เงิน...เงิน...เงิน
เมื่อวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเทศนาที่คริสตจักรกิจการแห่งพระคริสต์ ในหัวข้อ “เงิน...เงิน...เงิน” ซึ่งผมอยากมีโอกาสได้ถ่ายทอดแบ่งปันกับท่านผู้อ่านทุกท่าน เป็นตอนแรก ดังนี้ครับ
1.เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ : หลายๆคน มีความเชื่อว่า “ถ้ามีสมบัติมาก ก็จะมีความสุขมาก” พรที่อยากให้ หรือพรที่อยากได้คือ “ขอให้รวย ขอให้รวย” ผมเชื่อว่า นั่นคือ “กับดักแห่งความทุกข์” เพราะหากเชื่อเช่นนั้น “เท่าไรถึงจะพอ”
พรที่ผมอยากได้รับ และอยากให้คือ “ขอให้มีความสุข ขอให้มีความสุข” เพราะนั่นคือความหมายที่แท้จริง
รวยไม่สำคัญ เพราะมันไม่เคยพอ... เพียงพอจึงสำคัญ เพราะนั่นคือความสุขแท้
พระเยซูได้ตรัสสอนว่า “อย่าส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวในโลก ที่อาจเป็นสนิมและที่แมลงกินเสียได้ และที่ขโมยอาจขุดช่องลักเอาไปได้” เป็นสัจธรรมสำคัญ
ผมได้พบบทความสั้นดีๆที่เริ่มด้วย Money can buy house, but not home. เป็นภาษาง่ายๆ แต่ความหมายลึกซึ้ง ซึ่งผมได้แปลและเรียบเรียงได้ว่า
เงินซื้อบ้านพักได้ แต่ซื้อครอบครัวอันอบอุ่นไม่ได้
เงินซื้อเตียงได้ แต่ซื้อการหลับสบายไม่ได้
เงินซื้อหนังสือได้ แต่ซื้อความรู้ไม่ได้
เงินซื้อนาฬิกาได้ แต่ซื้อเวลาไม่ได้
เงินซื้อตำแหน่งได้ แต่ซื้อความน่านับถือไม่ได้
เงินซื้อยาได้ แต่ซื้อสุขภาพไม่ได้
เงินซื้อประกันได้ แต่ซื้อความปลอดภัยไม่ได้
เงินซื้อบริการ …ได้ แต่ซื้อความรักไม่ได้
เงินซื้อเพื่อนกินได้ แต่ซื้อ “เพื่อน”ไม่ได้
เงินซื้อวัตถุสิ่งของได้ แต่ซื้อ ความสุข ไม่ได้
เราจึงไม่ควรเห็นว่าเงินสำคัญเกินไป เพราะ
... เงินอาจซื้อบ้านพักที่หรูหราเพียงใดก็ได้ แต่ไม่ได้แปลว่าจะมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ ต้องใช้ความรัก
... เงินอาจจะซื้อตำแหน่งสูงได้ แต่ซื้อความน่านับถือไม่ได้ ต้องใช้ความจริงใจ จริงจัง ความสัตย์ซื่อ
... เงินอาจจะซื้อบริกร... ภาษาอังกฤษชัดหน่อยว่า Money can buy sex, but not love. รักแท้ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน
... เงินอาจจะซื้อวัตถุสิ่งของใดก็ได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้ เพราะความสุขไม่ใช่อยู่ที่ “มี” แต่อยู่ที่ “พอ” มากกว่าลูกๆผมก็ได้มีโอกาสเสริมว่า เงินอาจซื้อเครื่องลดน้ำหนักได้ แต่ช่วยลดน้ำหนักไม่ได้ ต้องถือว่าโดนเต็มๆ (ฮา)
มีพระคัมภีร์ปัญญาจารย์ หลายบท หลายข้อ ที่ให้คำสอนเรื่องนี้ครับ
ปญจ 5:12 (ปัญญาจารย์ บทที่ 5 ข้อ 12) : “การหลับของกรรมกรก็ผาสุกไม่ว่าเขาจะได้ กินน้อยหรือได้กินมาก แต่ความอิ่มท้องของคนมั่งมีก็ไม่ช่วยเขาให้หลับ”
ปญจ 5:15 : “เขาได้คลอดมาจากครรภ์มารดาตัวล่อนจ้อนฉันใด เขาจะกลับไปอีกเช่นเดียวกันฉันนั้น และเขาจะเอาอะไรซึ่งเป็นผลงานของเขาติดมือไปไม่ได้สักอย่างเดียว”
ปญจ 5:10 : “คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงิน และคนรักสมบัติไม่รู้จักอิ่มกำไร นี่ก็อนิจจังด้วย”
ปญจ 5:11 : “เมื่อของดีเพิ่มพูนขึ้น คนกินก็มีคับคั่งขึ้น คนที่เป็นเจ้าของทรัพย์จะได้ประโยชน์อะไร นอกจากจะได้ชมเล่นเป็นขวัญตาเท่านั้น”
ผมเองก็ยังใช้นาฬิกาเรือนละประมาณ 3 พันบาท วันก่อนไปเดินดูตู้นาฬิกาคาสิโอที่มาบุญครอง คนขายเขาบอกว่า เรือนที่ผมดูๆอยู่เรือนละ 3,500 บาท ผมกำลังคิดอยู่ เพราะลูกๆอยากให้ซื้อจากศูนย์เสียที คนขายก็ถามว่า “เฮีย ทางนี้ 2,000 ก็มีนะ” ผมก็เลยอมยิ้มแล้วเดินออกมา
จะว่าไป ผมอยากได้ของตอนที่โบนัสออก หวังว่าได้นาฬิกาดีๆ งบสัก 8,000-10,000 บาท ซึ่งบางครั้งได้มีโอกาสดูนาฬิการาคาแพงๆเป็นแสนเป็นล้าน ผมก็ยังดูไม่เป็นว่าจะต่างกันขนาดไหน ? เดินเร็วกว่าของผมหรือเปล่า ? ของผมมีทั้งเข็ม มีทั้งตัวเลข บอกวัน วันที่ เวลา บอกเวลาได้ 2 ประเทศ สายแสตนเลสอย่างดี 3,000 บาท หายก็ไม่เสียดายมาก ฯลฯ ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้จริง
ในหัวข้อทั้งหมด จะกล่าวถึงว่า (1) เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ (2) แต่เงินยังเป็นพระพร (3) เงินเป็นการทดลอง (4) อย่าให้เงินอยู่ที่ใจ (5) ที่ให้ใจอยู่กับพระองค์ สัปดาห์หน้า เรามาต่อกันนะครับ