- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ซิวแก๊งแชร์ลูกโซ่รายใหญ่"ยูฟัน"ตุ๋นหมื่นล้าน
ซิวแก๊งแชร์ลูกโซ่รายใหญ่"ยูฟัน"ตุ๋นหมื่นล้าน
ตำรวจ ปคบ. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ สคบ. และ ปปง. เข้าตรวจค้นกวาดล้างขบวนการแชร์ลูกโซ่รายใหญ่ เครือข่าย บริษัท ยูฟัน สโตร์ จํากัด ซึ่งทำธุรกิจแบบขายตรงในลักษณะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน พร้อมรวบตัวผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรวม 3 ราย อายัดทรัพย์อีกหลายรายการ
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจ ปคบ. เจ้าหน้าที่ สคบ.และ ปปง.จำนวนกว่า 100 นาย ปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการแชร์ลูกโซ่ เครือข่าย บริษัท ยูฟัน สโตร์ จํากัด ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการขายตรง โดยทำการตรวจค้นบ้านเป้าหมายพร้อมกันหลาย จุดแรกที่บ้านเลขที่ 9/2 ซอยรามอินทรา 62 แยก 1 ถนนรามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว โดยได้ทำการจับกุม ว่าที่ ร.ต.ฤทธิเดช วรงค์ อายุ 39 ปี กรรมการผู้จัดการ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” พร้อมทั้งยึดและอายัดเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการโฆษณา การทำธุรกรรมทางการเงินและทรัพย์สินไปตรวจสอบ จุดที่สองเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 4001 หมู่บ้านลาดพร้าว ซอยโยธินพัฒนา 11 แยก 7 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ซึ่งเป็นบ้านของ นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ อายุ 34 ปี กรรมการผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นบริษัท ยูฟัน สโตร์ ได้ทำการเช่าไว้พักอาศัย แต่ไม่พบตัว นายรัฐวิชญ์ พบเพียงหญิงผู้ดูแลบ้าน จึงขอทำการตรวจค้น พบนาฬิกาหรูหลายเรือน รวมทั้งสร้อยคอทองคำ พระเครื่อง และกระเป๋าแบรนด์เนมจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบรถยนต์บีเอ็มดับบลิว สีดำ รุ่นไอ 8 ทะเบียนป้ายแดง อ 6110 กรุงเทพมหานคร ราคา 12 ล้านบาท รถยนต์เมอร์ซิเดส เบนซ์ รุ่นอี 300 สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ค 4899 กรุงเทพมหานคร ราคา 5 ล้านบาท รวมทั้งรถยนต์ออดี้และปอร์เซ่ด้วย จึงยึดไว้ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าตำรวจสามารถจับกุมตัว นายรัฐวิชญ์ ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ขณะจะเดินทางไปบรรยายสัมมนาธุรกิจ โดยจะนำตัวมาสอบสวนขยายผลที่กรุงเทพมหานครต่อไป จุดที่สาม เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปที่อาคารบางนาคอมเพล็กซ์ ห้องเลขที่ 39/149 ชั้น 11 เพื่อจับกุม นายไชธร ทองหล่อเลิศ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นพบเอกสารทางการเงิน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เงินสกุลมาเลเชีย โฉนดที่ดิน เอกสารทะเบียนรถระบุชื่อ นายไชธร เป็นเจ้าของ จำนวน 3 เล่ม และเอกสารทางการเงินจำนวนหนึ่ง จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบ
ด้าน พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนว่าบริษัทดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายดำเนินธุรกิจเข้าลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ จึงทำการสืบสวนจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ว่า บริษัทดังกล่าวมีการฉ้อโกงประชาชนจริง ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 8 คน เป็นชาวต่างชาติ 3 คน และคนไทย 5 คน ประกอบไปด้วย นายเท คิม เลง อายุ 40 ปี นายนายลี ควน มิง อายุ 38 ปี นายวอน ชิง หัว อายุ 42 ปี ทั้งสามรายสัญชาติมาเลเซีย นายอาทิตย์ ปานแก้ว อายุ 47 ปี นายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า อายุ 40 ปี นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ อายุ 34 ปี นายไชธร ทองหล่อเลิศ อายุ 41 ปี และ ว่าที่ ร.ต.ฤทธิเดช วรงค์ อายุ 39 ปี ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้มีการชักชวนให้สมาชิกเข้าร่วมเครือข่ายธุรกิจขายตรง และกระทำการฉ้อโกงลักษณะกู้ยืมเงิน หรือแชร์ลูกโซ่ โดยมีผู้เสียหายกว่า 1 แสนราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1 หมื่นล้านบาทอย่างไรก็ตามบริษัทแห่งนี้ผู้ที่เป็นเจ้าของบริษัทแท้จริง คือ นายอาทิตย์ ปานแก้ว อายุ 47 ปี แต่ได้ให้ ว่าที่ ร.ต.ฤทธิเดช ดำเนินการถือหุ้นไว้แทน หรือนอมินี โดยนายอาทิตย์นั้นอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่ง นายอาทิตย์ ได้เปิดบริษัท จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วยบริษัท ยูฟัน สโตร์ จํากัด ดำเนินธุรกิจขายตรง จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา และ บริษัท ยูฟัน พร็อพเพอร์ตี้ (ไทยแลนด์) จำกัด ดำเนินธุรกิจประเภทกิจกรรมของตัวแทน และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แต่ทั้งสองบริษัทมีชาวมาเลเซียเป็นเจ้าของที่แท้จริงอีกทีหนึ่ง ซึ่งมีการว่าจ้างให้นอมินีเข้าดำเนินการถือหุ้นแทน เพื่อหลีกเลี่ยงจากตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการขอจดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรง เพราะไม่พบว่ามีการซื้อขายสินค้าเหมือนธุรกิจขายตรงอื่น และดำเนินธุรกิจโดยออกสกุลเงินของตนเองใช้ในหมู่สมาชิกเรียกว่า "ยูโทเคน" ซึ่งเป็นสกุลเงินสมมุติสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในโลกออนไลน์ โดย สคบ. ได้เพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทไปเมื่อวันที่ 8 เม.ย. และ ปปง. ได้ยึดทรัพย์จากเครือข่ายดังกล่าวได้แล้วกว่า 250 ล้านบาท.
ขอบคุณข่าวจาก