- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- เปิดปมสัญญาตั้งตัวแทนขายปุ๋ยอ.ต.ก.-รัฐเสียหายซื้อสินค้าแพงเกินราคาตลาด?
เปิดปมสัญญาตั้งตัวแทนขายปุ๋ยอ.ต.ก.-รัฐเสียหายซื้อสินค้าแพงเกินราคาตลาด?
เปิดปมปัญหาสัญญาแต่งตั้งตัวแทนขายปุ๋ย อ.ต.ก.ฉาว - สตง.สอบพบทำรัฐเสียหาย สบช่องซื้อสินค้าแพงเกินราคาตลาด? ฟันกำไรส่วนต่างนับล้าน
การจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในพื้นที่ต่างจังหวัด ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย ประจำปีงบประมาณ 2558 ที่ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้รับสิทธิพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้จำหน่ายวัสดุการเกษตรและเครื่องมือเครื่องใช้การเกษตรกร กำลังถูกจับมองเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินงาน เมื่อถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตรวจสอบพบว่า การดำเนินงานไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการได้รับสิทธิพิเศษตามมติครม.
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของ สตง.พบว่า อ.ต.ก. ได้รับสิทธิพิเศษตามมติ ครม. ในการจำหน่ายวัสดุการเกษตรและเครื่องมือเครื่องใช้ในการเกษตรแก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นหน่วยงานอื่น ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานอื่นของรัฐโดยวิธีพิเศษ เพื่อให้ทางราชการได้ของดีมีคุณภาพและราคาไม่สูงเกินไป ตามสัญญาแต่งตั้งตัวแทนค้าต่างกำหนดให้ตัวการเป็นผู้ประกอบการค้า ขายวัสดุการเกษตร ปัจจัยการผลิตและอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้การเกษตร และไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการสิ้นสุดสัญญาการเป็นตัวแทนค้าต่าง มีเพียงถ้าตัวการประสงค์จะเลิกสัญญาจะต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
โดยที่ตัวการเป็นผู้กำหนดราคาสินค้าต่างๆ เอง และ อ.ต.ก. จะขายสินค้าต่ำกว่าที่ตัวการกำหนดไม่ได้ ตามสัญญาดังกล่าวไม่ได้กำหนดให้เป็นตัวการเป็นผู้ผลิตสินค้าทำให้ตัวการสามารถจัดหาสินค้าจากแหล่งอื่นใดมาเพื่อขายให้กับหน่วยงานราชการก็ได้ ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานราชการต้องซื้อในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น
ทั้งนี้ อ.ต.ก.ทำสัญญาจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ให้กับจังหวัดกาฬสินธุ์ ในราคากิโลกรัมละ 9.90 บาท ได้มอบหมายให้บริษัท อ. (ตัวย่อ) ที่ทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนค้าต่างกับ อ.ต.ก. ดำเนินการในการจัดหาปุ๋ยอินทรีย์ ได้จัดหาปุ๋ยอินทร์ยี่ห้อที่ผลิตโดย หจก. ค.(ชื่อย่อ) จำนวน 570,000 กิโลกรัม (11,400 กระสอบ ๆ ละ 50 กิโลกรัม) มูลค่ารวม 5,643,000 บาท ซึ่งปุ๋ยดังกล่าว ผู้ผลิตได้ผลิตจำหน่ายในราคากระสอบละ 275 บาท (กระสอบละ 50 กิโลกรัมๆ ละ 5.50 บาท)
กรณีดังกล่าว ถ้า อ.ต.ก. สั่งซื้อโดยตรงจาก หจก. ค. จำนวน 11,400 กระสอบ ราคากระสอบละ 275 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 3,135,000 บาท สามารถประหยัดงบประมาณของทางราชการไปได้ ประมาณ 2,508,000 บาท (5,643,000 -3,135,000 )
ขณะที่ในการจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ในครั้งนี้ อ.ต.ก. ได้รับค่าตอบแทนร้อยละ 3 ของยอดขาย 5,643,000 บาท คิดเป็นเงินเพียง 169,290 บาท โดย บริษัท อ. คู่สัญญาค้าต่าง จะได้รับกำไรไม่ต่ำกว่า 2,338,710 บาท (2,508,000-169,290 )
เบื้องต้น สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ อ.ต.ก.ทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนค้าต่าง โดยที่ให้คู่สัญญาเป็นผู้กำหนดราคาขาย และ หาก อ.ต.ก. ขายในราคาที่ต่ำกว่าที่คู่สัญญากำหนด อ.ต.ก. จะต้องชดใช้ส่วนต่ำกว่า โดยที่ อ.ต.ก. ไม่ได้เปรียบเทียบราคาที่คู่สัญญากำหนดกับราคาตามท้องตลาด ส่งผลทำให้ส่วนราชการต้องจัดซื้อในราคาที่แพงกว่าราคาท้องตลาด โดยไม่เกิดผลประโยชน์แก่ราชการ
จึงเห็นสมควรให้ อ.ต.ก.พิจารณาทบทวนรายละเอียดของสัญญาแต่งตั้งตัวแทนค้าต่าง ดังกล่าว เพื่อให้หน่วยราชการหรือผู้ซื้อที่ซื้อสินค้าจากตัวการตามสัญญาแต่งตั้งตัวแทนค้าต่าง ของ อ.ต.ก. ในราคาที่เป็นธรรมเหมาะสมกับราคาขายตามท้อตลาดที่แท้จริง และเป็นการรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ
สำหรับข้อมูลเอกชนที่เข้ามาทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนค้าต่าง ของ อ.ต.ก. เป็นใครมาจากไหนนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป