คาราวะ 'เจ๊ยุ' คำถามคืออาวุธของ 'ยุวดี ธัญญสิริ'
ผมกับเจ๊มีความผูกพัน อยู่บางกอกโพสต์ด้วยกัน เจ๊ให้ความห่วงใยผมเสมอ ไม่ว่ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับผมก็จะโทรมาสอบถามโดยตรง หรือเจ๊ตั้งใจจะบอกอะไรก็โทรมาเล่า มาบอก ตอนผมลาออกจากบางกอกโพสต์ เจ๊โทรมาถามว่า "แล้วเธอจะทำอะไรกินประดิษฐ์ ลูกก็ยังเล็กอยู่" หลังจากบอกเล่าเหตุผลต่างๆ เจ๊ก็อวยพรให้โชคดี
เจ๊เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ผมโกรธไม่ลง แม้ว่าหลายๆ ครั้งจะโมโหสุดขีด หลังจากวิวาทะกันในหลายๆ เรื่องตามวาระ อย่างดีผมก็ลุกจากไป บางครั้งก็ไม่ทันข้ามชั่วโมง หรือข้ามวันก็คุยกันปกติ เถียงกันเย็นหน่อยก็พาอารมณ์กลับบ้านให้ข้ามคืน เช้าวันใหม่พบเจ๊เราก็คุยกันปกติ ยกมือไหว้ทักทายกันปกติ เป็นผู้ใหญ่ที่โกรธไม่ลงจริงๆ
'เจ๊ยุ บางกอกโพสต์'
เจ๊ยุ บางกอกโพสต์ อาจจะเป็นอีกชื่อหนึ่งที่ผู้คนรู้จักพอๆ กับชื่อ 'ยุวดี ธัญญสิริ' มีแหล่งข่าวหลายคนเมื่อมาอยู่ในทำเนียบก็ถามและวิเคราะห์ในการรับมือกับเจ๊ยุ บางกอกโพสต์กันเลยที่เดียว
เจ๊ยุ บางกอกโพสต์ ชื่อนี้อาจสร้างความครั่นเนื้อครั่นตัวสำหรับผู้มีอำนาจทั้งหลายที่เข้ามานั่งในทำเนียบรัฐบาลอย่างแน่นอน
เจ๊ยุใช้คำถามเป็นใบเบิกทางเพื่อให้ได้ข้อมูลอาจจะมีคนชอบหรือไม่ชอบกับคำถามของเจ๊
แต่คำถามก็คืออาวุธเพียงอันเดียวที่เจ๊ใช้ในการทำหน้านักข่าวได้ทรงพลังที่สุด แม้ว่าในคำถามนั้นจะดูเหมือนคำเปรยๆ คำบ่นๆ ถามตรงๆ ถามแบบอบรมแหล่งข่าว ย้อนถามแหล่งข่าวและอื่นๆ
เจ๊ทำหน้าที่นักข่าวอย่างซื่อสัตย์เพราะเจ๊มีคำถามกับแหล่งข่าว กับผู้บริหารอยู่ทุกเวลา
เจ๊ถามเมื่อเจอแหล่งข่าว ไม่ว่าแหล่งข่าวนั้นเป็นรัฐมนตรี หรือข้าราชการหน่วยงานใดก็ตาม เพราะเจ๊มีข้อมูล เมื่อเจอหน้าเจ๊ถามได้เลย เพราะเจ๊มีข้อมูลของหน่วยงานนั้นๆ
เจ๊ยุกล้าถามไม่ว่าแหล่งข่าวคนนั้นจะมีอำนาจมากมายเพียงใด เจ๊ใช้คำถามเป็นใบเบิกทางเพื่อให้นักข่าวที่ล้อมอยู่วงใหญ่ได้ข้อมูลไปเขียนข่าวเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร
ผมเองก็เสียใจ ที่เจ๊จากพวกเราไปในเวลากระทันหันเช่นเดียวกับทุกๆ คน
แต่ถ้าถามว่านักข่าวปัจจุบันควรเรียนรู้หรือจะเอาอะไรมาเป็นแบบอย่างในการทำหน้าที่นักข่าวจากเจ๊ยุได้บ้าง?
แน่นอนต้องมีเยอะ ทั้งความซื่อสัตย์ในการทำหน้าที่นักข่าว ความรู้ ความรับผิดชอบ การแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย (เรื่องนี้เจ๊บ่นเสมอว่านักข่าวตอนนี้แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย) ความขยันขันแข็ง ฯลฯ
แต่สำหรับผมคือคำถามและความกล้าที่จะถามของเจ๊ยุ ควรที่นักข่าวยุคนี้นำมาเรียนรู้และเอามาเป็นแบบอย่างได้อย่างแน่นอน
"ประดิษฐ์ เป็นนักข่าวต้องถามนะ ไม่ถามจะได้ข่าวมาได้อย่างไร" เจ๊ยุสอนผมตอนเป็นนักข่าวช่วงแรกๆ และผมเชื่อว่าเจ๊คงสอนอีกหลายๆ คน
ผมเองและนักข่าวอาวุโสจำนวนมากละเลยการทำหน้าที่ในการตั้งคำถามกับแหล่งข่าวในที่สาธารณะ ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่น ไม่อยากเผชิญหน้า ไม่ต้องการเปลืองตัว และอื่นๆ ผมเองยอมรับว่าแพ้เจ๊ยุในเรื่องนี้อย่างราบคาบ
เจ๊เป็นตัวอย่างของนักข่าวที่ปกป้องสิทธิที่จะถาม ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานของนักข่าวไว้อย่างต่อเนื่องยาวนาน และเป็นสิทธิและหน้าที่ของแหล่งข่าว หรือผู้บริหารที่ควรจะตอบเพื่อประโยชน์ในการรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน
เจ๊ยุจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี แต่ไม่เคยหยุดในการทำหน้าที่นักข่าว เจ๊ทำข่าวตลอดชีวิต
แม้ว่าเจ๊จะเกษียณไปแล้ว มีความผูกพันกับบางกอกโพสต์มากและเจ๊ส่งข่าวให้บางกอกโพสต์ตลอดเวลาแม้ว่าไม่ได้รับค่าตอบแทนก็ตาม นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างของเจ๊ที่มีความซื่อสัตย์ต่อสังกัดของตัวเอง
ตอนเจ๊เกษียณ บางกอกโพสต์มี 'พัฒนพงศ์ จันทรานนท์วงศ์' เป็น บรรณาธิการ ถ้าผมจำไม่ผิดบางกอกโพสต์ยังให้เจ๊ทำงานและมีค่าตอบแทนบ้างแม้ว่าจะลดลงก็ตามในช่วงปีแรกๆ แต่เจ๊ไม่เคยหยุดส่งข่าวให้บางกอกโพสต์ไม่ว่าจะอยู่สถานะใดก็ตาม
'เจ๊ยุ' ไม่มีสังกัด
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันได้คือในแต่ละปีต้องทำบัตรนักข่าวทำเนียบรัฐบาลใหม่ กองบรรณาธิการบางกอกโพสต์จะใส่ชื่อเจ๊ยุ 'ยุวดี ธัญญสิริ' หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์มาทำบัตรพร้อมกับช่างภาพและนักข่าวคนอื่นๆ อย่างต่อเนื่องในยุคพี่ 'พิชาย ชื่นสุขสวัสดิ์' บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ก็ได้ทำเช่นนี้
เจ๊ยุ บางกอกโพสต์ จึงมีบัตรเข้าทำเนียบรัฐบาลได้มาต่อเนื่อง 10 ปี ผมเองชื่นชมกองบรรณาธิการบางกอกโพสต์ที่เห็นคุณค่าชีวิตนักข่าวของเจ๊ยุ
มาตกใจก็ตอนปลายปี 2559 เมื่อรู้ว่าเจ๊ยุ ไม่มีสังกัดทำบัตร เข้าทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ อาจเพราะไม่มีรายชื่อในกองบรรณาธิการบางกอกโพสต์เช่นเดิม ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เพราะการเปลี่ยนผู้บริหารในบางกอกโพสต์ที่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่องเหล่านี้ไปด้วย
ผมคุยกับเจ๊ยุ เจ๊ก็เข้าใจเรื่องเหล่านี้ไม่โทษใครและเจ๊ก็มีศักดิ์ศรีและมีความเป็นผู้ใหญ่ไม่ดิ้นรน ที่จะหาสังกัดใหม่เพื่อไปทำบัตรนักข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลให้ได้ เจ๊ก็ไปนั่งที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยอย่างสบายใจ
วันหนึ่งผมเจอเจ๊ยุที่สมาคมนักข่าวฯ ผมถามว่า "เจ๊ครับมีความตั้งใจจะหยุดทำข่าวเมื่อไหร่ครับ" หลังจากคุยเรื่องอื่นๆ มาแล้ว
"ฉันตั้งใจจะทำอีกปีเดียวแล้ว (คือปี 2560) จะหยุดแล้ว เจ๊บอก "ก็ดีครับเจ๊ จะได้เดินทางเที่ยวที่ต่างๆ อย่างมีความสุข" ผมคุยต่อ "นี่ประดิษฐ์ฉันเดินทางท่องเที่ยวมาเยอะแล้ว "เจ๊บอก
ปีสุดท้ายที่เจ๊ทำงาน แค่ไม่มีสังกัดเพื่อทำบัตรเข้าทำเนียบรัฐบาลเท่านั้นแหละ แต่ไม่มีอะไรในโลกนึ้จะปกปิดความเป็นนักข่าวของเจ๊ได้เลย เจ๊ยุ เป็นนักข่าวทั้งชีวิต เป็นนักข่าวจนลมสุดท้ายของชีวิต
สำหรับผมแล้ว เจ๊ยุ ผู้ที่มานั่งในทำเนียบรัฐบาล มีทั้งชอบและไม่ชอบซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ว่าพวกเขาจะชอบหรือไม่ชอบ ก็เป็นผลมาจากการ ทำหน้าที่นักข่าวโดยตรงของเจ๊ยุครับ
เจ๊ยุจากไปแล้ว อะไรที่ผมเคยล่วงเกินไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง อโหสิกรรมให้ผมด้วยนะครับ
11 มีนาคม 2560
ประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์
หมายเหตุ : ภาพประกอบ ยุวดี ธัญญสิริ จาก www.pptvthailand.com