- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- อัพเดท ขรก.รวยผิดปกติ ‘ธาริต’รายที่ 13 ลุ้นอีก 2 ระดับบิ๊ก?
อัพเดท ขรก.รวยผิดปกติ ‘ธาริต’รายที่ 13 ลุ้นอีก 2 ระดับบิ๊ก?
อัพเดท ขรก.ถูกชี้มูล‘รวยผิดปกติ’ จากยุค ป.ป.ป.ปี 29 -ป.ป.ช. 59 ‘ธาริต’อดีตอธิบดี DSI รายที่ 13 ลุ้นอีก 2 ระดับบิ๊ก 1 นักการเมืองท้องถิ่นภาคเหนือ
ถ้าไม่นับ นายรักเกียรติ สุขธนะ (อดีต)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ณฐกมล (นฤมล) นนทะโชติ ลูกสาว พล.อ.สัมฤทธิ์ นนทะโชติ คนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นับตั้งแต่มีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ พ.ศ. 2518 (ป.ป.ป.) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 จนถึง 13 มี.ค.59 มีข้าราชการ (อดีต) ถูก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลร่ำรวยผิดปกติจำนวน 13 คน
แน่นอน! นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลรวยผิดปกติ 346,652,588 บาท เมื่อ 10 มี.ค.59 เป็นรายที่ 13
ก่อนหน้านี้เป็นใครกันบ้าง?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org อัพเดตข้อมูลมาเสนออีกครั้ง
1.พล.อ.ชำนาญ นิลวิเศษ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ป. ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติจำนวน 69.1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2528 และศาลฎีกาตัดสินเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2539
2.นายเมธี บริสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ศาลฎีกาพิพากษายึดทรัพย์ 12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541
3.นายธีระชัย ชัยสุนทรโยธิน เจ้าหน้าที่บริหารงานพัสดุ 6 สำนักงานชลประทานที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ป. ตรวจสอบพบว่าปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตสร้างความร่ำรวยจากตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่ระหว่างปี 2518 - 2529 และถูกศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายึดทรัพย์ 2,065,000 บาท เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2543
4.นายสุวิทย์ ลอยใหม่ เจ้าหน้าที่ระดับ 3 องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ ถูกร้องเรียนว่า แสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายระหว่างปี 2521 ถึง 2525 ศาลอุทธรณ์พิพากษายึดทรัพย์ 1,773,555.55 บาท เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2543
5. นายสมภพ อุณหวัฒน์ นายช่างโยธาระดับ 9 กรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ เมื่อ วันที่ 29 มิถุนายน 2537 ศาลพิพากษายึดทรัพย์ 73,525,436.09 บาท เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547
6. นายสุนทร ตันถาวร ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. วินิจฉัยว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในลักษณะร่ำรวยผิดปกติระหว่างปี 2539-2542 จำนวน 15,260,380.56 บาท ศาลแพ่งพิพากษายึดทรัพย์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2547
7. นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 64.7 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลอาญายึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินต่อมา 31 ม.ค. 57 ศาลแพ่ง มีคำสั่งให้ทรัพย์สินของ นายสุพจน์ กับพวก ซึ่งเป็นเครือญาติ 7 คน อาทิ เงินสด เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ต่างๆ รวม 9 บัญชี เงินฝากในสหกรณ์ออมทรัพย์กรมทางหลวง โฉนดที่ดินย่านต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด บ้านพัก รถยนต์ ห้องชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 64,998,587 บาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
8. นายนิพัทธ พุกกะณะสุต อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ถูกศาลแพ่งพิพากษาคดีริบทรัพย์จำนวน 49 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทรัพย์สินตามคำร้องจำนวน 49 ล้านบาท
9.พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ถูก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลเมื่อ วันที่ 6 ก.พ.2557 ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 296,323,911 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน คดีนี้ล่าสุดอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล
10.นายสามารถ ใจสมุทร อดีตผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 สงขลา ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูล เมื่อวันที่ 26 มี.ค.58 และมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามความเห็นของอนุกรรมการไต่สวนฝ่ายเสียงข้างมากว่านายสามารถ ร่ำรวยผิดปกติ 113,311,730 บาท ประกอบด้วยหุ้นกู้ด้อยสิทธิธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นเงินจำนวน 700,000 บาท, สลากออมสินพิเศษธนาคารออมสิน เป็นเงิน 107,772,000 บาท ที่ดิน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้างอื่น รวมมูลค่า 3,549,730 บาท ยานพาหนะ 1 คัน มูลค่า 1,290,000 บาท
ล่าสุด สำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลาแล้ว
11.นายศุภกิจ ริยะการ (นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ) อดีตสรรพากรพื้นที่ 22 บางรัก มีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ทั้งในชื่อของนายสิริพงศ์ อดีตคู่สมรส บุตร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่า 31,754,337.38 บาท (ป.ป.ช.แถลง 26 ม.ค.59)
12.นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตนักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 27 ถูกชี้มูลร่ำรวยผิดปกติ 597,728,229 บาท เมื่อ 1 มี.ค.59
และ 13.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่ำรวยผิดปกติ โดยให้นายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ ซึ่งเป็นหลานชายของนายธาริต และนางวรรษมล และบริษัท ปิยธนวรรษ จำกัด ซึ่งมีนายปิยฤกษ์ และนางกานดา เผือดจันทึก น้องสาวของนางวรรษมล เป็นกรรมการบริษัท มีชื่อเป็นผู้ถือครองทรัพย์สินจำนวนมากแทนนายธาริต และนางวรรษมล ภรรยา
ขณะที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นับจาก ปี 2545-2557 มีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายึดทรัพย์ไปแล้ว 3 ราย
1. นายรักเกียรติ สุขธนะ (อดีต)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติว่าปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและร่ำรวยผิดปกติ เมื่อ 12 กันยายน 2545 ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ 233,880,000 บาท ตกเป็นของแผ่นดินเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 และวันที่ 28 ตุลาคม 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 15 ปี ในข้อหาทุจริตจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขโดยการเรียกรับเงิน 5 ล้านบาทจากเจ้าของบริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด
2. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายึดทรัพย์ 46,373,687,454.70 บาท เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นการยึดทรัพย์อดีตนายกฯที่มีอิทธิพลทางการเงินและบารมีทางการเมือง เกิดขึ้นภายหลังรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นการเฉพาะ กระบวนการไต่สวนดำเนินการตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินชี้ขาด
3. น.ส.ณฐกมล (นฤมล) นนทะโชติ ลูกสาว พล.อ.สัมฤทธิ์ นนทะโชติ คนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายึดทรัพย์ จำนวน 68,104,000 บาท ซึ่งรวมถึงทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งยึดหรืออายัดไว้ชั่วคราวตามคำสั่งที่ 8-11/2556 ลงวันที่ 15 มกราคม 2556 พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน
อยู่ในชั้นศาลฎีกาฯ 1 รายคือ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลร่ำรวยผิดปกติกรณีบ้านเลขที่ 5/5 ตำบลไผ่จำศีล อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ปลูกสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ในช่วงที่นายสมศักดิ์ ดำรงตำแหน่ง รมช.กระทรวงศึกษาธิการ และมีการก่อสร้างต่อเนื่องในขณะที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมาปลูกสร้างแล้วเสร็จ เมื่อปี 2554 ใช้เงินในการปลูกสร้างประมาณ 16 ล้านบาทเศษ ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นไต่สวน ของศาลฎีกาฯ
ยังมี ข้าราชการ อีก 1 ราย ถูกอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวคือ นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ถูก ป.ป.ช.อายัดทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท ซึ่งนายสาธิตถูก ป.ป.ช.ชี้มูลวินัยร้ายแรง และคดีอาญาทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท ร่วมกับนายศุภกิจ ริยะการ และถูกไล่ออกจากราชการ
ขณะที่ ป.ป.ช.ระบุว่า กำลังตรวจสอบข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มมีอย่างน้อย 2 ราย และนักการเมืองทองถิ่นในจังหวัดภาคเหนืออีกอย่างน้อย 1 รายอาจมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้
ส่วนจะเป็นใคร ? ต้องติดตามกันต่อไป
อ่านประกอบ:
ป.ป.ช.เล็งฟันอีก 2 บิ๊ก ขรก.รวยผิดปกติโยงคดี 4.3 พันล. -1 นักการเมืองภาคเหนือ
ป.ป.ช. ชี้มูล 'ธาริต เพ็งดิษฐ' ร่ำรวยผิดปกติ346 ล. ส่งอัยการฟ้องยึดทรัพย์
เส้นทางเงิน‘ธาริต’ก่อน ป.ป.ช.เชือดรวยผิดปกติ 346 ล.ให้นอมินีถือแทน
เชือดรายสอง‘ซี 8’สรรพากร! ป.ป.ช.ชี้มูลรวยผิดปกติเฉียด 600 ล.พันคดีคืนภาษี
เชือด‘อดีตซี 9’สรรพากร! ป.ป.ช.ชี้มูลรวยผิดปกติ 31 ล.พันคดีคืนภาษี
ป.ป.ช.เชือด'สาธิต-ศุภกิจ'คดีทุจริตคืนภาษี-พบเอาเงินไปซื้อทองคำแท่ง 179 ล.