- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- 'น.1'ปัดรับเงินที่ปรึกษาไทยเบฟ อ้างจนท.ทำเอกสารผิด
'น.1'ปัดรับเงินที่ปรึกษาไทยเบฟ อ้างจนท.ทำเอกสารผิด
"ศานิตย์" ดิ้นแจง "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ยันไม่ได้เป็น "ที่ปรึกษาบ.ไทยเบฟฯ" อ้างเกิดความผิดพลาดในการทำหนังสือแจงบัญชีทรัพย์สิน เพราะให้จนท.ทำแทน ขณะที่ "ผู้ตรวจการฯ" ยังรอ ป.ป.ช.ยืนยันข้อมูล ก่อนฟัน "ผิด-ถูก"
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหนังสือชี้แจงของพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีถูกกล่าวหาว่า รับเงินเดือนที่ปรึกษาจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน เดือนละ 50,000 บาท เข้าข่ายความผิดต่อจริยธรรม และกฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมกับหนังสือชี้แจงของบริษัทไทยเบฟฯ โดยพล.ต.ท.ศานิตย์ ชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นที่ปรึกษา จึงไม่มีการรับเงินในตำแหน่งดังกล่าว ส่วนที่ถูกระบุว่ามีการแจ้งว่าได้รับเงินดังกล่าวไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.นั้น อาจจะมีความผิดพลาด เพราะได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเตรียมเอกสารและยื่นให้ โดยไม่ได้ทำด้วยตัวเอง จึงอาจมีความเข้าใจผิด ขณะที่บริษัทไทยเบฟฯ ได้ชี้แจงว่า ไม่ได้จ้างพล.ต.ท.ศานิตย์เป็นที่ปรึกษาของบริษัทฯเช่นกัน
นายรักษเกชา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทาง ป.ป.ช.ยังไม่ได้ส่งสำเนาหนังสือรายละเอียดชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของพล.ต.ท.ศานิตย์ ที่ทางผู้ตรวจการฯได้ขอไป โดยทราบว่าทาง ป.ป.ช.จะมีการนำเข้าที่ประชุมในวันที่ 2 มี.ค.นี้ ก่อนที่จะมีการส่งมา และหากผู้ตรวจการฯ ได้รับหนังสือดังกล่าวก็จะนำเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินโดยเร็ว ก่อนที่รัฐธรรมนูญใหม่จะประกาศใช้
“แม้ก่อนหน้านี้จะมีหนังสือรายละเอียดชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของพล.ต.ท.ศานิตย์ในรายการรับเงินที่ปรึกษาบริษัทไทยเบฟฯ ปรากฏทางสื่อ แต่ผู้ตรวจการฯ ก็ต้องรอดูเอกสารจากหน่วยงานที่เป็นเจ้าของเอกสาร คือ ป.ป.ช. ซึ่งจะมีการเซ็นต์รับรองเอกสาร ดังนั้นขณะนี้จึงบอกไม่ได้ว่าพล.ต.ท.ศานิตย์ผิดหรือถูก เพราะถ้าเอกสารของป.ป.ช. ยืนยันว่า พล.ต.ท.ศานิตย์มีการแจ้งรับเงินที่ปรึกษาดังกล่าว ทางผู้ตรวจการฯ ก็ต้องถามพล.ต.ท.ศานิตย์อีกรอบ เพื่อให้ยืนยันว่า ได้มีการตรวจสอบก่อนที่จะเซ็นต์รับรองการแจ้งบัญชีทรัพย์สินก่อนหรือไม่ เพราะผู้ที่เซ็นต์รับรองถือว่าต้องเป็นผู้รับผิดชอบ"นายรักษเชากล่าวและว่า ส่วนจะเป็นการตกลงกันระหว่าง พล.ต.ท.ศานิตย์กับบริษัทไทยเบฟฯ หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และการระบุไม่ตรงข้อเท็จจริงจะเป็นการให้ข้อมูลเท็จกับ ป.ป.ช.หรือไม่ เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต้องพิสูจน์ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อป.ป.ช. ในกรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 16 พ.ย.59 นั้น ในเอกสารแนบท้ายแบบบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นเอกสารใช้ชื่อว่า “ชี้แจงทรัพย์สินรวมปราณ 80 ล้านบาท” ซึ่งในข้อ 7. ระบุว่า “…มีรายได้นอกเหนือจากการทำงานประจำ เช่น ดอกเบี้ยจากการให้เพื่อและญาติกู้ยืม รวมประมาณ 3 ล้านบาท, เป็นที่ปรึกษา บ.ไทยเบฟเวอเรจ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 50,000 บาท และมีรายได้จากการให้เช่าพระเครื่อง ซื้อมา-ขายไป รวมประมาณ 2 ล้านบาท รวมแล้วผู้ยื่นมีรายได้รวมประมาณ 42 ล้านบาท” โดยในเอกสารหน้าดังกล่าว มีลายเซ็นต์ของพล.ต.ท.ศานิตย์ เซ็นต์กำกับด้านล่างของเอกสาร นอกจากนั้นพล.ต.ท.ศานิตย์ยังมีการชี้แจงเพิ่มเติมเป็นเอกสารแนบท้ายลักษณะเดียวกัน แต่ระบุว่า “ชี้แจงทรัพย์สินรวมปราณ 93 ล้านบาท” ซึ่งยังมีข้อความที่ชี้แจงถึงการรับเงินเดือนที่ปรึกษา บ.ไทยเบฟเวอเรจ ปรากฎอยู่เช่นเดียวกันกับเอกสารชี้แจงฉบับแรก และมีลายเซ็นต์ของพล.ต.ท.ศานิตย์กำกับด้วย