2 เงื่อนปม ป.ป.ช.ไม่สอบ‘เมียปรีชา’ เงินหมุนเวียนในบัญชีหลายสิบล.ไร้รายได้-ธุรกิจ?

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 14 พฤศจิกายน 2559 เวลา 12:07 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | บัญชีทรัพย์สิน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา | บัญชีทรัพย์สิน | ป.ป.ช.

“…หากมีการเปรียบเทียบบัญชีทรัพย์สินย้อนหลังดังกล่าว จะสามารถตรวจสอบได้ว่า เงินหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ มีมาก่อนหน้านี้นานแล้ว หรือว่าเพิ่งมีตอนที่ พล.อ.ปรีชา ดำรงตำแหน่ง สนช. หรือก่อนหน้านี้นางผ่องพรรณทำธุรกิจอะไรมาก่อน จึงมีเงินฝากมากมายขนาดนี้...”

PIC pongpunn 14 11 59 1

ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกสังคมจับตาอย่างต่อเนื่อง กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ตีตกในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเชิงลึกของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อช่วงดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยกรอกข้อมูลเงินฝากของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา คลาดเคลื่อน และแจ้งบัญชีเงินฝากกองทัพภาคที่ 3 ในบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งท้ายสุดคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า ไม่จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน

(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ยัน“ปรีชา”ยื่นทรัพย์สินถูกต้อง! ปมใส่เงินฝาก“เมีย-กองทัพภาค 3)

อย่างไรก็ดีเงื่อนปมสำคัญที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ยอมตรวจสอบต่อคือ กรณีนางผ่องพรรณ แจ้งในบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2557 และแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อปี 2556 ระบุว่า ไม่มีรายได้ และไม่ได้ประกอบธุรกิจแต่อย่างใด แต่ในเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 ของนางผ่องพรรณ มีเงินฝากรวมกันถึง 58 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนในช่วงปี 2557 หลายสิบล้านบาท

(อ่านประกอบ : เงินไหลเวียนบัญชี'เมียปรีชา'ปมที่ยังไม่เคลียร์?หลังป.ป.ช.ยันยื่นทรัพย์สินถูกต้อง)

เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ปรีชา และผลการสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มาสรุป ดังนี้

พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา แจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิก สนช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2557 ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 63,451,468 บาท ส่วนนางผ่องพรรณ มีทรัพย์สิน 63,765,296 บาท รวมมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 127,216,864 บาท ไม่มีหนี้สิน

ขณะเดียวกันในส่วนของรายได้มีแค่ พล.อ.ปรีชา เท่านั้นแจ้งว่า มีรายได้จากเงินเดือนรวม 1,920,000 บาท มีรายจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายปกติประจำรวม 1,560,000 บาท ส่วนนางผ่องพรรณ ไม่ได้แจ้งรายได้แต่อย่างใด (ดูเอกสารประกอบ)

PIC รายไดผองพรรณ 1

ต่อมา เมื่อปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้น โดยจากการตรวจสอบของเจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สินชำนาญการ สำนักงานตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง ใช้ระยะเวลาประมาณ 960 นาที (ประมาณ 2 วัน)

พบว่า พล.อ.ปรีชา และนางผ่องพรรณ คำนวณบัญชีเงินฝากคลาดเคลื่อน

โดยหลังจากคำนวณใหม่ พบว่า พล.อ.ปรีชา จะมีเงินฝากเพิ่มขึ้นประมาณ 4 แสนบาท มีพระเครื่องเพิ่มมา 1 องค์ ส่วนนางผ่องพรรณมีเงินฝากเพิ่มขึ้นประมาณ 12 ล้านบาท รวมทั้งสองรายมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 139,559,012 บาท

ขณะเดียวกันในผลการตรวจสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า นางผ่องพรรณ ไม่ได้แจ้งรายได้ และการประกอบธุรกิจกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวมถึงในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อปี 2556 ก็ไม่ได้ระบุรายได้แต่อย่างใด

ส่วนเงินฝากของนางผ่องพรรณที่คำนวณคลาดเคลื่อนนั้นมาจาก บัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ 3 แห่ง ที่แสดงยอดเงินฝากไม่ตรงกับวันเข้ารับตำแหน่งของ พล.อ.ปรีชา (ดูเอกสารประกอบ)

PIC รายไดผองพรรณ 2

PIC รายไดผองพรรณ 3

จากข้อเท็จจริงข้างต้น มีอย่างน้อย 2 เงื่อนปมที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ควรไปดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อ

หนึ่ง บัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ ในช่วงปี 2557 พบว่า มีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท เงินดังกล่าวมาจากไหน มีที่มาจากแหล่งใด ในเมื่อไม่ได้ประกอบธุรกิจ หรือแจ้งว่ามีรายได้ แล้วมีเงินดังกล่าวหมุนเวียนในบัญชีได้อย่างไร

สอง ในผลการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบแค่เฉพาะที่ พล.อ.ปรีชา แจ้งบัญชีทรัพย์สินช่วงเป็น สนช. แต่ไม่ได้ตรวจสอบย้อนหลัง หรือมีการเปรียบเทียบบัญชีทรัพย์สินที่ พล.อ.ปรีชา ยื่นตอนดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก หรือตอนดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 แต่อย่างใด

ทั้งนี้หากมีการเปรียบเทียบบัญชีทรัพย์สินย้อนหลังดังกล่าว จะสามารถตรวจสอบได้ว่า เงินหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ มีมาก่อนหน้านี้นานแล้ว หรือว่าเพิ่งมีตอนที่ พล.อ.ปรีชา ดำรงตำแหน่ง สนช. หรือก่อนหน้านี้นางผ่องพรรณทำธุรกิจอะไรมาก่อน จึงมีเงินฝากมากมายขนาดนี้

ท้ายสุดคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะยกเหตุอันควรสงสัยเข้าไปตรวจสอบในฐานร่ำรวยผิดปกติ หรือจะปล่อยให้ผ่านไปเหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์ดังที่ผ่านมา

คงต้องรอดูท่าทีกันต่อไปในเร็ว ๆ นี้ !

อ่านประกอบ :