- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- อธิการฯรู้ใช้วิธียืมเงิน-เซ็นอนุมัติให้!เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่ทัวร์ยุโรป(3)
อธิการฯรู้ใช้วิธียืมเงิน-เซ็นอนุมัติให้!เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่ทัวร์ยุโรป(3)
เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่ทัวร์ยุโรป(3) สตง.ชี้ชัดวิธีการยืมเงินมหาวิทยาลัยโอนเข้าบัญชีบ.ทัวร์ ขัดระเบียบชัด เผยอธิการฯ รับทราบเซ็นอนุมัติให้ -พบชื่อผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2 ราย
ในตอนที่แล้ว สาธารณชน คงได้รับทราบข้อมูลกันไปแล้วว่า การจัดโครงการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศของ กรรมการสภามหาวิทยาลัย และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ที่ จีน เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส 4 ประเทศ ในช่วงวันที่ 17-29 มี.ค. 2557 รวมระยะเวลา 13 วัน ซึ่งถูกคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ลงมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงแก่ อธิการบดี และรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ พร้อมให้รับผิดทางละเมิดคืนเงินจำนวน 6,040,487.13 บาท
ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบว่า ผู้รับผิดชอบโครงการได้ใช้วิธีการยืมเงินของมหาวิทยาลัย เพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการเดินทางไปศึกษาดูงาน และเมื่อได้รับอนุมัติเงินยืมในแต่ละครั้งแล้ว ผู้เกี่ยวข้องจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ ผู้บริหาร หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ และบัญชีของ หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ ในฐานะผู้รับจ้างจัดทัวร์ไปศึกษาดูงานในต่างประเทศต่อ
โดยปรากฎชื่อ นายถนัด บุญชัย รองอธิการบดี นางประไพ ปรีชา นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ปรากฎชื่อเป็นผู้ยืมเงิน โดยได้รับการอนุมัติจาก รศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย อธิการบดี
ซึ่ง สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้เกี่ยวข้องมีเจตนาที่จะจัดจ้าง หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ เพื่อให้เข้ามารับงานจัดทัวร์ครั้งนี้ และหลีกเลี่ยงวิธีการจัดจ้าง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และน่าเชื่อว่ากระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับทางราชการ ส่งผลทำให้เกิดความเสียหายต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
(อ่านประกอบ : เลี่ยงจัดจ้าง-ใช้วิธียืมเงินม.โอนเข้าบัญชีบ.ทัวร์!เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่(2))
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลในรายงานผลการตรวจสอบของ สตง.พบว่า มีการระบุถึงผลการพิจารณาเกี่ยวกับการยืมเงินและส่งใช้คืนเงินยืมค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไปศึกษาดูงานครั้งนี้ในประเด็นข้อกฎหมาย และรายชื่อผู้เกี่ยวข้องที่สตง.เสนอให้ถูกดำเนินการทางวินัยไว้ด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
สตง.ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าการยืมเงินในครั้งที่ 1 กรณีของ นายถนัด บุญชัย เพื่อเป็นค่ามัดจำเดินทางไปราชการ (เดินทางไปดูงานต่างประเทศ) จำนวน 420,000 บาท และกรณีของนางประไพ ปรีชา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ จำนวน 200,000 บาท นั้น ยังมิได้มีการส่งใช้คืนเงินยืมแต่อย่างใด ซึ่งหากบุคคลทั้ง 2 จะขอยืมเงินในครั้งใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ต้องไม่อนุมัติให้มีการยืมเงินตามระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ว่าด้วยการรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการเบิกจ่ายเงินรายได้ พ.ศ.2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 70 ที่กำหนดห้ามมิให้อนุมัติให้ยืมเงินรายใหม่ ในเมื่อผู้ยืมมิได้ชำระคืนเงินยืมรายเก่า ให้เสร็จสิ้นไปก่อน
ต่อมาพบว่า บุคคลทั้งสอง ได้ขอยืมเงินในครั้งที่ 2 คือ กรณีของนายถนัด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ จำนวนเงิน 3,420,000 บาท และกรณีของนางประไพ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ จำนวน 6,186,300 บาท แต่นางวัฒนา อุตมา นักวิชาการเงินและบัญชี ได้ตรวจสอบแล้วไม่มีหนี้เก่าค้างจ่าย และ รศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ได้เป็นผู้อนุมัติให้บุคคลทั้งสอง ยืมเงินจำนวนดังกล่าว ทั้งที่ นายถนัด และนางประไพ ยังมิได้ส่งใช้คืนเงินยืมครั้งที่ 1 เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการอนุมัติให้ยืมเงินรายใหม่ในเมื่อผู้ยืมมิได้ชำระคืนเงินยืมรายเก่าให้เสร็จสิ้นไปก่อน ซึ่ง รศ.ดร.ประพันธ์ ได้ยอมรับว่า ตนทราบว่า นายถนัด ได้ยืมเงินตามสัญญายืม จำนวน 420,000 บาท และ 3,420,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการ และทราบว่านางประไพ ได้ยืมเงินตามสัญญายืม จำนวน 6,186,300 บาท เพื่อนำไปหักล้างเงินยืมของ นายถนัด และเพื่อนำไปจ่ายให้แก่ หจก.หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่
สตง.ยังระบุด้วยว่า ถึงแม้ว่านางวัฒนา อุตมา นักวิชาการเงินและบัญชี ได้ยอมรับว่าการปฏิบัติดังกล่าว อาจจะไม่เป็นไปตามระเบียบ แต่กลับอ้างว่าเพื่อต้องการให้บุคคลทั้งสอง ไม่เป็นลูกหนี้เก่าค้างชำระ (ลูกหนี้ซ้อน) และสามารถยืมเงินในครั้งใหม่ได้ ก็ไม่อาจรับฟังได้ว่าการยืมเงินและการส่งใช้คืนเงินยืมไม่ต้องมีการปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ส่วนนางสาวชมพูนุช เธียรสุภรพงษ์ ผู้อำนวยการกองคลัง (ในขณะนั้น) ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบสัญญาการยืมเงินโดยตรง แต่จะมีหน้าที่ลงนามในเช็คจ่ายเงินยืม ตามที่ได้รับอนุมัติ จึงน่าเชื่อว่า นางวัฒนา และรศ.ดร.ประพันธ์ ได้รับทราบแล้วว่า การปฏิบัติดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบ
นอกจากนี้ ยังพบว่า มหาวิทยาลัย ได้ออกเช็คจำนวนเงิน 420,000 บาท ระบุว่าจ่าย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ สำหรับการยืมเงินในครั้งที่ 2 ของนายถนัด และมีการนำเช็คฉบับดังกล่าว มาส่งใช้คืนเงินยืมในครั้งที่ 1 ของนายถนัด จำนวนเงิน 420,000 บาท และกรณีมหาวิทยาลัย ได้ออกเช็คจำนวน 3,620,000 บาท ระบุว่าจ่าย มรภ.เชียงใหม่ ตามสัญญายืมในครั้งที่ 2 ของ นางประไพ และมีการนำเช็คฉบับดังกล่ามาส่งใช้คืนเงินยืมในครั้งที่ 2 ของนายถนัด จำนวน 3,420,000 บาท และในครั้งที่ 2 ของนางประไพ จำนวน 200,000 บาท เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการนำเช็คเงินยืมที่ออกโดย มรภ.เชียงใหม่ดังกล่าว มาส่งใช้คืนเงินยืมของบุคคลทั้งสอง ไม่ถือว่าเป็นการที่ผู้ยืมส่งหลักฐานการจ่ายเพื่อประกอบการส่งใช้คืนเงินยืม
เบื้องต้น สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่า รศ.ดร.ประพัน์ นายถนัด นางประไพ ในฐานะผู้อนุมัติเงินยืมแลผู้ยืม กรณีส่งใช้คืนเงินยืมโดยไม่มีหลักฐานการจ่าย และการยืมเงินครั้งใหม่ เพื่อส่งใช้เงินยืมครั้งก่อน และนางวัฒนา อุตมา ในฐานผู้ตรวจสอบว่าไม่มีเงินยืมคงค้าง ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ มรภ.เชียงใหม่ ว่าด้วยการรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการเบิกจ่ายเงินรายได้ พ.ศ.2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 66 วรรคแรก ประกอบระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 ข้อ 60
นอกจากนี้ จากพฤติการณ์การยืมเงินและส่งใช้คืนเงินยืมที่ไม่ปฎิบัติตามระเบียบดังกล่าวนั้น น่าเชื่อว่า รศ.ดร.ประพันธ์ นายถนัด และนาวประไพ มีเจตนาร่วมกันที่จะนำเงินรายได้ของ มรภ.เชียงใหม่ตามโครงการไปให้ หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ โดยไม่มีกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการที่เกี่ยวข้องรองรับให้กระทำได้ และมีเจตนาฝ่าฝืนระเบียบที่บังคับใช้โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัย
จึงเห็นสมควรเสนอให้ดำเนินการทางวินัยต่อ รศ.ดร.ประพันธ์ นายถนัด นางประไพ และนางวัฒนา และนางสาวชมพูนุช ด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม คตง. มีมติเห็นว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ของ กรรมการสภามหาวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ในส่วนของประเทศจีน เป็นการศึกษาดูงานที่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบ แต่ในส่วนการเดินทางไปศึกษาดูงานที่เยอรมนี สวิตเชอร์แลนด์ และฝรั่งเศส จำนวน 9 วัน เนื่องจากไม่ได้มีการศึกษาดูงานการบริหารและการจัดการศึกษาตามที่ระบุไว้โครงการศึกษาดูงานที่มีการของบประมาณแผ่นดินไว้ เป็นเพียงการเยี่ยมชม และท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญเท่านั้น
ขณะที่อธิการบดี ซึ่งเป็นผู้อนุมัติโครงการและรองอธิการบดีซึ่งเป็นผู้ขออนุมัติโครงการและร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งสองคน จึงมีความผิดวินัยอย่างร้ายแรงและต้องรับผิดทางละเมิดคืนเงินแก่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ด้วย
ส่วนชื่อของ นางประไพ นางวัฒนา นางชมพูนุช ยังไม่ปรากฎข้อมูลชัดเจน ว่า ถูกชี้มูลลงโทษความผิดทางวินัย ตามข้อเสนอของ สตง.ด้วยหรือไม่
อ่านประกอบ :
คตง. เชือด 'อธิการฯ-รอง' มรภ.เชียงใหม่ พาผู้บริหารทัวร์ตปท.ปี57 ไม่ชอบด้วยกม.
โชว์กำหนดการทัวร์ตปท. มรภ.เชียงใหม่ ถลุงงบ 6ล. ชนวนเหตุคตง.เชือด'อธิการฯ-รอง'
โชว์ภาพชุดตะลอนยุโรป มรภ.เชียงใหม่! ปูด รรก.อธิการฯ ผู้ติดต่อหาบ.ทัวร์
เปิดตัวหจก.ฯนำมรภ.เชียงใหม่ตะลอนยุโรป ยันทำธุรกิจปกติ-เคยพาทัวร์อียิปต์ปี53
เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่ ทัวร์ถลุงงบ6ล.(1)อธิการฯ รับไม่มีดูงาน ม.ยุโรป
เลี่ยงจัดจ้าง-ใช้วิธียืมเงินม.โอนเข้าบัญชีบ.ทัวร์!เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่(2)