ส่อผิดกม. 3 ฉบับ! ม.เกษตรฯ กู้สหกรณ์ออมทรัพย์กว่า 4 พันล้าน

 

โดยเฉพาะ ช่วง 3 ปีหลัง (2552 – 2554)  มีการดำเนินการโครงการต่างๆ ทั้งการสร้างตึก อาคารจอดรถ หอพักนักศึกษา อาคารที่พักบุคลากร ก่อสร้างสระว่ายน้ำ และปรับปรุงสนามกีฬา ฯลฯ  มากถึง 43 โครงการ มูลค่ากว่า 2,926 ล้านบาทขณะที่กรอบวงเงินดังกล่าว  ม.เกษตรฯ มีการชำระเงินต้นไปแล้ว   830 ล้านบาท โดยในแบบรายงานดังกล่าว ไม่ได้ระบุรายละเอียดชัดเจนถึงการจ่ายดอกเบี้ย (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิถุนายน  2555)

 

ขณะที่เว็บไซต์ ของ  สอ.มก. ซึ่งดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2502  ก็มีการเผยแพร่หนังสือรายงานกิจการประจำปี 2555 ไว้ โดยระบุถึงผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย เป็นปีแรกที่ สอ.มก.มีสินทรัพย์รวมเกิน  2 หมื่นล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 583 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังตรวจสอบพบข้อมูลอีกว่า ในปี 2555  ม.เกษตรฯ  ในฐานะ “สมาชิกสมทบ” มีโครงการที่จะขอรับการสนับสนุนทางการเงินจาก สอ.มก. เพิ่มอีกกว่า  833 ล้านบาท โดยมติสภามหาวิทยาลัยม.เกษตรฯ

 

สำหรับกรณี ม.เกษตรฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคล กู้เงินสหกรณ์ของตนเองนั้น แหล่งข่าวรายหนึ่ง  ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ถึงความความผิดปกติที่อาจเข้าข่ายผิดพ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542,  พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 มาตรา 23 ทวิ และพ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548  มาตรา 7 และมาตรา 8

 

ประกอบกับ เมื่อย้อนกลับไปดูคดีพิพาทที่เกิดขึ้น ระหว่าง สอ.มก. ซึ่งยื่นฟ้องนายทะเบียนสหกรณ์ ต่อศาลปกครอง เมื่อปี 2554 เพื่อให้ศาลมีคำสั่ง ยกเลิก "คำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ที่ 798/2552" เรื่องการจดทะเบียนข้อบังคับสหกรณ์ ที่กำหนดคุณสมบัติสมาชิกสมทบตามมาตรา 41  แห่งพ.ร.บ.สหกรณ์ 2542 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2552  เป็นในส่วนที่เกี่ยวกับการให้เพิกถอนการรับจดทะเบียนข้อบังคับสหกรณ์ที่กำหนดคุณสมบัติของ “สมาชิกสมทบ” เป็นบุคคลธรรมดา ไม่บรรลุนิติภาวะนั้น เป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งวันที่ 31 มกราคม 2554 ศาลฯ ได้มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณา

 

แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวด้วยว่า เมื่อดูคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ 798/2552 นี้ และคดีพิพาท จึงยังมีผลให้ ม.เกษตรฯ  ไม่สามารถกู้เงินสหกรณ์ต่อไปได้ ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา  แต่กลับพบว่า ผู้บริหาร ม.เกษตรฯ  ยังคงทำธุรกรรม ไม่หยุด ทยอยกู้มาเรื่อยๆ  รวมถึงมีการเปลี่ยนระเบียบการกู้ เป็น “สหกรณ์สนับสนุนงบประมาณ”

แทนด้วย

 

 

---