- Home
- Investigative
- ร่ำรวยผิดปกติ
- เปิดหลักฐาน มัด “เมียอริสมันต์” ชำระค่าหุ้นบริษัทอสังหาฯ เฉียด 25 ล้าน?
เปิดหลักฐาน มัด “เมียอริสมันต์” ชำระค่าหุ้นบริษัทอสังหาฯ เฉียด 25 ล้าน?
เปิดใบเสร็จชำระค่าหุ้นเฉียด 25 ล. สวนคำให้การ “อริสมันต์-เมีย”ปมตั้งบริษัทอสังหาฯ ระบุชัดจ่ายเงินตั้งแต่ช่วงก่อตั้ง พบ"ระพิพรรณ"ลงลายมือชื่อรับรองเอง?
กรณี นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย “ภรรยา” ของนายอริสมันต์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า นางระพิพรรณ และหุ้นส่วน ได้ร่วมกันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จริง แต่ในขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ไม่ได้มีการชำระเงินค่าหุ้นของบริษัทแต่อย่างใด เงินค่าหุ้นจำนวน 25 ล้านบาท ที่ระบุไว้ เป็นเพียงแค่การแจ้งแค่ตัวเลขไว้เท่านั้นยังไม่ได้มีการลงเงินจริงแต่อย่างใด และนับตั้งแต่การจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัทฯ ก็ยังมิได้เริ่มประกอบกิจการใดๆ เนื่องจากเกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นระหว่างหุ้นส่วนบริษัท ทำให้ต้องระงับการดำเนินกิจการทุกอย่างของบริษัทไว้ทั้งหมดนั้น
(อ่านประกอบ :“อริสมันต์ –เมีย”เปิดบ้านหรู!!แจงปมธุรกิจเชื่อมโยง“สายการบิน-อสังหาฯ”)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่แจ้งไว้ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า มีหลักฐานสำคัญหลายชิ้น ที่ระบุว่า นางระพิพรรณ ได้ชำระเงินค่าหุ้นให้กับบริษัทฯ ไว้แล้ว ดังนี้
หลักฐานชิ้นที่1 หนังสือบริคณห์สนธิ บริษัท เฮ้าส์ ออฟฮาร์ท พร๊อพเพอร์ตี้ 2012 จำกัด ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ระบุว่าผู้ที่เริ่มก่อการจำนวน 4 ราย ได้เข้าซื้อหุ้นไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยในส่วนนางระพิพรรณ ได้เข้าซื้อหุ้นไว้ จำนวน 99,997 หุ้น
(ดูหลักฐานประกอบ)
หลักฐานชิ้นที่ 2 รายงานการประชุมตั้งบริษัท ในข้อ 4. เรื่องพิจารณาเรื่องหุ้น ซึ่งปรากฏชื่อ นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง เป็นประธานที่ประชุม
ระบุว่า ประธานได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา กำหนดชนิดและจำนวนหุ้นของบริษัท รวมทั้งการเรียกชำระเงินค่าหุ้นในครั้งแรกด้วย
โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว จึงลงมติเป็นเอกฉันท์กำหนดให้หุ้นของบริษัท มีชนิดเดียว เป็นหุ้นสามัญ ชนิดระบุชื่อที่ต้องใช้เงินจนเต็มมูลค่า และให้เรียกชำระค่าหุ้นในครั้งแรกนี้ หุ้นละ 250 บาท รวมเป็นเงินที่เรียกให้ชำระค่าหุ้นในครั้งนี้ทั้งหมด 75 ล้านบาท
จากการที่บริษัทฯแจ้งทุนจดทะเบียน ไว้จำนวน 300 ล้านบาท แบ่งออกเป็นจำนวน 300,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท
ส่วนวงเงินจำนวน 75 ล้านบาท ที่เรียกชำระครั้งแรก แบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ วงเงินจำนวน 25 ล้านบาท 2 ก้อน และวงเงินอีก 24.999,250 บาท และ 750 บาท
โดยนางระพิพรรณ ชำระค่าหุ้นไว้เป็นจำนวนเงิน 24.999,250 บาท ส่วนผู้ถือหุ้นอีกสองราย ชำระกันคนละ 25 ล้านบาท ส่วนเงินที่เหลืออีก 750 บาท คิดจากจำนวน หุ้น 3 หุ้น อยู่ในชื่อของ นายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย ก่อนที่จะถูกนำมารวมกับ นางระพิพรรณ ในภายหลัง ทำให้วงเงินที่นางระพิพรรณชำระค่าหุ้นให้บริษัท คิดเป็นจำนวนเงิน 25 ล้านบาท เช่นกัน
(ดูหลักฐานประกอบ)
หลักฐานชิ้นที่ 3 ใบสำคัญรับชำระเงินค่าหุ้น ของบริษัทฯ ซึ่งมีการระบุข้อความว่า บริษัทฯ ได้รับชำระเงินค่าหุ้น จากนางระพิพรรณ ไว้เรียบร้อยแล้ว
(ดูหลักฐานประกอบ)
หลักฐานชิ้นที่ 4 สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัทฯ ณ วันที่ 5 กันยายน 2555 ระบุชัดเจนว่า นางระพิพรรณ เป็นผู้ครอบครองหุ้นบริษัท จำนวน 100,000 หุ้น (เดิมที่นางระพิพรรณ ถือหุ้นอยู่จำนวน 99,997 หุ้น ต่อมาได้รับโอนมาอีก 3 หุ้น รวมเป็น 100,000 หุ้น ) ตามหมายเลขหุ้น ที่ 200001-299997 ลงวันที่ 21-08-55 และ 299998-300000 ลงวันที่ 05-09-55
(ดูหลักฐานประกอบ)
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า คำชี้แจงของนายอริสมันต์ และนางระพิพรรณ ขัดแย้งกับข้อมูลที่ปรากฎไว้ในเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแห่งนี้ ที่มีการยื่นให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้รับทราบอย่างเป็นทางการ ในช่วงการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา ไว้อย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการนำเงินจำนวนกว่า 25 ล้านบาท มาชำระค่าหุ้นให้บริษัท ซึ่งเอกสารหลายชิ้นยืนยันว่ามีการจ่ายเงินเกิดขึ้นแล้ว?