- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- เมียนมาถกสภาทนาย แลกเปลี่ยนข้อกม.ช่วยจำเลยคดีฆ่าฝรั่งที่เกาะเต่า
เมียนมาถกสภาทนาย แลกเปลี่ยนข้อกม.ช่วยจำเลยคดีฆ่าฝรั่งที่เกาะเต่า
ตัวแทนภาครัฐเมียนมา ถกสภาทนายความ หลังศาลจังหวัดสมุยและศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืนให้ประหารชีวิต ซอรินและเวพิว กรณีฆ่าแหม่มชาวอังกฤษที่เกาะเต่า
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.60 นายอูเมียวอ่อง ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอูเมืองเมืองกาว อธิบดีกรมการจัดหางาน นายอูฮุนกานซัม อัครราชฑูตปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชฑูตเมียนมา ได้เดินทางเข้าพบว่าที่ร.ต.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ โดยมีมีนายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ นายสรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการให้การต้อนรับ
นายอูเมียวอ่อง กล่าวว่า แม้ว่าศาลอุทธรณ์ภาค 8 จะมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ทางเมียนมา ขอขอบคุณสภาทนายความที่จัดหาทนายความให้จำเลยทั้งสอง ถือเป็นความช่วยเหลือในหลักพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ ที่รัฐบาลทั้งสองประเทศต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องนี้ทางเมียนมาพร้อมที่จะสนับสนุนเจ้าหน้าที่และข้อมูลเพื่อเตรียมใช้ในชั้นศาลฎีกา
นายอูฮุนกานซัม กล่าวว่า ทางเมียนมาได้ส่งเจ้าหน้าที่คณะทำงานด้านกฎหมายมาให้การช่วยเหลือทางสภาทนายความโดยขอประสานงานและหวังว่าจะได้รับความร่วมมือด้วยดี
นายนคร ชมพูชาติ ประธานคณะทำงานฝ่ายสิทธิมนุษยชย สภาทนายความ กล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นจากคดีอาชญากรรมท่ัวไปกลายเป็นคดีที่ยุ่งยากซับซ้อน เริ่มจากมีการจับกุมแรงงานต่างด้าวและมีการทำร้ายผู้ต้องหา และเกิดความเคลื่อนไหวของฝ่ายรัฐที่จะต้องจับตัวคนร้ายให้ได้ จนเกิดปัญหาในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทางแก้คือต่อไปจะต้องมีการปรับปรุงเรื่องสิทธิความเท่าเทียมของแรงงานต่างด้าว และต้องเตรียมแก้ปัญหาอันเกิดจากผลกระทบต่างๆรวมถึง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าวอีกด้วย
โดยปัญหาในคดีที่นี้ยังเกิดจาก พยานบุคคลชาวเมียนมา ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ กลับไม่กล้าให้การ แต่กลับไปพูดให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งและข้อมูลไปปรากฎที่เมียนมา ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน จนอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมได้ ขอให้ผู้แทนฝ่ายเมียนมานำไปหารือแก้ไข
นายวีรศักดิ์ โชติวานิช หัวหน้าคณะทนายความ กล่าวว่า จะสรุปเนื้อหาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 แล้วเตรียมเขียนฎีกาต่อไป ปัญหาที่พบคือศาลยังไม่ได้หยิบยกข้อเท็จจริงที่ปรากฎในสำนวน 3 ถึง 4 ประเด็น และศาลเชื่อในพยานหลักฐานที่มาจากฝ่ายสืบสวนของตำรวจ กับรายการการตรวจดีเอ็นเอที่ยังคลาดเคลื่อน และมีข้อพิรุธหลายอย่าง ข้อมูลบางอย่างมีอยู่แต่ไม่ได้ปรากฎในชั้นศาลหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่จำเลย ยังไม่ได้ถูกนำมาพิจารณา
นอกจากนี้สภาพศพ อาวุธที่ใช้ ยังมีข้อสงสัยรวมทั้งการสืบสวนเกี่ยวกับคนไทยที่เป็นผู้ต้องสงสัยที่ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดการประทุษร้าย สิ่งเหล่านี้คณะทำงานชุดเดิมจะนำไปนำเสนอให้ศาลฎีกาต่อไป
ว่าที่ร.ต.ถวัลย์ กล่าวว่า ทางสภาทนายความ รับว่าจะให้ความช่ววยเหลือจำเลยทั้งสองในแง่ของสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของประเทศและการพัฒนากฎหมาย โดยจัดคณะทำงานทั้งชุดเดิมและหน่วยงานสนับสนุน เตรียมยื่นฎีกาภายในกำหนดของกฎหมาย โดยยินดีจะช่วยเหลือจนคดีถึงที่สุด