- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- สำรวจสถานการณ์ธุรกิจ'สื่อ'ปี60 ส่องอนาคตปี61วาระดิ้นรนสู้เพื่อความอยู่รอด(ของจริง)
สำรวจสถานการณ์ธุรกิจ'สื่อ'ปี60 ส่องอนาคตปี61วาระดิ้นรนสู้เพื่อความอยู่รอด(ของจริง)
"...คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา เป็นปีที่สื่อหลายแห่งหลายค่าย ต้องเผชิญหน้า กับ สถานการณ์ธุรกิจ อันหนักหน่วง จำต้องหากลยุทธ์วิธีทางแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อช่วยพยุงธุรกิจให้อยู่รอดต่อไป สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ธุรกิจ พร้อมหนทางแก้ไขปัญหาของค่ายสื่อแต่ละแห่งมานำเสนอ ที่สามารถสืบค้นได้มาฉายภาพให้สาธารณชนได้รับทราบกัน..."
ในช่วงก่อนหยุดเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่ รายงานสถานการณ์สื่อปี 60 "ควบคุม คุกคาม คลุกคลาน” เพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนร่วมวิชาชีพยืนหยัดต่อสู้ต่อผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นแม้จะเหนื่อยยากเพียงใดไปแล้ว
และคงไม่มีใครปฏิเสธว่า ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา เป็นปีที่สื่อหลายแห่งหลายค่าย ต้องเผชิญหน้า กับ สถานการณ์ธุรกิจ อันหนักหน่วง จำต้องหากลยุทธ์วิธีทางแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อช่วยพยุงธุรกิจให้อยู่รอดต่อไป
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ธุรกิจ พร้อมหนทางแก้ไขปัญหาของค่ายสื่อแต่ละแห่งที่สามารถสืบค้นได้ มาฉายภาพให้สาธารณชนได้รับทราบกันทั่วไป ดังนี้
@ ไทยรัฐ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ : ภายหลังปรับลดจำนวนหนังสือพิมพ์ลงในช่วงหลัง แต่จำนวนหนังสือพิมพ์ไทยรัฐยังจัดพิมพ์หลายแสนฉบับต่อวัน ถือว่ายังมีจำนวนการพิมพ์สูงที่สุดในประเทศ และสถานการณ์โดยรวมยังถือเป็นสื่อที่มีความมั่นคงมากที่สุดเช่นกัน โดยทางบริษัทแจกโบนัสพนักงาน 2 เดือน และปรับขึ้นเงินเดือนตามวงรอบเป็นปกติ ส่วนสวัสดิการทางไทยรัฐยังมีให้พนักงานเหมือนเดิม อาทิ ค่าเข้าเวรที่คิดเฉลี่ยตามอัตราเงินเดือน ผู้สื่อข่าวสามารถเรียกใช้รถจากส่วนกลาง เพื่อเดินทางไปสถานที่ต่างๆได้
ไทยรัฐทีวี : มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารสถานีใหม่เกือบยกชุด โดยเฉพาะทีมที่ยกกันมาจากสปริงนิวส์ ซึ่งเข้ามาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสถานี แต่สุดท้ายไม่สามารถบริหารงานได้ตามที่ “ตระกูลวัชรพล” ตั้งความหวังเอาไว้ ซึ่งในช่วงปี 2560 ได้ให้โอกาสผู้บริหารชุดเก่าได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอ โดยเฉพาะช่วงข่าวที่เน้นข่าว “ลูกค้า” มาก จนไม่สามารถคุมเนื้อหาหลักเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ผู้บริหารไทยรัฐทีวีชุดเก่าถูกให้ออกในช่วงเดือนพฤศจิกายน
จากนี้ต้องจับตาดูว่าไทยรัฐทีวีจะมีความเปลี่ยนแปลงภายใต้ผู้บริหารชุดใหม่มากน้อยเพียงใด
ส่วนสวัสดิการของพนักงานในช่วงต้นปีมีการปรับลดค่าเดินทางการปฏิบัติงานต่างจังหวัด จากเดิมที่เคยได้รับ 600 บาทต่อวัน เหลือ 400 บาทต่อวัน ส่วนหมายงานต่างประเทศหากได้รับเชิญจากหน่วยงานรัฐ-เอกชน จะไม่มีการจ่ายเบี้ยเลี้ยง
@ เดลินิวส์
เนื่องจากการบริหารหนังสือพิมพ์แยกออกขาดกับโทรทัศน์ ผลประกอบการของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ยังถือว่าขาดทุนกำไร ยังประคับประคองสถานการณ์ไปได้ หากส่วนงานใดมีพนักงานลาออก ก็ยังรับพนักงานมาทดแทนอยู่ โดยเฉพาะฝ่ายข่าวไม่ปล่อยให้มีช่องโหว่ แตกต่างจากฝ่ายผลิตที่ลดจำนวนพนักงานลง เพื่อลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ได้จัดพิมพ์จำนวนมากเหมือนเก่า
โดยในปีนี้หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ยังจ่ายเงินโบนัสให้กับพนักงาน 2 เดือน ส่วนแนวโน้มในปี 2561 ปรับตัวมาลุยงานด้านออนไลน์มากขึ้น ไม่มีการเสริมทัพปรับทีมเป็นพิเศษ แต่ให้นโยบายทุกโต๊ะข่าวให้เน้นผลิตเนื้อหาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสื่อออนไลน์
@ มติชน
มีกระแสข่าวจะขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน โดยในช่วงแรกคาดว่าจะปรับเงินเดือนในช่วงปลายปี 2560 แต่เนื่องจากทางบริษัทได้ปลดพนักงานฝ่ายผลิต ในชื่อบริษัทงานดี จำกัด ออกไปเกือบทั้งหมดในช่วงเดือนพฤศจิกายน จึงต้องร่นเวลาปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานไปในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2561
ขณะที่สถานการณ์โดยรวมถือว่าคงที่ โดยทางบริษัทเน้นการนำเสนอข่าวในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ส่วนภาคการผลิตและจัดจำหน่ายได้จัดให้บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายให้ทั้งหมด โดยล่าสุดได้เลิกผลิตหนังสือพิมพ์ที่ออกในวันออกรางวัลฉลากกินแบ่งรัฐบาล (กรอบหวย) ไปด้วย แต่ก็คาดว่าสามารถประคับประคองสถานการณ์ในช่วงปี 2561
@ เนชั่น
หนังสือพิมพ์ : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ในช่วงกลางปีมีข่าวลือว่าเครือเนชั่น เตรียมประกาศปิดหัวหนังสือพิมพ์คมชัดลึก แต่หลังที่ผู้บริหารได้หารือกันถึงความคุ้มค่าในด้านต่างๆแล้ว จึงมีมติให้หนังสือพิมพ์คมชัดลึกดำเนินกิจการต่อไป แต่มีการปรับโครงสร้างภายใน เพื่อสอดรับกับการนำเสนอข่าวสารในโลกโซเชี่ยลมีเดีย ส่วนหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ยังเป็นสื่อที่ทำรายได้ให้เนชั่นอย่างเป็นกอบเป็นกำ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีที่ผ่านมาทั้งหนังสือพิมพ์คมชัดลึกและกรุงเทพธุรกิจ เปิดให้พนักงานเข้าโครงการสมัครใจลาออก โดยได้รับเงินชดเชยไป 2 ล็อตใหญ่ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของทางบริษัท ทำให้พนักงานลดลง ส่วนสวัสดิการอื่นยังคงเดิม ทั้งเบี้ยเลี้ยงต่างจังหวัด 400 บาทต่อวัน รวมถึงเงินค่าโทรศัพท์และค่าเดินทาง
โทรทัศน์ : ผู้บริหารเนชั่นแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ต้องการเก็บช่องเนชั่นเอาไว้ แต่ต้องการขายช่อง NOW 26 หลังผลประกอบและเรตติ้งไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง ซึ่งได้ทำการดีลผู้ซื้อมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ฝั่งผู้ซื้อกำลังตัดสินใจอยู่ ทั้งนี้ได้เปิดให้พนักงานพนักงานเข้าโครงการสมัครใจลาออก โดยได้รับเงินชดเชยไป 2 ล็อตใหญ่ เช่นกัน ส่วนสวัสดิการอื่นคงเดิม
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมเครือเนชั่นเป็นสื่อที่ตกเป็นข่าวมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น โดยทางบริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ 1998 จำกัด มหาชน (SLC) เข้ามาถือหุ้นใหญ่ของเครือเนชั่น จนทำให้เกิดการฟ้องร้องในหลายกรณี แต่ในช่วงหลังทั้งสองฝ่ายเริ่มปรับตัวเข้าหากัน โดยผู้บริหาร SLC สามารถส่งคนเข้าไปบริหารร่วมกับคนเนชั่นได้ในบางตำแหน่ง แต่ก็มีการทักท้วงกันในบางรายชื่อ
@ แนวหน้า
ขณะนี้มียอดจัดพิมพ์อยู่ที่หลักหมื่นฉบับต่อวัน ในปี 2561 จะเน้นการผลิตข่าวออนไลน์มากขึ้น โดยจะให้ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์จากพื้นที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่องทางเฟซบุ๊คไลฟ์ ส่วนสถานะทางการเงินยังคงที่ ไม่มีโบนัสแจกจ่ายให้พนักงาน และไม่มีมาตรการปรับฐานเงินเดือนให้พนักงาน ส่วนเบี้ยเลี้ยงปฏิบัติงานต่างจังหวัดยังได้รับเหมือนเดิมอยู่ที่ 500 บาทต่อวัน นอกจากนี้ยังไม่มีนโยบายรับพนักงานใหม่อีกด้วย
@ ไทยโพสต์
ถือเป็นปีแรกตั้งแต่ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ที่ผู้บริหารไทยโพสต์ทุบโต๊ะ ไม่แจกโบนัสให้กับพนักงาน โดยให้เหตุผลว่าขาดทุนสะสม 15 ล้านบาท และไม่ปรับฐานเงินเดือนให้กับพนักงาน
ทั้งนี้ไม่มีนโยบายจ้างพนักงานออก แต่ไม่รับพนักงานใหม่ ส่วนสวัสดิการอื่นเหมือนเดิมไม่มีการปรับลด
@ ผู้จัดการ
สถานการณ์ยังคงหนักอยู่ เหมือนกับปีก่อนหน้านี้ จ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานไม่ครบตามจำนวน โดยจ่ายตกเดือนละ 60-80 เปอร์เซ็นต์ของอัตราเงินเดือน ซึ่งไม่มีนโยบายจ่ายเงินโบนัส และไม่มีการปรับฐานเงินเดือนขึ้นอีก ทั้งนี้ ยังเปิดรับพนักงานในบางตำแหน่ง แต่จะมีเงื่อนไขข้างต้นให้พิจารณาด้วย
@ ช่อง 5
สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร เนื่องจากรายรับไม่เข้าเป้า บรรดารายการบันเทิงที่เคยทำกำไรให้กับช่องแทบจะไม่มีเหลือ ทางช่องจึงประกาศให้เน้นผลิตรายการที่สามารถดึงให้ประชาชนมาสนใจ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ภายหลังที่ปรับแผนรายการกันใหม่ เนื่องจากรายการเดิมจะหมดสัญญาในสิ้นปี
อย่างไรก็ตามภารกิจหลักคือการนำเสนอกิจกรรมของกองทัพเป็นหลัก ทั้งนี้ในปีนี้พนักงานช่อง 5 ไม่ได้รับโบนัสเช่นกัน แต่ยังไม่มีนโยบายปรับลดพนักงาน โดยมุ่งเน้นพัฒนาฝ่ายรายการมากกว่า
@ ช่อง 3
มีกระแสข่าวเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ จนลือกันหนักว่าถูกบริษัทยักษ์ใหญ่ฮุบ แม้เรตติ้งของช่อง 3 ยังอยู่ในลำดับต้นๆ แต่ปี 2560 เป็นปีแรกที่พนักงานของช่อง 3 ไม่ได้โบนัสเป็นปีแรก และไม่ปรับฐานเงินเดือนให้พนักงาน โดยให้เหตุผลว่าทางบริษัทแบกรับภาระค่าใช้จ่ายช่องโทรทัศน์ถึง 4 ช่อง
ทั้งนื้มีความเป็นไปได้สูงที่คืนช่องทีวีดิจิตอลช่อง 13 และช่อง 28 ส่วนสวัสดิการอื่นไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการปรับเพิ่มวันหยุดให้หยุดสัปดาห์ละ 2 วัน และปรับวันหยุดพักร้อนให้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ในปี 2561 ทางบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ซึ่งผลิตงานให้กับช่อง 3 เดิม ไม่สามารถผลิตงานให้กับช่องทีวีดิจิตอลในเครือของช่อง 3 ได้ เนื่องจากติดเงื่อนไขทางกฎหมาย ทางบริษัทบางกอก เอ็นเตอร์เทรนด์เม้นต์ จึงอาจจะปิดตัวในช่วงปี 2561 ถึงต้นปี 2562
@ ช่อง Thai PBS
เปิดโครงการให้พนักงานสมัครใจลาออก โดยโฟกัสเป้าหมายไปที่พนักงานที่ทำงานมานานแล้ว กำหนดยอดไว้ที่ 300 คน โดยจ่ายเงินชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด และเงินเพิ่มเติมไม่เกิน 10 เดือน ล่าสุดมีพนักงานสมัครเข้าโครงการ 60 คน ซึ่งมีพนักงานที่ไม่ได้อยู่ในข่ายเป้าหมายสมัครใจลาออกไปจำนวนมาก
ทั้งนี้การจ้างงานของไทยพีบีเอสจะใช้รูปแบบสัญญาจ้าง 6 เดือน หรือ 1 ปี หากทำงานได้ไม่ตรงเป้าหมายที่วางเอาไว้ ก็จะไม่ต่อสัญญาใหม่ แต่หากทำงานได้ตามเป้าก็จะต่อสัญญา
@ ช่อง TNN
พนักงานประจำที่อายุงานเกิน 10 ปี ให้ออก 7-8 คน โดยให้เหตุผลว่าผลการประเมินไม่ผ่าน โดยมีเรื่องฟ้องร้องอยู่ที่กระทรวงแรงงาน ซึ่งทางกระทรวงแรงงานจะนัดไกล่เกลี่ยกันในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีแนวโน้มที่ TNN จะยอมจ่ายเงินชดเชยตามที่พนักงานเรียกร้อง
ทั้งนี้พนักงาน TNN ยังได้รับโบนัสอยู่ เนื่องจากทางบริษัทแม่คือบริษัททรู ได้จัดสรรงบประมาณแจกจ่ายโบนัสให้พนักงานทุกคน
ส่วนแนวโน้มปี 2561 ในช่วงต้นปีน่าจะมีการจ้างพนักงานออกอีก เนื่องจากต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะพนักงานฝ่ายเทคนิคที่สุ่มเสี่ยงมากเป็นพิเศษ
ส่วนพนักงานฟรีแลนซ์ไม่มีนโยบายให้ออก แต่ให้โอนย้ายจากฝั่งทีวีไปทำงานด้านโซเชี่ยลมีเดียแทน
@ Workpoint TV
ผลประกอบการดีมาก แต่ยังซื้อภาพจากไทยพีบีเอสอยู่ เนื่องจากทีมข่าวยังมีไม่พอ แต่อาจจะไม่รับล็อตเดียว ค่อยๆทยอยคัดคนเข้ามาทำงาน เพราะต้องการเน้นคุณภาพของงานมากกว่า เป้าหมายหลักต้องการรุกด้านกีฬามากขึ้นกว่าเดิม ล่าสุดกระโดดลงไปส่วนร่วมในการถ่ายทอดสดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และรับสมัครผู้สื่อข่าวกีฬาที่มีประสบการณ์
ขณะที่โบนัสพนักงานจะได้รับเฉลี่ยแตกต่างกันไป หากรายการใดสามารถทำรายได้ให้บริษัทจำนวนมาก ก็จะได้รับการประเมินให้ได้โบนัสมากกว่าส่วนอื่น อีกทั้งหากรายการใดทำรายได้เกินเรตที่ตั้งไว้ก็จะได้เงินพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งนี้การรับโบนัสของพนักงานขึ้นอยู่กับการประเมินของหัวหน้างาน หากพนักงานคนใดได้รับการประเมินต่ำก็จะไม่ได้รับโบนัส
@ ช่อง ONE
สถานการณ์ด้านการเงินไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่การบริหารคนภายในองค์กรดูจะมีความขัดแย้งกันอยู่เยอะ โดยเฉพาะทีมงานฝ่ายข่าวที่มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ ซึ่งมีการเกลี่ยคนเก่าออก โดยให้เหตุผลว่าต้องการปรับลดค่าใช้จ่าย แต่การรับพนักงานใหม่ เลยทำให้เกิดความเบาะแว้งและระแวงกันภายในองค์กร
ทั้งนี้ทีมข่าวที่เซ็ตขึ้นมาใหม่จะเปลี่ยนโทนข่าวให้เน้นข่าวโซเชี่ยลมีเดีย โดยชูตัวผู้ประกาศเล่าข่าวเพื่อดึงดูดคนดู
@ PPTV
เป็นช่องโทรทัศน์ที่สถานะทางการเงินดีเป็นพิเศษ โดยในปีนี้มีการแจกโบนัสให้พนักงาน ในช่วงปีที่ผ่านมาเริ่มมีการปรับยุทธศาสตร์สัดส่วนบุคลากรใหม่ จากเดิมที่มีนโยบายรับเด็กจบใหม่ไฟแรง เพื่อนำมาหล่อหลวมกับทีมงานระดับซีเนียร์ที่มีอยู่แล้ว โดยมองว่าจะสามารถผลิตข่าวที่สร้างสรรค์จากฝีมือคนรุ่นใหม่ได้
แต่ในระยะหลังเปิดรับพนักงานระดับซีเนียร์มากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่าข่าวบางข่าวต้องอาศัยประสบการณ์ถึงจะผลิตออกมาดีได้
@ Voice TV
ภายหลังออกแถลงการณ์ปรับโครงสร้าง โดยให้พนักงานออก 127 คน โดยมีการปรับทีมงานให้ฝั่งโทรทัศน์บางส่วนให้ช่วยดูเนื้อหาข่าวออนไลน์มากขึ้น โดยจะเปิดตัวออนไลน์รูปแบบใหม่ในช่วงต้นปี 2561 ส่วนโทรทัศน์ก็ต้องรอความชัดเจนจากกสทช.เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือช่องทีวีดิจิตอล
โดยคาดการณ์ว่าในช่วงกลางปี 2561 อาจจะมีการปรับโครงสร้างอีกหนึ่งรอบ และน่าจะให้พนักงานออกเพิ่มเติมอีก
ทั้งหมดนี่ คือ สถานการณ์ธุรกิจ พร้อมทางหนแก้ไขปัญหาของสื่อแต่ละค่าย ที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้ ชี้ให้เห็นว่าแม้จะผ่านพ้นวิกฤตปี 2560 ไปแล้ว แต่ปัญหาดูเหมือนจะยังไม่จบสิ้นไป และเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่สาธารณชน ต้องทำความเข้าใจ และร่วมให้กำลังใจสื่อแต่ละค่าย ยืนหยัดต่อสู้ต่อผลกระทบต่างๆ ต่อไป ด้วยใจที่มั่นคง เพื่อให้สามารถธำรง รักษาอุดมการณ์ของความเป็นสื่อมวลชนมืออาชีพที่มีหน้าที่นำเสนอข่าวสาร ข้อมูลเพื่อประชาชนส่วนรวม เพื่อประโยชน์สาธารณะ มีความรับผิดชอบ เคารพกฎหมาย และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพอย่างแน่วแน่ มั่นคงต่อไป ตามที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ระบุไว้