- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- เปลือยหมดเปลือก!พฤติการณ์-ผู้เกี่ยวข้องปมทุจริตขุดคลอง ฉบับกลุ่มธรรมาภิบาล
เปลือยหมดเปลือก!พฤติการณ์-ผู้เกี่ยวข้องปมทุจริตขุดคลอง ฉบับกลุ่มธรรมาภิบาล
"...คุณนาย อ. ได้มีโอกาสเข้าไปเชื่อมสัมพันธ์กับกลุ่มทหารใน คสช. ที่มีอำนาจ ทั้ง อดีตบิ๊ก อผศ. และ ผู้บริหารใน อผศ. เพื่อประสานงานในโครงการขุดลอกแหล่งน้ำในสำนักงานกิจการการเกษตร อุตสาหกรรมและการบริการ ของ อผศ. ให้ดำเนินการเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการประสานงานกันแบบ 3 ประสานหลัก..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นคำแถลงข่าวฉบับเต็มของ กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชัน กรณีการตรวจสอบปัญหาทุจริตโครงการขุดลอกคูคลองขององค์การสงเคราะห์ฺทหารผ่านศึก (อผศ.) เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2559
----------------------
ถึง พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่าน
จากกรณีที่ กลุ่มธรรมาภิบาล ได้ยื่นหนังสือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ผู้ว่าฯสตง. และ รัฐมนตรีว่ากระกระทรวงการคลัง ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ตามลำดับมา เพื่อให้ตรวจสอบกลุ่มผลประโยชน์ที่แอบอ้างชื่อ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ไปหาประโยชน์และขายช่วงงานต่อ ในงานขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ ที่ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก หรือ อผศ. ไปรับจ้างทำงานให้กับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. โดย อผศ. ได้รับสิทธิพิเศษโดยไม่บังคับ และ ไม่ต้องประกวดราคา ตามมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ กระทรวงการคลัง และ คสช.ได้ลงมติรับทราบ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 หลังจากรัฐประหาร 2 เดือน ซึ่งเป็นงบประมาณแผ่นดินปี 2557-2558 เป็นเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ที่ กระทรวงมหาดไทย โดย ปภ. นำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยให้พี่น้องประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นที่มาของ โครงการขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศที่ อผศ. ได้สิทธิพิเศษเพื่อไปรับจ้างงานขุดลอกแหล่งน้ำให้กับ ปภ. ซึ่งก่อให้เกิดการทุจริต มีคนไปเรียกรับผลประโยชน์ เป็นขบวนการใหญ่ทั่วประเทศ และ ได้แอบอ้าง คสช. และ แอบอ้างผู้ใหญ่ เพื่อไปขายงานขุดลอกต่อกันเป็นทอดๆ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐบาล สูญเสียเงินแผ่นดิน และ เกิดผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างใหญ่หลวง
ซึ่งบัดนี้ ปรากฏว่า เรื่องดังกล่าวได้กลายเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชนกันอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เพราะเมื่อคืนวันที่ 25 มีนาคม 2559 ในรายการ “ คืนความสุข ให้คนในชาติ” นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการช่วงหนึ่งว่า “อีกเรื่องที่ให้ความสำคัญสูงสุด คือเรื่องของการทุจริต ได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีทุกคนแล้ว จะดำเนินการอย่างจริงจังในกรณีที่มีการแอบอ้าง ว่ายังมีการทุจริตในเชิงโครงสร้างนโยบายอยู่ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะยืนยันมาโดยตลอดไม่มีเจตนาทุจริต ไม่เคยต้องการผลประโยชน์...ถ้าเรื่องใดชัดเจนก็ส่งให้หน่วยงานตรวจสอบทุจริตดำเนินการตามกฎหมาย ดังนั้นหากมีหน่วยงานราชการ หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งเอาสิ่งที่รัฐบาล คสช. กำลังทำวันนี้ไปแอบอ้างว่าได้สิทธิมาจาก คสช. ได้จากนายกฯ ได้จากรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้คุยกันแล้วว่าหากพบกลุ่มใดนำไปกล่าวอ้าง ขอให้คนที่พบเห็นส่งเอกสารมา จะตรวจสอบให้ทันที หากมีผลประโยชน์ทับซ้อนจริงจะไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น ไม่ต้องการให้คนเลวอยู่ในสังคม ต้องสร้างน้ำดีไล่น้ำเสียออกไป ข้าราชการทุกกระทรวงต้องร่วมมือกัน”
จากเรื่องดังกล่าว กลุ่มธรรมาภิบาล ได้ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงและหลักฐาน พบว่า มีขบวนการที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเงินแผ่นดินเป็นขบวนการใหญ่ มีการแอบอ้าง คสช. และ ผู้ใหญ่ไปเรียกรับผลประโยชน์ มีการกระทำทุจริต มีการกระทำที่เข้าข่ายจะเป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ หรือ ปฎิบัติหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยแยกเป็นกลุ่มได้ ดังนี้
กลุ่มบิ๊ก ปภ.และ อดีตบิ๊ก อผศ. - หลังรัฐประหาร ปี 2557 บิ๊ก ปภ. และ อดีตบิ๊กอผศ. ได้ประสานงานและตกลงกันเป็นการภายในเพื่อนำงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเรียกว่า “งบภัยแล้ง” ที่ ปภ. เป็นผู้ดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับการขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ(ในโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยให้ประชาชน) มาให้ อผศ. โดยอาศัยช่องทางที่ อผศ.สามารถขอสิทธิพิเศษฯโดยไม่ต้องประกวดราคา โดยอ้างว่าเป็นการหารายได้เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ทหารผ่านศึกทั่วประเทศจำนวนกว่า 2 ล้านคน ที่มีงบประมาณดูแลช่วยเหลือไม่เพียงพอ จากที่เคยได้รับการจัดสรรงบประมาณให้ ในรัฐบาลที่ผ่านมา
และ บิ๊ก ปภ. ก็ได้พิจารณาเห็นชอบโครงการขุดลอกทั้งหมดทั่วประเทศ เพื่อให้ อผศ. เป็นผู้รับจ้างดำเนินการขุดลอก โดย ได้ฝากฝังกลุ่มผู้รับเหมาที่เคยร่วมงานขุดลอกกับบิ๊ก ปภ. มาแต่เดิม นั้นคือ ผู้รับเหมากลุ่มคุณนาย อ. เพื่อให้ไปรับงานขุดลอกดังกล่าวต่อจาก อผศ. อีกทอด
ซึ่งจุดนี้เป็นที่มาที่ไปที่ คุณนาย อ. ได้มีโอกาสเข้าไปเชื่อมสัมพันธ์กับกลุ่มทหารใน คสช. ที่มีอำนาจ ทั้ง อดีตบิ๊ก อผศ. และ ผู้บริหารใน อผศ. เพื่อประสานงานในโครงการขุดลอกแหล่งน้ำในสำนักงานกิจการการเกษตร อุตสาหกรรมและการบริการ ของ อผศ. ให้ดำเนินการเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการประสานงานกันแบบ 3 ประสานหลัก คือ
หลักที่ 1 “บิ๊กปภ.” เป็นเจ้าของงบประมาณ และ เจ้าของโครงการขุดลอก มีหน้าที่ประสานงานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทั้ง 18 เขตทั่วประเทศ ให้ส่งรายละเอียดโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณค้างอยู่เดิม มาพิจารณางบประมาณให้และเห็นชอบให้จัดจ้าง อผศ. เป็นรายโครงการทุกโครงการ โดยอ้างว่า เป็นการดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และ สอดคล้องกับแนวทางของ คสช. ในการแก้ปัญหาน้ำได้อย่างรวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ
หลักที่ 2 “ อดีต บิ๊ก อผศ.” เป็นผู้นำเสนอโครงการขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศจาก ปภ. เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ กระทรวงการคลัง เห็นชอบ และ เสนอต่อ หัวหน้า คสช.เพื่อทราบตามลำดับ ซึ่งคณะกรรมพิจารณาสิทธิพิเศษฯ ก็ได้เห็นชอบให้สิทธิพิเศษทุกโครงการตามที่ อดีตบิ๊ก อผศ.นำเสนอ ซึ่งสิทธิพิเศษนี้ เป็นสิทธิพิเศษที่ไม่บังคับ โดยหลักปฏิบัติแต่เดิมมาในรัฐบาลก่อนๆจะพิจารณาตามความเหมาะสม และ คำนึงถึงขีดความสามารถและความพร้อมที่แท้จริงของผู้ขอสิทธิพิเศษ ว่าสามารถดำเนินการได้เองจริงหรือไม่อย่างไร เช่น ขอสิทธิพิเศษ 100 โครงการ อาจพิจารณาให้ 30 โครงการตามเหมาะสมและความเป็นจริงที่ดำเนินการเองได้ ภายใต้เงื่อนไขของคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯนั้นๆ
แต่ในรัฐบาลนี้ อผศ. กลับได้รับการพิจารณาสิทธิพิเศษฯในงานขุดลอกแหล่งน้ำจาก ปภ. แบบ 100 เปอร์เซ็น ในวงเงินงบประมาณรวมกว่า 10,000 ล้านบาท (งบประมาณ ปี 2557- 2558) ทั้งที่ อผศ.เองก็มีเครื่องมือเครื่องมือเครื่องจักรที่ไม่พอเพียงที่จะสามารถทำงานด้วยจำนวนงบประมาณขนาดนี้ ซึ่งเป็นนัยยะสำคัญของการนำไปสู่การให้มีการทำบันทึกเช่าเครื่องมือ เครื่องจักร ระหว่าง อผศ.กับเอกชน เพื่อให้เข้ามารับงานต่อจาก อผศ.โดยเป็นที่มาของการที่บิ๊ก ปภ.ได้ฝากฝัง คุณนาย อ.ให้เข้าเป็นผู้ประสานงานเพื่อจัดหาผู้รับเหมาให้ อผศ. และ เป็นผู้ประสานงานตรงกลางระหว่างบิ๊ก ปภ.กับ อดีต บิ๊ก อผศ.และกลุ่มผู้รับเหมาในเครือข่ายคุณนาย อ. ทั้งหมด ที่นำมารับงานขุดลอกต่อกับ อผศ.
หลักที่ 3 “ คุณนาย อ.” เป็นผู้ประสานงานที่รับภาระกิจจาก หลักที่ 1 หลักที่ 2 ไปจัดหาผู้รับเหมาในเครือข่าย เพื่อมารับงานขุดลอกแหล่งน้ำทั้งหมดต่อจาก อผศ. ไปดำเนินการ โดยนำผู้รับเหมามาทำบันทึกข้อตกลงเช่าเครื่องมือเครื่องจักรกับ อผศ.และนำงานขุดลอกดังกล่าวไปดำเนินการแทน อผศ. ซึ่งการทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจะทำเป็นสัญญาเช่ากันระหว่าง อผศ.กับ เจ้าของเครื่องจักร ในราคาค่าเช่าที่ 90 % ของราคางานจริงที่ได้รับจ้างมาจาก ปภ.นั้นคือ อผศ.จะมีรายรับเข้าหน่วยงานเพียง 10% เท่านั้น
การดำเนินการดังกล่าวโดย บิ๊ก ปภ. อดีตบิ๊ก อผศ. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในกรณีที่ จงใจ และ/หรือ ปล่อยปะละเลย และ/หรือ เปิดช่องโหว่ให้มีการไปเรียกรับผลประโยชน์ และ/หรือ รู้ว่า อผศ. มีขีดความสามารถและมีเครื่องมือเครื่องจักรไม่เพียงพอต่อการทำงาน แต่ยังทำความเห็นชอบและเสนอต่อ คสช.ว่ามีความพร้อม ขัดกับข้อเท็จจริงที่นำงานไปให้เอกชนดำเนินการแทน ซึ่งเป็นการผิดเงื่อนไขอย่างชัดเจน และ/หรือ ส่อเจตนาที่จะให้คนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นการดำเนินการภายใต้ คสช.หรือไม่
กลุ่มคุณนาย อ. และเครือข่าย สจ.ผู้มีอิทธิพล - หลังจากคุณนาย อ.ได้รับการฝากฝังจาก บิ๊ก ปภ.กับ อดีตบิ๊ก อผศ.แล้ว คุณนาย อ. ได้ประสานงานโดยตรงกับ ผอ.วันชัย ใน อผศ. ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ในการลงนามในสัญญาต่างๆแทน ผอ.อผศ. เพื่อเตรียมการนำรายการงานขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศที่ อผศ. ได้ทำสัญญารับจ้างเป็นผู้ขุดลอกกับ ปภ. เพื่อนำไปให้ผู้รับเหมาในเครือข่ายของตนเองจัดหาผู้มาทำบันทึกข้อตกลงเช่าเครื่องมือเครื่องจักร กับ อผศ.
โดยในจำนวนเครือข่ายคุณนาย อ. ที่เป็นตัวหลักคือ กลุ่ม สจ.จังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มเจ๊ น. จังหวัดกาฬสินธุ์ กลุ่มเจ๊ ร. จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นตัวหลักในการนำบริษัทหรือห้างต่างๆเข้ามาทำบันทึกข้อตกลงการเช่าเครื่องมือเครื่องจักร กับ ตัวแทนผอ.อผศ. ซึ่งมีประมาณ 20-30 บริษัททั่วประเทศ
หลักจากนั้นกลุ่มคุณนาย อ. และเครือข่ายทั้งหมด ก็ได้นำงานขุดลอก ที่ทำบันทึกเช่าเครื่องมือเครื่องจักร กับ อผศ. ไปดำเนินการ ซึ่งมีส่วนน้อยที่ทำการขุดลอกเอง เพราะแต่ละบริษัทก็ได้รับงานจาก อผศ. มาเป็นจำนวนหลายโครงการและไม่สามารถทำเองได้ทัน ซึ่งจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดขบวนการนำงานไปปล่อยต่อเป็นทอดๆ แบ่งสายกันไปหาผู้มารับงานต่อกันทั่วประเทศ ซึ่งในกรณีนี้คุณนาย อ. ก็ได้แจ้งให้เครือข่ายผู้รับเหมาที่นำงานไปขายช่วงต่อว่า เป็นงานที่ผู้ใหญ่ใน คสช. ให้มาดำเนินการ มีการแอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ คสช. กันตามลำดับเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในการนำงานไปกระจายทั่วประเทศ
ซึ่งในหลายๆครั้งที่ไปสำรวจดูหน้างานที่จะดำเนินการขุดลอก คุณนาย อ.และเครือข่าย จะมีทหารติดตามไปด้วยเสมอ และบางครั้งก็มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นทหาร นำงานไปกระจายต่อเป็นทอดๆ ในหลายพื้นที่ด้วย ซึ่งในกรณีดังกล่าวผู้รับเหมาทั่วประเทศจึงรับทราบกันทั่วว่าเป็นงานของ อผศ. และ คสช. โดยการประสานงานจากคุณนาย อ. ที่นำงานไปขายช่วงต่อเหลือเพียงแค่ 20-40 % จากราคาเต็มเพื่อให้ผู้รับเหมารายย่อยเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกแทน โดยเครือข่ายคุณนาย อ. บางราย ก็ไปเรียกเก็บเงินค่าจองงานกับผู้รับเหมารายย่อยก่อน 10-15 % จึงจะนำงานไปให้ดำเนินการ โดยงานส่วนใหญ่จะไม่มีการทำสัญญากันไว้แต่อย่างใด เป็นการทำงานโดยเชื่อถือกันและเชื่อว่าเป็นงานของ อผศ.และ คสช.จริง
การทำบันทึกข้อตกลงเช่าเครื่องมือเครื่องจักร ระหว่าง อผศ. โดย ผอ.วันชัย กับ บริษัท ที่คุณนาย อ. จัดหามานั้น ถือว่าเป็นการทำเอกสารเพื่อหลบเลี่ยงเงื่อนไขของคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ มีลักษณะคล้าย นิติกรรมอัมพราง เนื้อหาแท้จริงเป็นสัญญาจ้างทำของ ซึ่งถือว่าเป็นการทำสัญญาที่ผิดเงื่อนไขอย่างชัดเจน เป็นสัญญาที่มีเนื้อหาที่เอื้อให้มีการนำงานขุดลอกทั้งหมดไปขายช่วงต่อ เป็นสัญญาที่มีเจตนาจะให้เกิดการนำไปเรียกรับหรือได้ผลประโยชน์ส่วนต่างจากการนำงานไปปล่อยช่วงต่อถือว่าข้าราชการที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ทั้งหมดของ อผศ. ได้กระทำผิด ฐานกระทำทุจริตต่อหน้าที่ ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 อย่างแจ้งชัด
ขณะนี้ ผู้รับเหมารายย่อย ที่ได้รับความเดือดร้อน จากการเป็นผู้รับงานหรือซื้องานจากกลุ่มเครือข่ายคุณนาย อ. และทำงานแทน อผศ. ที่ทำงานเสร็จและส่งมอบงานขุดลอกให้กับ อผศ.แล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าทำงานมีเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เช่น ผู้รับเหมาในจังหวัดกาฬสินธุ์ นครพนม ยโสธร อุบลราชธานี กำลังรวมตัวกันเตรียมนำหลักฐานต่างๆให้กลุ่มธรรมาภิบาล และ จะร่วมกันยื่นหนังสือถึง พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล ผอ.อผศ.คนปัจจุบัน เพื่อขอความเป็นธรรมและเยียวยาค่าจ้างทำงานขุดลอกแทน อผศ. เนื่องจากถูกนายหน้าและกลุ่มผู้นำงานมาขายช่วงจากเครือข่ายคุณนาย อ. ไม่จ่ายค่าทำงาน
และ จะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน ศอตช. เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดต่อขบวนการทุจริตในโครงการขุดลอกแหล่งน้ำของ อผศ.กับ ปภ. และ ผู้แอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งแอบอ้างโดยการเชื่อมโยง คสช. เพื่อหาประโยชน์ในเชิงนโยบาย สูญเสียงบประมาณแผ่นดินกว่า 5,000 ล้านบาท อาศัยเหตุความจำเป็น ของเหล่าทหารผ่านศึกผู้กล้า ที่ได้ปกปักรักษาประเทศชาติ ว่ามีงบประมาณไม่พอเพียง ที่จะจัดให้เป็นสวัสดิการ ให้แก่ทหารผ่านศึกและครอบครัว ซึ่งอาศัยเงื่อนไขเหล่านี้ หาประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง เป็นการกระทำที่เป็นการบ่อนทำลายชาติ ในห้วงที่บ้านเมืองต้องต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยจะยื่นหนังสือดังกล่าวต่อทั้ง 2 ท่าน ในต้นเดือนเมษายน 2559 ต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
กลุ่มธรรมาภิบาล
29 มีนาคม 2559