- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- Exclusive :เปิดผลสอบ อ.นิติฯ ม.บูรพา ทุจริตเบิกเงินดูงาน “ลม”- ปลอมทั้งกระบิ
Exclusive :เปิดผลสอบ อ.นิติฯ ม.บูรพา ทุจริตเบิกเงินดูงาน “ลม”- ปลอมทั้งกระบิ
Exclusive : เปิดละเอียดผลสอบ อ.นิติฯ ม.บูรพา ทุจริตเบิกเงินโครงการดูงาน “ลม” พบหลักฐานมัดหลายชิ้น ปลอมทั้งกระบิ “รายละเอียดสถานที่ –รถทัวร์- อาหารว่างเครื่องดื่ม- ลายมือชื่อนิสิต” เจ้าตัวรับสารภาพ ไม่ได้เดินทางไปจริง?
แม้ว่าในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ที่มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นประธาน ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา จะไม่ได้รับคำชี้แจงกรณีข้อร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการดำเนินโครงการศึกษาดูงานของหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาบูรพา ซึ่งถูกระบุว่า มีอาจารย์ประจำภาควิชานิติศาสตร์ เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง
จากปากคำของ ศ.นพ.สมพล พงศ์ไทย อธิการบดี ม.บูรพา และ ผศ.ดร.เอกวิทย์ มณีธร คณบดีคณะรัฐศาสตร์ฯ ม.บูรพา ที่กมธ.ออกหนังสือเชิญให้เข้าชี้แจงข้อมูล
เนื่องจากผู้บริหารม.บูรพา ทั้งสองท่าน ไม่ได้เดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่ใช้วิธีการส่งหนังสือชี้แจงแทน
โดยในส่วนของ ศ.นพ.สมพล อธิการบดี ม.บูรพา ให้เหตุผลว่า อยู่ในช่วงเข้ารับการรักษาอาการป่วยต่อเนื่อง ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ศ.นพ.สมพล จะไม่ได้เดินทางมาชี้แจงข้อมูลด้วยตนเอง แต่ก็ได้แนบเอกสารสรุปข้อเท็จจริงการสอบสวนคดีนี้ของมหาวิทยาลัย ให้คณะกรรมาธิการฯ รับทราบเพื่อประกอบพิจาณาเบื้องต้น ซึ่งนับเป็นการเปิดเผยรายละเอียดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลสรุปการสอบสวนคดีนี้ ของมหาวิทยาลัย อย่างเป็นทางการครั้งแรก
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มนิสิต ม.บูรพา ได้พยายามเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเปิดเผยผลสรุปการสอบสวนคดีนี้ มาตลอด แต่ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลผลสรุปการสอบสวนคดีนี้ ที่ ศ.นพ.สมพล ยื่นให้กับ กมธ. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) รับทราบเบื้องต้น
พบว่า มีจำนวน 4 หน้ากระดาษ ระบุขั้นตอนการดำเนินการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อ น.ส.ณัชชา คุณาทัพพ์ อาจารย์สังกัดภาควิชานิติศาสตร์ ไว้ดังนี้
1. น.ส.ณัชชา คุณาทัพพ์ พนักงานของมหาวิทยาลัยบูรพา ตำแหน่งอาจารย์ สังกัดภาควิชานิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ได้จัดทำและลงนามในหนังสือที่ ศธ. XXXX/- ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2555 เรื่องขออนุมัติโครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่ เสนอต่อคณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ขออนุมัติโครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่ สำหรับนิสิตหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มสาขาวิชากฎหมายมหาชน และกลุ่มสาขาวิชากฎหมายอาญา และอาชญาวิทยา ในวันที่ 25 – 28ตุลาคม 2555 ณ สำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่ และกรมคุมประพฤติ สำนักงานคุมประพฤติ จ.เชียงใหม่
โดยค่าใช้จ่ายในการจัดโครงการเป็นเงิน 199,200 บาท (หนึ่งแสนเก้าหมื่นเก้าพันสองร้อยบาทถ้วน) พร้อมทั้งแนบโครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่และกำหนดการประกอบพิจารณา
โดยนายเฉลิมฤทธิ์ ยศสมศักดิ์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ (คนเก่า) ได้เป็นผู้อนุมัติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555
และต่อมา น.ส.ณัชชา ได้จัดทำและลงนามในหนังสือที่ ศธ. XXXX/- ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 เรื่อง ขออนุมัติเบิกเงินค่าใช้จ่ายโครงการดูงานนอกสถานที่
โดยแจ้งคณบดีว่าโครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่ สำหรับนิสิตหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มสาขากฎหมายมหาชน และกลุ่มสาขาวิชาอาญาและอาชญาวิทยา ในวันที่ 25 – 28 ตุลาคม 2555 ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และขออนุมัติเบิกค่าใช้จ่ายในโครงการ ซึ่งมีรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้
(1) ค่าเช่ารถบัสปรับอากาศ เป็นเงิน 136,000 บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นหกพันบาทถ้วน) จำนวน 4 วัน ๆ ละ 2 คัน เหมาจ่ายคันละ 17,000 บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน) ต่อวัน
(2) ค่าของที่ระลึก 2 ชิ้น ๆ ละ 1,000 บาท เป็นเงิน 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน)
(3) ค่าอาหารรวมเป็นเงิน 61,000 บาท (หกหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)
รวมค่าใช้จ่ายในโครงการเป็นเงินทั้งสิ้น 199,200 บาท (หนึ่งแสนเก้าหมื่นเก้าพันสองร้อยบาทถ้วน) และส่งใช้ใบยืม โดยมี น.ส.คญาพัฒน์ กิตติสารวัณโณ นักวิชาการการเงินและบัญชี ของคณะฯ เป็นผู้ตรวจสอบเอกสารประกอบการเบิกจ่าย และเสนอให้นายเอกวิทย์ มณีธร คณบดีอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินได้เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555
แต่ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังว่า น.ส.ณัชชา ไม่ได้จัดโครงการไปศึกษาดูงานดังกล่าวขึ้นจริง ทางคณะรัฐศาสตร์ฯ จึงได้มีหนังสือที่ ศธ. 6612/2463 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2555 เรื่องการทุจริตและประพฤติมิชอบในโครงการศึกษาดูงานของคณะรัฐศาสตร์ฯ
“โดยคณะฯ รายงานให้อธิการบดีทราบว่า ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นของการทุจริตและประพฤติมิชอบในโครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่ หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ภาคพิเศษ จ.เชียงใหม่ วันที่ 25 – 28 ตุลาคม 2555 โดย น.ส.ณัชชา เป็นผู้ขออนุมัติเบิกค่าใช้จ่ายในโครงการและได้นำใบเสร็จรับเงินอันมิได้เกิดจากการใช้จ่ายจริง และมีการจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จมาประกอบการขออนุมัติเบิกจ่ายเงิน 199,200 บาท อธิการบดี จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง น.ส.ณัชชา ในเรื่องดังกล่าว”
2. คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้รายงานการสอบสวนว่า น.ส.ณัชชา ไม่ได้จัดโครงการไปศึกษาดูงานดังกล่าวขึ้นจริง และเอกสารประกอบการขออนุมัติค่าใช้จ่ายในโครงการมีเอกสารหลายรายการเป็นเอกสารปลอม ได้แก่
(1) หนังสือที่ ศธ. XXX/- ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2555 อนุเคราะห์ให้เข้าศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยายพิเศษ มีลายมือชื่อ นายพูลศักดิ์ ศรีเจริญ เป็นผู้ลงนาม พร้อมกำหนดการศึกษาดูงานและการบรรยายพิเศษ ในวันพุธที่ 26 ตุลาคม 2555 จำนวน 2 แผ่น เพราะสำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่ มีหนังสือที่ อส. XXXX(XX)/XXXXX ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2555 เรื่องศึกษาดูงานและการบรรยายพิเศษ “สำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่” ว่า สำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่ ไม่เคยได้รับหนังสือเข้าศึกษาดูงาน ไม่เคยพาคณะรัฐศาสตร์ฯ เข้าดูงาน และไม่เคยมีหนังสือสำนักงานอัยการ จ.เชียงใหม่ ที่ คป. 0001/- ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2555 เรื่อง อนุเคราะห์ให้เข้าศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยายพิเศษ
รวมทั้งลายมือชื่อที่ลงนามในเอกสารดังกล่าวก็มิใช่ลายมือชื่อของอัยการจังหวัด
(2) ใบเสร็จรับเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัด อาภิสรา การท่องเที่ยว ระบุรายการ รถรับ – ส่ง รถบัสปรับอากาศ จำนวน 4 วัน รวมเป็นเงินทั้งหมด 136,000 บาท
เพราะห้างหุ้นส่วนฯ มีหนังสือแจ้งคณบดีคณะรัฐศาสตร์ฯ ยืนยันว่า ทางห้างหุ้นส่วนฯ ไม่ได้รับการว่าจ้างจากทางคณะและไม่ได้ออกใบเสร็จรับเงินเลขที่ SC 12010458 แต่อย่างใด
(3) ใบเสร็จรับเงินของ Chiangmai Grandview Hotel & Convention Center ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2555 ระบุรายการค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มจำนวน 22,950 บาท (สองหมื่นสองพันเก้าร้อยห้าสิบบาทถ้วน) และใบเสร็จรับเงินลงวันที่ 28 ตุลาคม 2555 ระบุรายการค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 21,250 (สองหมื่นหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน) ออกให้คณะรัฐศาสตร์ฯ ม.บูรพา
เพราะโรงแรมเชียงใหม่ แกรนด์วิว ได้ตรวจสอบแล้วว่า ไม่ใช่เอกสารหรือรูปแบบของเอกสารที่ออกโดยโรงแรมเชียงใหม่ แกรนด์วิว ในนาม บริษัท เชียงรายหล่อตระกูล 2005 จำกัด
(4) หลักฐานการจ่ายค่าใช้จ่ายของนิสิต/นักเรียนสำหรับการจัดกิจกรรมโครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่ระหว่างวันที่ 25 – 28 ตุลาคม 2555 จำนวนนิสิตเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 85 คน เป็นจำนวนเงิน 61,200 บาท (หกหมื่นหนึ่งพันสองร้อยบาทถ้วน) ซึ่งลงชื่อ น.ส.ณัชชา คุณาทัพพ์ ผู้จ่ายเงิน
เพราะนิสิตที่มีชื่อในหลักฐานการจ่ายค่าใช้จ่ายนิสิตได้มาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ ว่าไม่ได้เดินทางไปในโครงการดังกล่าว และไม่ใช่ลายมือชื่อของตนเอง
รวมถึง น.ส.ณัชชา ได้ให้การยอมรับสอดคล้องกับพยานว่า ไม่ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน
เอกสารดังกล่าวระบุอีกว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ เห็นว่า พฤติการณ์ของ น.ส.ณัชชา เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยบูรพา ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของมหาวิทยาลัย พ.ศ.2551 ฐานรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาอันเป็นเหตุให้มหาวิทยาลัยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงตามข้อ 37 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่มหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรงตามข้อ 36 และฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ตามข้อ 35
“ซึ่งอธิการบดีเห็นชอบตามมติคณะกรรมการสอบสวนให้ลงโทษไล่ออก อธิการบดีจึงมีคำสั่งมหาวิทยาลัย และเสนอให้คณะกรรมการบริหารงานบุคคลมหาวิทยาลัยบูรพาพิจารณาแล้วมีมติให้ลงโทษไล่ออก อธิการบดีจึงมีคำสั่งมหาวิทยาลัยบูรพา ที่ 1625/2556 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ให้ลงโทษไล่ น.ส.ณัชชา คุณาทัพพ์ ออกจากงาน ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป นอกจากนั้น อธิการบดีได้มีการมอบอำนาจให้นิติกรไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญากับ น.ส.ณัชชา และคดีแพ่งเรียกร้องให้ชดใช้เงินคืนด้วยแล้ว”
นอกจากนี้ เอกสารดังกล่าวยังระบุอีกว่า ม.บูรพา ยินดีให้ความร่วมมือในการชี้แจงรายละเอียดในโครงการศึกษาดูงานนอกสถานที่ดังกล่าวมาข้างต้นเพิ่มเติมต่อคณะกรรมาธิการฯ โดยขอความกรุณาแจ้งกำหนดวันและเวลาในการเข้าชี้แจงให้ทราบล่วงหน้าเป็นเวลาพอสมควรด้วย เพื่อจะได้มอบหมายให้รองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดีหรือคณะบดีคณะรัฐศาสตร์ฯ ไปแถลงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแทน และจะได้ไม่กระทบต่อการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ตามวัตถุประสงค์
นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยบูรพาอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบโครงการศึกษาดูงานของหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิตในโครงการอื่น ๆ เพิ่มเติม หากคณะกรรมาธิการ ต้องการทราบเกี่ยวกับโครงการศึกษาดูงานของหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ฯ อื่นใดอีก ขอความกรุณาช่วยระบุชื่อโครงการศึกษาดูงานฯ ให้ชัดเจนว่าโครงการศึกษาดูงานสถานที่ใดบ้าง ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีมูลการทุจริตประพฤติมิชอบ เพื่อ ม.บูรพา จะได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมเอกสารไปชี้แจงข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้องตามเรื่องร้องเรียน
รายงานข่าวจากที่ประชุม กมธ. แจ้งว่า แม้ทางมหาวิทยาลัย จะชี้แจงข้อมูลสรุปผลการสอบสวนคดีนี้ไว้ค่อนข้างครบถ้วนแล้วก็ตาม
แต่กมธ. มีความเห็นว่า การทุจริตครั้งนี้ น.ส.ณัชชา ไม่น่าที่จะทำคนเดียวได้
ก่อนจะมีมติเห็นตรงกันว่า สมควรเรียกอธิการบดี และคณบดีฯ มาชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวอีกครั้งพร้อมเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดูแลทรัพย์สินภายในมหาวิทยาลัย และการคลังของมหาวิทยาลัยให้มาชี้แจงเพิ่มเติมอีกด้วย
คดีนี้ จึงทำท่าว่าจะกลายเป็นหนังม้วนยาว ที่สังคม และคนประชาคมในม.บูรพา ได้ลุ้นกันอีกยาว
โดยเฉพาะบทสรุปท้ายเรื่องว่าจะมีตัวละคร “ใหม่” โผล่ขึ้นมารับความผิดข้อหาทุจริต ร่วมกับ น.ส.ณัชชา หรือไม่?
โปรดติดตามต่อไป อย่ากระพริบตา!!