ดร.สุปรีดา แจงสศค. ดึงงบสสส. เกิน 2 พันล.ตั้งกองทุนผู้สูงอายุ ตัวเลขยังคลาดเคลื่อน

ผู้จัดการ สสส.แจง สศค. ดึงงบ สสส. ที่เกิน 2 พันล้านบาทมาตั้งกองทุนผู้สูงอายุ หวังเพิ่มเบี้ยยังชีพ ผิดจากที่เคยหารือ ที่ตกลงไว้ที่ 4 พันล้านบาท 

จากกรณีกระทรวงการคลังได้วางแผนเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชราให้สูงขึ้น โดยเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ได้มีการวางแผนจัดตั้งกองทุนผู้สูงอายุ จะนำเงินรายได้ส่วนเกินมาจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนสนับสนุนการกีฬา แห่งละ 2,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 4,000 ล้านบาท นั้น

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า  เมื่อเดือนที่ผ่านมาทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้มีการเชิญองค์กรที่เกี่ยวข้อง อาทิ สสส. กองทุนกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมบัญชีกลาง มาหารือกันในกรณีที่รัฐบาลที่อยากจะเพิ่มสวัสดิการแก่ผู้สูงอายุ รวมทั้งเบี้ยผู้สูงอายุ โดยมองหาเม็ดเงินจากภาษีประชาชน  โดยในการหารือทางสสส.ได้มีการคุยกันไว้ว่า งบประมาณจะอยู่ที่  4,000 ล้านบาท ถ้าเกินจากเพดานนี้จะให้นำเงินส่วนที่เหลือไปช่วยกองทุนผู้สูงอายุส่วนหนึ่ง โดยได้คุยกับกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ที่มีกองทุนนี้อยู่แต่เดิม ประมาณ 500-600 ล้านบาท สุดท้ายสศค.สรุปออกมาว่า ให้เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ  ส่วนเรื่องงบประมาณยังคงหารือกันต่อไปว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่

"ในวันนั้นที่มีการหารือกันตกลงไว้ที่ 4,000 ล้านบาท แต่มีข่าวออกไปว่า 2 พันล้านบาท ทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนกันเกิดขึ้น"

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และโฆษกกองทุน สสส. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการหารือ สศค. ได้มีการเสนอเพดานงบประมาณส่วนเกิน สสส. ที่วงเงิน 4,000 ล้านบาท ไม่ใช่ 2,000 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

“จากข่าวที่นำเสนอมีความคลาดเคลื่อนจากที่ได้หารือกัน   อีกทั้งเป็นเพดานวงเงินที่ขัดกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ที่กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และ สธ. ได้ยกร่างขึ้น ที่กำหนดวงเงินเพดานงบประมาณ สสส. ไว้ 4,000 ล้านบาท/ปี และจะมีการทบทวนทุกสามปี ซึ่งกำลังจะมีจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ในเดือน มี.ค. - เม.ย.นี้ อีกทั้งขณะนี้เป็นช่วงการจัดทำแผนหลัก 3 ปี และแผนปฏิบัติการประจำปีของ สสส. ดังนั้น เพื่อความชัดเจน สสส. จะทำหนังสือสอบถามอย่างเป็นทางการไปยัง สศค. ถึงประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นต่อไป” ดร.ประกาศิต กล่าว