- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- แกะรอยพยาน‘ปู’เบิกความปม‘สยามอินฯ-เสี่ยเปี๋ยง’ ก่อน 2 บิ๊ก รมต.ยันสอบไม่ได้?
แกะรอยพยาน‘ปู’เบิกความปม‘สยามอินฯ-เสี่ยเปี๋ยง’ ก่อน 2 บิ๊ก รมต.ยันสอบไม่ได้?
“…ในเมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำผิด จึงดำเนินโครงการต่อไป ส่วนบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเสี่ยเปี๋ยง จะมีพฤติการณ์ตามที่ ป.ป.ช. บอกหรือไม่ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กระทรวงพาณิชย์ สอบแล้ว ดังนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว ตรวจสอบเต็มที่แล้วหรือไม่ ?...”
“ไม่รู้เรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเรื่องของรายละเอียด และเป็นมารยาทของรัฐมนตรีที่จะทราบเฉพาะเรื่องที่ต้องดูแลเท่านั้น ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินกลุ่มบริษัท หรือชื่อคนเหล่านี้มาก่อน ไม่มีการพูดในคณะรัฐมนตรีด้วย”
“ขณะนั้นกระทรวงพาณิชย์มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่พบการกระทำความผิด นอกจากนี้ ป.ป.ช. ได้เข้าไปดำเนินการไต่สวนแล้วเช่นกัน ซึ่งระหว่างนั้นยังไม่มีการชี้มูลความผิด เพิ่งมาชี้มูลความผิดตอนปี 2558 ภายหลังรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งแล้ว ที่สำคัญบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับรัฐ รัฐบาลจึงไม่มีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบใด ๆ ได้”
เป็นคำยืนยันจากปากของ 2 รัฐมนตรีคนสำคัญในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.พาณิชย์ ที่เข้าเบิกความเป็นพยานในคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย
ตอบคำถามของอัยการ ที่ถามถึงประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งข้อสังเกตถึงพฤติการณ์ไม่ชอบมาพาลของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร (เสี่ยเปี๋ยง) อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง กับพวก ที่อาจพัวพันกับการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ
นับเป็นอีก 2 พยานปากสำคัญที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เลือกมาในช่วง ‘โค้งสุดท้าย’ ก่อนการไต่สวนพยานนัดสุดท้ายที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.ค. 2560
อย่างไรก็ดีประเด็นหนังสือจาก ป.ป.ช. ที่ตั้งข้อสังเกตถึงพฤติการณ์ของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด นายอภิชาติ กับพวกว่า อาจส่อกระทำการทุจริตในการะบายข้าวจีทูจีนั้น ถูกอัยการซักถามพยานฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ บ่อยครั้ง
แต่แทบทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หรืออดีตรัฐมนตรีหลายราย ต่างยืนยันว่า ไม่รู้จักบริษัท หรือบุคคลนี้ และไม่ทราบว่า เข้ามาพัวพันในการระบายข้าวจีทูจีแบบมิชอบได้อย่างไร
ดังคำเบิกความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ยืนยันเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2559 ตอบคำถามอัยการประเด็นนี้ว่า ภายหลังเกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือการตั้งกระทู้ถามในสภา ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง รวมถึงตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้เป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอีกชุดหนึ่ง แต่จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทั้ง 2 ชุดแล้ว ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งคณะกรรมการสอบฯที่ตั้งขึ้น ล้วนเป็นข้าราชการ ดังนั้นจึงต้องเชื่อไว้ก่อน ในเมื่อไม่พบความผิดปกติ แล้วจะไปสอบคนที่ถูกกล่าวหาเลยก็คงไม่ได้
แม้ว่าฝ่ายอัยการได้เปิดรูป ‘เสี่ยเปี๋ยง’ ที่ถ่ายคู่กับนายทักษิณ ชินวัตร ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดู พร้อมถามว่า รู้จักกับ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ มาก่อนหรือไม่
แต่ประเด็นนี้ ศาลฯได้ทักท้วง เนื่องจากในภาพไม่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่อย่างใด ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังยืนยันคำเดิมว่า ไม่เคยรู้จักกับ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ มาก่อน
กระทั่งมาถึงพยานระดับอดีตรัฐมนตรีที่มี ‘บทบาทสูง’ และถูกพูดถึงบ่อยครั้งในที่สาธารณะอย่าง นายปลอดประสพ และนายนิวัฒน์ธำรง เข้ามาเบิกความ และตอบข้อซักถามของอัยการดังกล่าวว่า ไม่รู้จักบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเสี่ยเปี๋ยงมาก่อน
ในส่วนของนายปลอดประสพนั้น อัยการได้ซักถามหลายครั้งว่า ภายหลัง ป.ป.ช. มีข้อสังเกตดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือหรือไม่ รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่มีการกล่าวอ้างถึงบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเสี่ยเปี๋ยงด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำเนินการอย่างไร
แต่นายปลอดประสพ ยืนกรานคำเดิมว่า ไม่รู้จัก และไม่รู้เรื่องอะไรในรายละเอียดโครงการรับจำนำข้าวเลย ส่วนชื่อบริษัทนี้ไม่เคยได้ยินในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพูดคุยหรือหารือกันด้วย
นี่อาจเป็นถ้อยคำที่ยืนยันได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือรัฐมนตรี หรือบุคคลที่มีอำนาจในโครงการรับจำนำข้าวขณะนั้น ไม่เคยนำเรื่องนี้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ ?
ต่อมา อัยการได้ซักนายนิวัฒน์ธำรง หลายครั้งเช่นกันในประเด็นเรื่องข้อสังเกตของ ป.ป.ช. ถึงบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเสี่ยเปี๋ยง โดยนายนิวัฒน์ธำรง ยืนยันเช่นกันว่า หนังสือที่ ป.ป.ช. ส่งข้อสังเกตมานั้น เป็นการพูดถึงเรื่องเก่าในอดีต สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (พี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์) ที่อาจมีความสัมพันธ์กับเสี่ยเปี๋ยง อย่างไรก็ดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยสั่งการให้ รมว.พาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
โดยคณะกรรมการชุดนี้ เคยทำหนังสือเรียกให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเสี่ยเปี๋ยง เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่ยอมมา รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ เพราะบริษัทนี้ไม่ได้เป็นคู่สัญญารัฐ ทำให้ดำเนินการตรวจสอบต่อไม่ได้ ต่อมามีการสรุปผลว่า ไม่พบการกระทำทุจริตในโครงการนี้แต่อย่างใด
นายนิวัฒน์ธำรง ชี้ให้เห็นว่า ในเมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำผิด จึงดำเนินโครงการต่อไป ส่วนบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเสี่ยเปี๋ยง จะมีพฤติการณ์ตามที่ ป.ป.ช. บอกหรือไม่ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กระทรวงพาณิชย์ สอบแล้ว ดังนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว ตรวจสอบเต็มที่แล้วหรือไม่ ?
อย่างไรก็ดีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เข้ามาไต่สวนข้อเท็จจริงในโครงการระบายข้าวจีทูจีเอง มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน แต่ระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการชี้มูลความผิด แต่เพิ่งมาชี้มูลผิดเมื่อเดือน ม.ค. 2558 หรือภายหลังที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งไปแล้วกว่า 6 เดือน
ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว รัฐบาลไม่มีอำนาจ หรือมีสิทธิ์ไปตรวจสอบบริษัทเอกชนที่ไม่ได้เข้ามาเป็นคู่สัญญากับรัฐบาล
ส่วนที่อัยการซักว่า ในช่วงเวลานั้น บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้จำหน่ายข้าวรายใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศนั้น นายนิวัฒน์ธำรง เบิกความสรุปได้ว่า บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด อาจรับซื้อข้าวนอกโครงการรับจำนำ หรือมีสต็อกข้าวเป็นของตัวเองก็ได้
นี่จึงเป็นอีกคำยืนยันจาก 2 ‘บิ๊กรัฐมนตรี’ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มาตอบข้อซักถามอัยการ ถึงกรณีการตรวจสอบบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเสี่ยเปี๋ยงว่า ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบได้
แต่ต้องไม่ลืมว่า แม้ขณะนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะเป็นผู้ยกเหตุอันควรสงสัยเข้าไปไต่สวนเองก็ตาม แต่รัฐบาลทำเต็มที่แล้วหรือไม่ ในการพยายามตรวจสอบการทุจริตในการระบายข้าวจีทูจี รวมถึงส่งข้อมูลอันเป็นประโยชน์เพื่อช่วย ป.ป.ช. ตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วยไหม
หรือแค่ไม่ได้เป็นคู่สัญญารัฐแล้ว รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นไป ?
เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ยังคงไม่มีคำตอบจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพยานจำเลยในคดีนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 21 ก.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันปิดคดีนี้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และหนึ่งในจำเลยคดีระบายข้าวแบบจีทูจี จะมาเบิกความเป็นพยานให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วย
ดังนั้นต้องจับตาว่า นายบุญทรง จะตอบข้อซักถามเหล่านี้อย่างไร และจะช่วยเหลือ ‘นารีขี่ม้าขาว’ ได้หรือไม่ ?
สอบสยามอินฯไม่ได้เหตุไม่ใช่คู่สัญญารัฐ! 'นิวัฒน์ธำรง'เบิกความคดีข้าว'ยิ่งลักษณ์'
ชนักติดหลัง‘ยิ่งลักษณ์’ รวยผิดปกติ-สารพัดข้อหาใน ป.ป.ช.-ไม่จบแค่คดีข้าว?
‘อัยการ’ซัก‘ยิ่งลักษณ์’ตอบ! ท่าที‘นารีขี่ม้าขาว’แจงคดีข้าว-ไฉนสอบไม่เจอทุจริต?