 บาท พร้อมกับย้ายที่ตั้ง เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน (ดูเอกสารประกอบ)
3 ก.ค.2546 นายชูวิทย์โอนเงินลงทุนให้ บริษัท ภาติฌาน จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 220,000 บาท (บริษัทนี้นายชูวิทย์เป็นเจ้าของ ที่ตั้งเดียวกับ หจก. เวนิสสถานบริการอาบน้ำ นวดอบ) นายชูวิทย์เหลือเงินลงทุน 30,000 บาท และ นายสำราญ ภัทรเกษวิทย์ 50,000 บาท โดยมีนายชูวิทย์ และ นายภารวิทย์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ
17 พ.ย.2547 ไม่มีชื่อนายชูวิทย์อีกต่อไป เหลือผู้ลงหุ้น 2 คนคือ นายภารวิทย์ วิเชียรเพชร ลงหุ้น 90,000 บาท และ นายชาตรี ปิติกุล 210,000 บาท นายภารวิทย์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ (ดูเอกสารประกอบ)
1 ส.ค.2549 น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ จำนวน 210,000 บาท นายมาตรวงศ์ ชนินทราเวศย์ 85,000 บาท และ นายภารวิทย์ วิเชียรเพชร 5,000 บาท มี น.ส.ศศิธร และ นายภารวิทย์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ
7 พ.ย.2550 น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ลงทุน 215,000 บาท และนายมาตรวงศ์ ชนินทราเวศย์ 85,000 บาท
กระทั่งล่าสุด 3 ต.ค.2560 น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ 250,000 บาท (83.33%) และ นายอภิชาติ แซ่แต้ 50,000 บาท 16.66%) มี น.ส.ศศิธร เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ (ดูเอกสารประกอบ)
จากข้อมูลข้างต้นเห็นได้ว่านับตั้งแต่ 27 ก.ย.2536 ที่นายชูวิทย์ เป็นเจ้าของและย้ายที่ตั้งมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบัน เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. เท่ากับมีการเปลี่ยนมือมาแล้วอย่างน้อย 3 เจ้าของ คือนายชูวิทย์ ,นายชาตรี ปิติกุล และ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์
หากนับตั้งแต่จดทะเบียนก่อตั้ง หจก.ในปี 2509 มี พ.ต.รังสรรค์ ประดิษฐ์พงษ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถัดมา นายสุรศักดิ์ ทองบุญชุม ,นายบรรเจิด เตชะอินทราวงศ์ ซึ่งยังมีสำนักงานที่ตั้งเดิมเลขที่ 524/1 ถ.เพลินจิต ย้ายมา เลขที่ 20 ตรอกบางขุนพรหม ถ.สามเสน หจก.นี้ เปลี่ยนเจ้าของ 3 หน กระทั่งย้ายที่ตั้งปัจจุบันเปลี่ยนมืออีกอย่างน้อย 3 ครั้ง เท่ากับ หจก. อมรินทร์ออนเซน เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่มาแล้วอย่างน้อย 6 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่า ตั้งแต่อยู่ที่ตั้งแห่งเก่า ถนนสามเสน และ ที่ตั้งแห่งใหม่ งบการเงินของ หจก.แห่งนี้แจ้งว่าไม่มีรายได้ และเคยถูกกรมสรรพากรส่งหนังสือแช่แข็งห้ามจดทะเบียบเลิกกิจการ และสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น เนื่องจากค้างการชำระภาษีอากรกับทางราชการเป็นจำนวนมาก
นับจากเจ้าหน้าที่ยกกำลังนับร้อยเข้าตรวจสอบอย่างขึงขัง เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2561 ต้องรอดูอาฟเตอร์ช็อกจากนี้ มีหรือไม่ และอย่างไร? หรือแค่อีเวนท์ หรือ ไฟไหมฟาง เหมือนที่ผ่าน ๆ มา?