ข้อมูลใหม่“รัฐนิธ”ตัวละครซื้อข้าวจีทูจี ที่แท้ลูกชายอดีตคน อ.ต.ก.
ข้อมูลใหม่“รัฐนิธ”คนซื้อข้าวจีทูจี ที่แท้ลูกชายอดีตคน อ.ต.ก. ถูกสั่งพักงาน – ตั้งกก.สอบกรณีข้าวยุคบริษัทเพรสซิเดนท์ -สมศักดิ์ เทพสุทิน นั่งเก้าอี้ รมว.เกษตรฯ ฟันเองกับมือ -คนในบ้านอ้างบินไปสิงคโปร์ เมื่อ 2-3 วัน ก่อน
ในบรรดาผู้ถูกกล่าวหาฝ่ายเอกชน ในคดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อมูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขณะนี้
"นายรัฐนิธ โสจิระกุล" หรือ ชื่อเล่น ว่า “ปาล์ม” เป็นหนี่งในจิ๊กซอว์สำคัญ
เนื่องจากปรากฎหลักฐานว่า เป็น“ผู้มีอำนาจ” บริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ
ขณะที่ “รัฐนิธ โสจิระกุล” ถูกตรวจสอบพบว่าเพิ่งผ่านการเรียนหลักสูตรวุฒิบัตรผู้ช่วยและผู้ปฏิบัติงานของสมาชิกรัฐสภารุ่นที่ 6 รวมทั้งเป็นนักศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า และเป็นผู้ช่วยส.ส.ในลำดับที่ 3 ของนางรพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (ภรรยานายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง)
ก่อนที่นาย “รัฐนิธ โสจิระกุล” จะมอบอำนาจให้ นายนิมล รักดี ชาว อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เข้ามาดำเนินการแทน
โดยที่ “นายนิมล” มีชื่อในวงการว่า “เสี่ยโจว” เป็นมือขวา“เสี่ยเปี๋ยง” หรือ อภิชาติ จันทร์สกุลพร เจ้าของบริษัทเพรสซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ผูกขาดการซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ล่าสุดทางคณะอนุฯ ไต่สวนในคดีนี้ของป.ป.ช. ได้ส่งหนังสือแจ้งให้นายรัฐนิธ โสจิระกุล เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา
แต่ปรากฎว่า นายรัฐนิธ ไม่ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
(อ่านประกอบ:"บุญทรง-ภูมิ-มนัส-รัฐนิธ"เบี้ยวรับทราบข้อกล่าวหาคดีระบายข้าว"จีทูจี")
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลที่อยู่ของ นายรัฐนิธ ตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ที่คณะอนุฯไต่สวนนำมาใช้เป็นข้อมูลในการจัดส่งหนังสือให้นายรัฐนิธ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว
ระบุว่าพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 52 ซอยปานทิพย์ 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จังหวัดกรุงเทพฯ
จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังนี้ ปรากฏชื่อ "นายนิพนธ์ โสจิระกุล" เป็นผู้ครอบครอง
ทั้งนี้ นายนิพนธ์ โสจิระกุล เคยปรากฏชื่อเป็น 1 ใน 4 พนักงานองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ที่ถูกระบุชื่อเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี พ.ศ.2546/47 และถูกคำสั่งให้พักราชการ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย โดยมีนายศุภชัย บานพับทอง ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน
และรับรองคำสั่งโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ
หลังจากการตรวจสอบของกระทรวงเกษตรฯร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปราม พบว่ามีการนำข้าวเก่าในโครงการรับจำนำข้าวปี 2544/45-ปี 2545/46 และปี 2546 มาเวียนเทียนส่งมอบเป็นข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2546/47 ในคลังสินค้า หจก.ดีลัคกี้ ของนายอภิสุทธิ์ ถาวรแท้ อ.โกรกพระ จ.นคร สวรรค์, คลังสินค้าบริษัทสยามกสิกิจไรซ์มิล กับคลังสินค้าบริษัทพิจิตรโรงสีร่วมเจริญ 2 ไรซ์ อ.บางมูล นาก จ.พิจิตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในรายงานการสอบสวนหัวหน้าคลังสินค้าดีลัคกี้ ที่ อ.โกรกพระ นายวิโรจน์ รวงผึ้งทอง ได้ระบุเป็นผลงานของบริษัทเพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง และเมื่อสอบสวนเพิ่มเติม พบว่าบริษัทเพรซิเดนท์อะกริฯ เป็นบริษัทผู้ส่งออกข้าวที่เข้ามาซื้อข้าวราคาถูกจากกระทรวงพาณิชย์เพื่อส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ปรากฏอยู่ในรายงานการตรวจสอบคลังสินค้าของ อ.ต.ก.ส่งถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้อย่างชัดเจน
ในขณะที่บริษัทสยามกสิกิจไรซ์มิล เจ้าของคลังสินค้าที่รับฝากข้าวสารของ อ.ต.ก.ที่ อ.บางมูลนาก เอง ก็เป็นบริษัทในเครือของบริษัทเพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง และทั้ง 2 คลังสินค้าที่พบการทุจริตเวียนเทียนข้าวเก่ายังใช้บริษัทเซอร์เวเยอร์บริษัทเดียวกัน คือ บริษัทซัลมาน อินสเปคชั่น เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าวด้วย
จากการตรวจสอบข้อมูลนายนิพนธ์ ในเว็บไซต์ อ.ต.ก. ระบุตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายกิจการตลาด ส่วนในช่วงที่ถูกตั้งกรรมกรรสอบ มีตำแหน่งเป็น ผู้จัดการสำนักงานธุรกิจข้าว
แหล่งข่าวในอ.ต.ก. ยืนยันข้อมูลสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า นายนิพนธ์ โสจิระ ได้เกษียณราชการ ไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยังบ้านเลขที่ 52 ซอยปานทิพย์ 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จังหวัดกรุงเทพฯ ซึ่งถูกระบุว่านายนิพนธ์ โสจิระกุล เป็นผู้ครอบครอง ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับบริการ 1133
ได้รับการยืนยันจากคนในบ้านว่า นายนิพนธ์ และนายรัฐนิธ มีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกัน แต่ทั้งสองคนไม่อยู่ที่บ้าน
โดยในส่วนของนายรัฐนิธ ได้รับการยืนยันว่า เดินทางไปทำงานที่สิงคโปร์เมื่อ 2-3 วันก่อน
ส่วนเรื่องการแจ้งหนังสือให้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีระบายข้าวจีทูจี ของ ป.ป.ช.นั้น คนในบ้านระบุว่า "นายรัฐนิธ เคยระบุไว้ว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากใครจะติดต่ออะไรขอให้ไปคุยกับทนายความส่วนตัว"
(ดูเอกสารประกอบ)
