- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เบื้องหลังซุกหุ้น 10 ล.! นักการเมือง จ.สุรินทร์ ศาลฎีกาฯ ฟันยื่นเท็จ ป.ป.ช.
เบื้องหลังซุกหุ้น 10 ล.! นักการเมือง จ.สุรินทร์ ศาลฎีกาฯ ฟันยื่นเท็จ ป.ป.ช.
เปิดข้อมูลคดี นายก อบต.จ.สุรินทร์ ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช. พบถือหุ้นโรงโม่หิน10 ล. คนใกล้ชิดอีก 10 ล. โอน ก่อน มิ.ย.56 หลักฐานมัด อ้างไม่มีแล้ว-หลงลืม ศาลฎีกาฯ ระบุขัดต่อความจริง สั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอการลงโทษ1 ปี
กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบ และยื่นบัญชีเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) จำนวน 7 คดี (ราย) 1 ใน 7 รายคือคดี นางระเบียบ เหมือนวาจา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ไม่แสดงรายการเงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัด สุรินทร์เทพศิลา และบริษัท พันธ์ฤทธินันท์ จำกัดกรณีพ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลประทัดบุ ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลประทัดบุ ครั้งที่ 2 ให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบต. ครั้งที่ 2 ในวันที่ 27 ก.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัยและห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ ศาลฎีกาฯวินิจฉัย และสั่งจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.148/2560-27ก.ค.2560 ) ตามข่าวที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ:ศาลฟัน‘ธีมะ’โฆษก‘มาร์ค’ไม่ยื่นบัญชีฯ 3 นักการเมืองท้องถิ่น 1 รายซุกหุ้นโรงโม่)
ความเป็นมาของคดีตามที่ปรากฎในคำพิพากษามีดังนี้
@ซุกหุ้น 2 บ. 2 ครั้ง
ผู้คัดค้านคือนางระเบียบ เหมือนวาจาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต. ประทัดบุครั้งที่1เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2551 แถลงนโยบายต่อสภา อบต.ประทัดบุเมื่อวันที่23 พ.ค.2551พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่6 เม.ย.2555 ต่อมาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกอบต.ประทัดบุครั้งที่2เมื่อวันที่19 พ.ค.2555 โดยแถลงนโยบายต่อสภาอบต. ประทัดบุเมื่อวันที่29 มิ.ย.2555 และดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน
ผู้คัดค้านยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งครั้งที่1ในวันที่12มี.ค.2557 และยื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่งครั้งที่2ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดแต่การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องทั้งสองกรณีดังกล่าวผู้คัดค้านไม่แสดงรายการเงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัดสุรินทร์เทพศิลาและบริษัทพันธ์ฤทธินันท์จำกัด
@ป.ป.ช.ท้วง-เจ้าตัวปัดอ้างหลงลืม
ป.ป.ช. ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินโดยไม่แสดงรายการเงินลงทุนดังกล่าวแล้วผู้คัดค้านชี้แจงว่าในวันพ้นจากตำแหน่งครั้งที่1 และในวันเข้ารับตำแหน่งครั้งที่2 ผู้คัดค้านไม่ได้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดสุรินทร์เทพศิลาและไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทพันธ์ฤทธินันท์จำกัดผู้คัดค้านไม่มีเจตนาปกปิดหรือปิดบังข้อมูลแต่ผู้คัดค้านไม่เข้าใจการกรอกรายละเอียดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทำให้หลงลืมรายการทรัพย์สินดังกล่าว
@เอกสารมัดแน่น
คำพิพากษาของศาลฎีกาฯระบุว่า ป.ป.ช.ตรวจสอบพบว่า ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดสุรินทร์เทพศิลาฉบับลงวันที่19ก.ค.2555 ปรากฏว่าในวันที่19ก.ค.2555 ผู้คัดค้านยังเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดสุรินทร์เทพศิลาแสดงว่าในวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งครั้งที่1และเข้ารับตำแหน่งครั้งที่2ผู้คัดค้านยังเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดสุรินทร์เทพศิลา
และตามสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทพันธ์ฤทธินันท์จำกัดปรากฏชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทดังกล่าวในระหว่างวันที่30 ม.ค.2555 ถึงวันที่21 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งครั้งที่1และเข้ารับตำแหน่งครั้งที่2
@ยกข้อกล่าวอ้างขัดต่อความจริง
ผู้คัดค้านเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งครั้งที่1 แล้วย่อมทราบดีว่าตนมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดการที่ผู้คัดค้านยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งครั้งที่1 เมื่อพ้นเวลาที่กฎหมายกําหนดเป็นเวลานานและชี้แจงต่อผู้ร้องโดยยกข้อกล่าวอ้างซึ่งขัดต่อความจริงบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้คัดค้านจงใจแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ผู้ร้องทราบในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติอันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐทำให้ผู้ร้องไม่อาจตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้คัดค้านได้โดยถูกต้องเป็นเหตุให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตขาดประสิทธิภาพ
จึงฟังได้ว่าผู้คัดค้านจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งนายกอบต. ประทัดบุครั้งที่1 และกรณีเข้ารับตำแหน่งนายก อบต. ประทัดบุครั้งที่2 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบผู้คัดค้านจึงต้องพ้นจากตำแหน่งนายก อบต. ประทัดบุครั้งที่2 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน ดังคำพิพากษาข้างต้น
สำหรับ หจก. สุรินทร์เทพศิลานั้น สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า จดทะเบียนวันที่ 19 ก.ค.2531ทุน 20 ล้านบาท รับเหมาก่อสร้าง โรงโม่บดหิน ที่ตั้งเลขที่ 65 หมู่ที่ 17 ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์
วันที่ 12 ก.ค.2543 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 31 ล้านบาท และ 27 ก.ค.2543 เพิ่มเป็น 40 ล้านบาท ต่อมาแปรสภาพเป็นบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2558
จากการตรวจสอบข้อมูลการถือหุ้นพบว่า
ณ วันที่ 30 มิ.ย.2541นางระเบียบ เหมือนวาจา ลงหุ้นด้วยเงิน 2 ล้านบาท นายสุเทพ เหมือนวาจา5 ล้านบาท นายเจตไพบูลย์ เหมือนวาจา2 ล้านบาท นางอรชุดา เหมือนวาจา1 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 10 ล้านบาท
30 มิ.ย.2546 ทั้ง4 คน ลงหุ้นด้วยเงินคนละ10 ล้านบาท รวมเป็น 40 ล้านบาท
30 มิ.ย.2550 นางระเบียบ เหมือนวาจา และนายสุเทพ เหมือนวาจา ลงหุ้นด้วยเงินคนละ 10 ล้านบาท นายพันธ์เทพ ฐานุพงศ์ชรัชและนางอัจฉรียา ฐานุพงศ์ชรัชคนละ 10 ล้าบาท รวมเป็น 40 ล้านบาท ทั้ง 4 คนร่วมกันถือหุ้นเรื่อยมา ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2555 นางระเบียบ และนายสุเทพ เหมือนวาจา ลงหุ้นคนละ 10 ล้านบาท
@ถอนเงินลงหุ้น ก่อน มิ.ย.56
30 มิ.ย.2556 นางระเบียบและนายสุเทพได้โอนเงินลงทุนไปให้ นายพันธ์เทพ ฐานุพงศ์ชรัชนางอัจฉรียา ฐานุพงศ์ชรัช น.ส.พันธ์วิมล ฐานุพงศ์ชรัช ทั้ง3 คนมีเงินลงทุน ได้แก่ นายพันธ์เทพ 15 ล้านบาท นางอัจฉรียา 15 ล้านบาท น.ส.พันธ์วิมล ฐานุพงศ์ชรัช 10 ล้านบาท
ล่าสุด ณ วันที่ 31 ต.ค.2559 นายพันธวัจน์ ฐานุพงศ์ชรัช และ น.ส.พันธ์วิมล ฐานุพงศ์ชรัช ถือคนละ 15,000 หุ้น (คนละ 37.50%) นายวรเชษฎฐ์ ฐานุพงศ์ชรัช ถือ 10,000 หุ้น (25%) รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท
แจ้งผลประกอบการรอบปี 2559 รายได้ 354,728,976 บาท กำไรสุทธิ 14,249,614 บาท สินทรัพย์ 95,994,562 บาท หนี้สิน 34,982,848 บาท กำไรสะสม 21,011,713 บาท
เห็นได้ว่าในช่วง พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่6 เม.ย.2555 และในช่วงรับตำแหน่งนายก อบต.ประทัดบุครั้งที่2เมื่อวันที่19 พ.ค.2555ก่อนที่ชื่อจะหายไปเมื่อ 30 มิ.ย.2556
ขณะที่ บริษัท พันธ์ฤทธินันท์จำกัดจากการตรวจสอบพบว่า จดทะเบียนวันที่ 1 ธ.ค. 2543 ทุน 10 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง ที่ตั้งเลขที่ 65/1 หมู่ที่ 17 ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ณ วันที่ 30 มิ.ย.2558นายพันธวัจน์ ฐานุพงศ์ชรัช น.ส.พันธ์วิมล ฐานุพงศ์ชรัชถือคนละ 35,000 หุ้น (35%) นายวรเชษฎฐ์ ฐานุพงศ์ชรัช 30,000 หุ้น (30%) รวม 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาทแจ้งงบการเงินล่าสุด 30 ก.ย.2557 รายได้ 56,965 บาท ขาดทุนสุทธิ 179,014 บาท สินทรัพย์ 2,283,601 บาท หนี้สิน 8,820 บาท ขาดทุนสะสม 7,725,219 บาท
ณ ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดการถือหุ้นช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2558 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2559
ทั้งหมดคือความเป็นมาของคดียื่นบัญชีฯเท็จ ของ นางระเบียบ เหมือนวาจา นักการเมืองท้องถิ่นรายล่าสุด
อ่านประกอบ:
324 นักการเมือง 57 จ.‘ซุกบัญชีฯ-ยื่นเท็จ’ พัทลุง เชียงใหม่ กาญจน์ แชมป์