- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ป.ป.ช.จี้คู่สัญญารัฐเปิดราคากลาง หวังสางคอรัปขั่น
ป.ป.ช.จี้คู่สัญญารัฐเปิดราคากลาง หวังสางคอรัปขั่น
ป.ป.ช.ประกาศเกณฑ์โครงการรัฐ จี้คู่สัญญาเปิดราคากลาง มูลค่า 2 ล้านบาท เริ่มใช้ 1 เม.ย.55 – 1 มี.ค.56 กลุ่มก่อสร้างเตรียมตั้งสถาบันคิดราคากลางมาตรฐาน หวังช่วยสางทุจริตได้
วันที่ 9 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้จัดการอภิปรายเรื่อง“หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย ของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ” ภายใต้โครงการสัมมนาแนวทางปฏิบัติตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและการปราบปรามการทุจริต(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554
โดยนายภักดี โพธิศิริ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า ปัญหาอย่างหนึ่งของการทุจริต คือการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐที่มีปัญหาการใช้งบประมาณอย่างไม่มีประโยชน์ โดยงบประมาณที่ภาครัฐใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง เฉลี่ยปีละประมาณ 60-70 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริต จึงมีการออกมาตรการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง คือ 1.ต้องมีการเปิดเผยราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอีเล็ก ทรอนิกส์ เพื่อทำให้การแบ่งเปอร์เซ็นต์เกิดได้ยากขึ้นเพราะสามารถถูกตรวจสอบได้ง่าย และ 2.บุคคลหรือนิติบุคคลที่จะมาเป็นคู่สัญญาของรัฐว่าจะต้องยื่นรายรับรายจ่าย ของตัวเองเป็นรายโครงการต่อกรมสรรพากร ทางอีเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมูลค่าของสัญญาที่ต้องยื่นบัญชีนี้ จะต้องมีมูลค่าตั้งแต่ 500,00 บาทขึ้นไป เพื่อให้ป.ป.ช.และกรมสรรพากร ลงไปตรวจสอบการทุจริตในระดับภูมิภาคและท้องถิ่นด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีแรก ป.ป.ช.ผ่อนปรน โดยในช่วงวันที่ 1 เม.ย.2555 -1 มี.ค.2556 จะใช้บังคับเฉพาะสัญญาที่มีมูลค่าตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปก่อน เพราะต้องจัดซื้อจัดจ้างในระบบอีเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออกชั่น ก่อน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2556 เป็นต้นไป จะเริ่มบังคับใช้ตามสัญญาที่มีมูลค่า 5 แสนบาท
กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า แต่ถ้าบัญชีรายรับรายจ่ายนี้ไม่ถูกต้อง หรือไม่มีการยื่น บุคคลหรือนิติบุคคลนั้นๆจะถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ขาดคุณสมบัติของคู่สัญญาของ รัฐ แต่ถ้าจะกลับมาเป็นคู่สัญญาของรัฐได้ก็ต่อเมื่อยื่นบัญชีดังกล่าวที่ถูกต้อง ทั้งนี้ การกำหนดให้เปิดเผยราคากลางและคำนวณราคากลางนั้น ป.ป.ช.ได้ส่งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ความเห็นชอบ ซึ่งครม.จะพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ และหน่วยงานของรัฐต้องเริ่มปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์นี้ภายใน 180 วันนับจากวันที่ครม.มีมติ ทุกหน่วยงานจึงต้องจัดให้เว็บไซต์ของตัวเองมีการแสดงราคากลางในทุกโครงการ ที่มีการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ
ด้านนายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การบังคับใช้หลักเกณฑัดังกล่าว มีผลต่อผู้ประกอบการด้านการก่อสร้างโดยตรงเพราะเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัด จ้างโดยเฉพาะ แต่โดยส่วนตัวของตนคิดว่าการบังคับใช้หลักเกณฑ์นี้เป็นเรื่องดีที่จะช่วยแก้ ปัญหาการคอร์รัปชั่นได้ในระดับหนึ่ง เพียงแต่เรื่องของระเบียบและการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายดังกล่าวถือเป็น เรื่องใหม่ เพราะยังมีหลายส่วนที่ป.ป.ช.ยังไม่มีความพร้อมเพียงพอที่จะจัดทำเรื่องของ ข้อมูล อย่างไรก็ตามควรมีการนำบทบัญญัตินี้ไปปรับใช้ร่วมกับกฎหมายฉบับอื่นๆของ ป.ป.ช. อาทิ กฎหมายเกี่ยวกับการให้สินบน การกันเป็นพยาน เป็นต้น เพื่อให้บทบัญญัตินี้มีผลในทางปฏิบัติจริงๆ
" ทั้งนี้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย ได้หารือกันถึงผลักดันก่อตั้งสถาบันที่จัดอบรมการคิดราคากลางสำหรับงานก่อ สร้าง เพื่อให้ผู้ที่คิดราคากลางมีมาตรฐานและคุณภาพ โดยเสนอให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ร่างหลักสูตร เพราะปัจจุบันแต่ละหน่วยงานคิดราคากลางกันเอง จึงมีช่องทางการทุจริต และถ้าผู้มีอำนาจสั่งให้ผู้คิดราคากลางที่เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ บวกราคาเพิ่มอีก เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องทำตามคำสั่ง แต่ถ้ามีการทำเรื่องของผู้คิดราคากลางให้เป็นเรื่องของวิชาชีพ ตนคิดว่าคงไม่มีใครกล้าเสี่ยง ดังนั้นถ้าราคากลางมีความเป็นธรรมก็จะเป็นต้นทางของการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ได้ในระดับหนึ่ง " นายกฤษดา กล่าว .