- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ดูเหตุผล ป.ป.ช.ฟันข้อหาหนัก “วงศ์ศักดิ์” คดีโกงสอบ รร.นายอำเภอ
ดูเหตุผล ป.ป.ช.ฟันข้อหาหนัก “วงศ์ศักดิ์” คดีโกงสอบ รร.นายอำเภอ
“…คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า นายวุฒิชัยและผู้ถูกกล่าวหาทั้งที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอ 20 คนให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ต่อการไต่สวน จึงมีมติโดยเสียงข้างมากให้กันนายวุฒิชัย และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 20 คน ไว้เป็นพยาน โดยไม่ชี้มูลความผิดทางวินัยและอาญา…”
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรม และผู้เข้าสอบและผ่านการคัดเลือกเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอในรุ่น 68, 69 และ 70 จำนวน 119 คน ในคดีการสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปี 2552 ว่าผิดกฎหมายอาญา 157, 161 และ 162 (1) (4)
ทั้งนี้คดีดังกล่าวน่าสนใจตรงที่ว่า มีการกันตัวนายวุฒิชัย เสาวโกมุท และผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นข้าราชการผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการอบรมหลักสูตรนายอำเภออีก 20 คน ไว้เป็นพยาน เนื่องจากได้ให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ต่อการไต่สวน โดยไม่ชี้มูลความผิดทั้งทางวินัยและอาญาแต่อย่างใด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขอนำรายละเอียดในคดีดังกล่าวมานำเสนอดังนี้
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นคือ กรมการปกครองออกประกาศ เรื่องการสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอ โดยกำหนดวันสอบข้อเขียนวันที่ 22 มีนาคม 2552 ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็คเมืองทองธานี แบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ภาค ภาคเช้า ภาคความสามารถทั่วไป และภาคบ่าย ภาคความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง และแต่ละภาคจะมีข้อสอบอัตนัย 1 ข้อ ซึ่งกรมการปกครองเป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบ
และในการสอบนี้ กรมการปกครองมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการออกข้อสอบอัตนัยคือ นายวุฒิชัย เสาวโกมุท และนายครรชิต สลับแสง เป็นกรรมการออกข้อสอบภาคความสามารถทั่วไป และแต่งตั้งนายสำราญ ตันเรืองศรี เป็นกรมการออกข้อสอบภาคความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง โดยข้อสอบของผู้ใดได้รับการคัดเลือก ผู้นั้นจะเป็นผู้ตรวจข้อสอบ
และในวันเดียวกันมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ที่มีนายวงศ์ศักดิ์ เป็นประธานกรรมการ และนายวุฒิชัย เป็นกรรมการและเลขานุการ
โดยวันที่ 22 มีนาคม 2552 มีการพิมพ์ข้อสอบทั้ง 2 แบบ โดยข้อสอบอัตนัยภาควิชาความสามารถทั่วไปออกโดยนายวุฒิชัย ส่วนภาควิชาความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งออกโดยนายสำราญ
ทั้งนี้ในเรื่องสมุดกระดาษคำตอบทั้ง 2 ภาค ที่มีผู้ทำข้อสอบเหมือนกันเป็นจำนวนมากนั้น คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ส่งสมุดคำตอบทั้งสองภาคมีร่องรอยไม่เหมือนสมุดคำตอบตัวอย่าง จำนวน 142 คน จึงเชื่อว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขลวดเย็บกระดาษและกระดาษด้านในปก
จึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง และข้าราชการกรมการปกครองที่รับผิดชอบในการสอบรวม 8 คน และข้าราชการผู้ได้รับการคัดเลือกจำนวน 142 คน
เมื่อคณะกรรมมาธิการ ป.ป.ป. สภาผู้แทนราษฎรได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการทุจริตจึงเชิญนายวุฒิชัย และวงศ์ศักดิ์ไปพบที่ห้องประชุมเพื่อซักถามข้อมูล
พบว่านายวุฒิชัยมีความไม่สบายใจจึงกลับมาพูดกับนายวงศ์ศักดิ์ที่ห้องทำงาน เพื่อหาทางแก้ไขให้นายคิม ปรีเปรม ประธานรุ่นที่ 68 เป็นผู้ติดต่อประธานรุ่นและเลขานุการรุ่นที่ 68, 69 และ 70 มาพบ และนายวงศ์ศักดิ์ได้สั่งให้ประธานและเลขาฯทั้ง 3 รุ่น ประสานกับผู้เข้าสอบตามรายชื่อทั้ง 150 คน ให้เขียนกระดาษคำตอบใหม่ โดยให้นายวุฒิชัยจัดเตรียมสมุดคำตอบเปล่านำมามอบให้นายคิม และประธาน และเลขาฯทั้ง 3 รุ่น เพื่อนำไปให้ผู้เข้ารับการอบรมทั้ง 150 คน เขียนข้อความตามรูปแบบคำตอบซึ่งได้มอบไป 3 – 4 แบบ โดยให้ปรับปรุงข้อความไม่ให้เหมือนกัน แล้วส่งกลับมายังนายวุฒิชัย
และนายวุฒิชัยจะนำสมุดคำตอบที่เขียนขึ้นใหม่ถอดออกมาใส่เนื้อในของสมุดคำตอบฉบับเดิม โดยไม่มีการแก้ไขปกสมุดคำตอบฉบับเดิมแต่อย่างใด ซึ่งสมุดคำตอบที่มีการเปลี่ยนเนื้อหาดังกล่าวเสร็จแล้ว ได้เก็บไว้ที่ห้องทำงานของนายวุฒิชัย จนพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. มารับไป
คำให้การของนายวุฒิชัยดังกล่าว มีคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการอบรมหลักสูตรนายอำเภอ จำนวน 20 คน โดยให้การว่า ได้เขียนกระดาษคำตอบขึ้นใหม่ตามคำแนะนำของประธานหรือเลขาฯรุ่น ซึ่งอ้างว่า เป็นคำสั่งของกรมการปกครอง โดยประธานหรือเลขาฯรุ่นที่นำกระดาษคำตอบเปล่ามาได้ขอให้เขียนคำตอบใหม่ ตามแบบคำตอบที่ให้มา แต่อย่าให้เหมือนกัน แล้วจึงมอบให้ประธานหรือเลขาฯรุ่นรับคืนไปยังกรมการปกครอง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า นายวุฒิชัยและผู้ถูกกล่าวหาทั้งที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอ 20 คนให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ต่อการไต่สวน จึงมีมติโดยเสียงข้างมากให้กันนายวุฒิชัย และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 20 คน ไว้เป็นพยาน โดยไม่ชี้มูลความผิดทางวินัยและอาญา
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุอีกว่า การกันนายวุฒิชัย และผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอทั้ง 20 คน ไว้เป็นพยานเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 103/6 ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2554