- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ไขเบื้องหลัง ม.บูรพาฯ โดนโนติสบ้านจัดสรร! 8 หน่วยงานทุ่มซื้อ43หลัง134 ล.
ไขเบื้องหลัง ม.บูรพาฯ โดนโนติสบ้านจัดสรร! 8 หน่วยงานทุ่มซื้อ43หลัง134 ล.
"...การจัดซื้อบ้านจัดสรรในโครงการนี้ ไม่ได้มีแค่บ้านและที่ดิน 2 หลัง กองบริหารเขตสระแก้ว เท่านั้น แต่ยังมีหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัยบูรพา จำนวนกว่า 8 แห่ง ที่ร่วมจัดซื้อด้วย นับรวมจำนวนบ้านทั้งหมด 43 หลัง วงเงินรวมสูงถึง 134,272,000 บาท ซึ่งปัจจุบันจ่ายเงินให้กับบริษัทเอกชนเจ้าของโครงการหมดแล้ว..."
กลายเป็นประเด็นร้อน ที่กำลังถูกจับตามอง!
เมื่อปรากฎข้อมูลว่า บริษัท รัตนอินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของหมู่บ้านจัดสรรรายหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ทำหนังสือแจ้งเตือนถึง มหาวิทยาลัยบูรพา ให้มาดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ บ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง และชำระเงินค่างวดที่ยังค้างจ่ายอยู่ จำนวน 1,064,185 บาท ภายในวันที่ 27 มี.ค.2560 นี้ หลังจากที่มหาวิทยาลัยได้ตรวจรับงานเสร็จสิ้นไปนานแล้ว แต่ยังไม่มาโอน และจ่ายเงินงวดสุดท้าย
โดยทนายความฝ่ายเอกชนระบุชัดเจนว่า หากถึงเวลานัดหมายแล้วทางมหาวิทยาลัยยังไม่ยอมดำเนินการอะไร ทางเอกชนจะดำเนินการตามกฎหมาย คือ ฟ้องบังคับให้มารับโอนบ้าน หรือไม่ก็ริบเงินบอกเลิกสัญญาต่อไป
(อ่านประกอบ : ม.บูรพา ซื้อบ้านจัดสรรเอกชน! โดนโนติสแจ้งชำระค่างวดหลักล้าน)
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับกรณีนี้ จะพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ 2 ประเด็นหลัก คือ 1.มหาวิทยาลัยบูรพา ติดขัดปัญหาอะไรถึงไม่ยอมเซ็นรับโอน และจ่ายค่างวดบ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง ที่ค้างอยู่ให้กับเอกชนรายนี้ ทั้งที่ มีการตรวจรับงานเสร็จสิ้นไปแล้ว 2. ทำไมมหาวิทยาลัยบูรพา ต้องซื้อบ้านจัดสรรจากเอกชนรายนี้ด้วย
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า บ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง ที่ บริษัท รัตนอินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ทำหนังสือแจ้งเตือนถึง มหาวิทยาลัยบูรพา ดังกล่าว เป็นของ กองบริหารเขตสระแก้ว อยู่ในโครงการชื่อว่า หมู่บ้านมหาวิทยาลัยบูรพา
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงาน กองบริหารเขตสระแก้ว ได้ดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษจาก บริษัท รัตนอินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เป็นจำนวนเงิน 6,730,500 บาท และได้เบิกจ่ายเงินค่าจัดซื้อบ้านฯ โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 จำนวน 5,666,315 บาท
แต่สำหรับงบประมาณรายจ่ายปี 2557 กองบริหารวิทยาเขตสระแก้ว ได้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี เนื่องจากยังไม่มีการตรวจรับบ้าน ในงวดที่เหลือ จำนวน 2 งวด จำนวนเงิน 1,064,185 บาท
ต่อมา กองบริหารวิทยาเขตสระแก้ว ได้อนุมัติการตรวจรับบ้านฯ 2 งวดที่เหลือเรียบร้อยแล้ว ในปีงบประมาณ 2559 แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากกองบริหารวิทยาเขตสระแก้ว ไม่ได้ขยายเวลากันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี สำหรับงบประมาณ 2557 ได้กันไว้เบิกเพียงแค่ 1 ปี คือ ปี 2558
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ล่าสุด กองบริหารวิทยาเขตสระแก้ว ได้ทำเรื่องขออนุมัติขยายเวลากันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี งบประมาณปี 2557 แล้ว
แต่ข้อเสนอนี้ ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายบริหารชุดปัจจุบัน เนื่องจากการดำเนินโครงการ ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมมหาวิทยาลัย ถึงต้องซื้อหมู่บ้านจัดสรรจากบริษัทเอกชนรายนี้ด้วย แถมยังมีการใช้วิธีพิเศษด้วย เพราะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีโครงการบ้านจัดสรรจำนวนมาก หมู่บ้านที่จัดซื้อกับมหาวิทยาลัยอยู่ห่างกันมากน้อยเพียงใด และเมื่อจัดซื้อมาแล้ว บ้านเหล่านี้ใครจะเข้าไปอยู่อาศัย กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกอย่างไร
และที่สำคัญที่สุด การจัดซื้อบ้านจัดสรรในโครงการนี้ ไม่ได้มีแค่บ้านและที่ดิน 2 หลัง กองบริหารเขตสระแก้ว เท่านั้น
แต่ยังมีหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัยบูรพา จำนวนกว่า 8 แห่ง ที่ร่วมจัดซื้อด้วย นับรวมจำนวนบ้านทั้งหมด 43 หลัง วงเงินรวมสูงถึง 134,272,000 บาท ซึ่งปัจจุบันมีการจ่ายเงินให้กับบริษัทเอกชนเจ้าของโครงการหมดแล้ว ยกเว้นบ้าน 2 แห่งที่มีปัญหาของกองบริหารวิทยาเขตสระแก้ว
ดังนั้น ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยบูรพา จะต้องชี้แจงต่อสาธารณชน จึงอาจจะไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงแนวทางการแก้ไขปัญหาแหล่งเงินที่จะต้องจ่ายให้กับเอกชนเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรเท่านั้น
หากแต่ กระบวนการจัดทำโครงการ วิธีการคัดเลือกเอกชน รวมถึงมูลเหตุและแรงจูงใจของผู้บริหารมหาวิทยาลัยว่า ทำไมต้องทำโครงการนี้ด้วย
น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สาธารณชน โดยเฉพาะประชาคมชาวมหาวิทยาลัยบูรพา ต้องการรับฟังและได้ยินคำชี้แจงจากผู้บริหารฯ มากที่สุดในห้วงเวลานี้
และถ้าหากมีคำอธิบายไม่ชัดเจนเพียงพอ บรรทัดสุดท้ายของเรื่องนี้ อาจมีใครบ้างคนต้องรับผิดชอบผลแห่งการกระทำครั้งนี้ด้วย
หมายเหตุ : ภาพบ้านประกอบเรื่องจาก Thaihometown.com (ไม่เกี่ยวข้องกับบ้านในรายงาน)ภาพม.บูรพาจาก Blog Eduzones