- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- ใครเป็นใคร? สแกนชื่อ บยส.รุ่น15! หลัง'บิ๊กตู่' แจง 'ภรรยา' ไม่เกี่ยวไบโอเมตริก2.1 พันล.
ใครเป็นใคร? สแกนชื่อ บยส.รุ่น15! หลัง'บิ๊กตู่' แจง 'ภรรยา' ไม่เกี่ยวไบโอเมตริก2.1 พันล.
“...การอ้างว่ามาดามหลังทำเนียบมาเกี่ยวอะไร เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ต่อไป แต่ผมเชื่อมั่นในภรรยาผม มีคนอ้างเยอะมาก นายกฯสั่ง รองนายกฯสั่ง แต่คนโง่ก็ไปเชื่อ ผมบอกแล้วให้มาถามผมว่าสั่งจริงหรือไม่ ไปเชื่อได้อย่างไร...”
"ขอความเป็นธรรมนิดหนึ่งว่า การเป็นเพื่อนร่วมรุ่นร่วมกันเยอะแยะ ไม่ใช่ร่วมกันทำความไม่ดี ทุกคนมีเพื่อนร่วมรุ่น ท่านก็เป็นใช่หรือไม่ ถ้าเหมาจ่ายแบบนี้ หลายคนที่หนี ๆ ไป เพื่อนร่วมรุ่นก็เยอะเหมือนกัน ลองไปตามดู ทุกคนทุจริตกันหมดหรือไม่ เรื่องนี้อยู่ที่ตัวบุคคล ภรรยาตนเป็นครูอาจารย์ และคอยเตือนผมเสมอไม่ให้ทำเรื่องทุจริต ส่วนข้อกล่าวหาในโครงการนี้ตนสั่งให้รายงานตลอด ติดตามต่อเนื่องทุกขั้นตอน แต่ยืนยันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับเขา เรื่องเพื่อนของภรรยาผม เป็นเรื่องส่วนตัว แทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ ถ้าอ้างตรงนี้ก็เดือดร้อนหมด ทุกคนเรียนหลายหลักสูตร บางคนเรียน 4-5 หลักสูตร เพื่อนไม่เยอะกว่าหรือ ไม่มีใครทำธุรกิจหรือ ต้องไปดูว่าข้อเท็จจริงคืออะไร"
“การอ้างว่ามาดามหลังทำเนียบมาเกี่ยวอะไร เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ต่อไป แต่ผมเชื่อมั่นในภรรยาผม มีคนอ้างเยอะมาก นายกฯสั่ง รองนายกฯสั่ง แต่คนโง่ก็ไปเชื่อ ผมบอกแล้วให้มาถามผมว่าสั่งจริงหรือไม่ ไปเชื่อได้อย่างไร”
คือคำชี้แจง ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต่อกรณีนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายอ้างถึง นางนราพร จันทร์โอชา ภรรยา พล.อ.ประยุทธ์ ที่เรียนหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) รุ่นเดียวกับกรรมการบริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด ที่เป็นคู่สัญญาโครงการไบโอเมตริก วงเงิน 2.1 พันล้านบาท ที่มีปัญหาในโครงการอย่างมาก (อ่านประกอบ : บางพรรคก็ทำ! ‘บิ๊กตู่’สั่งสอบปม IO-เผยผู้ต้องหาคดี 1MDB ใช้‘อีลิทการ์ด’เข้าไทย)
เพื่อตรวจสอบยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) พบว่า นางนราพร จันทร์โอชา ภรรยา พล.อ.ประยุทธ์ ปรากฎชื่อเป็นหนึ่งในผู้อบรมหลักสูตร บยส. รุ่นที่ 15
ซึ่งมีบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมการอบรมรายคน อาทิ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) , ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ, พลตำรวจตรีประวุฒิ ถาวรศิริ (ยศในขณะนั้น) อดีตโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และส.ว.เป็นต้น
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร บยส. รุ่นที่ 15 มีชื่อของ น.ส. วัชรี พรรณเชษฐ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด ที่เป็นคู่สัญญาโครงการไบโอเมตริก วงเงิน 2.1 พันล้านบาท รวมอยู่ด้วย (ดูเอกสารประกอบ)
สำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลแบบลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า หรือ ‘ไบโอเมตริกซ์’ วงเงินกว่า 2.4 พันล้านบาท นั้น เคยปรากฎเป็นข่าวโด่งดัง ในช่วงกลางเดือนม.ค.2563 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ 'บิ๊กโจ๊ก' ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน กรณีถูกคนร้ายลอบยิงรถยนต์ เมื่อคืนวันที่ 7 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา เชื่อว่าเกิดจากสมัยตนดำรงตำแหน่ง ผบช.สตม.และสั่งการให้มีการตรวจสอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลแบบลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า (ไบโอเมตริกซ์) พร้อมกับมีหนังสือถึง ผบ.ตร. ขอให้ยกเลิกโครงการนี้ เนื่องจากเกิดความล่าช้าและส่งงานไม่ทัน
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลรายละเอียดงานจัดซื้อครุภัณฑ์โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลแบบลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า หรือ ‘ไบโอเมตริกซ์’ วงเงินกว่า 2.1 พันล้านบาท พบว่า ในปีงบประมาณ 2560 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics (ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) ระยะที่ 1 (เลขที่โครงการเลขที่โครงการ 60076079396 สัญญาเลขที่ พธ. 37/2560) ระบุใช้วิธีพิเศษ ในการจัดซื้อจัดจ้าง กำหนดราคากลาง 2,126,073,600 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 2 พ.ค. 2562 ผู้ขายคือ บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด เป็นจำนวนเงิน 2,116,000,000 บาท เท่ากับว่า วงเงินที่ตกลงตามสัญญา มีจำนวนต่ำกว่าราคากลาง 10,073,600 บาท หรือคิดเป็นประมาณ 0.47% ของราคากลาง
สำหรับข้อมูล บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2546 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 19 ซ.รามคำแหง 11 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. แจ้งประกอบธุรกิจซื้อและจำหน่ายเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และให้เช่าทรัพย์สิน
ปรากฏชื่อ นายศรายุทธ ณ ศิลา น.ส.ปาริชาติ รุ่งกำจัด น.ส.พิมพ์สุดา พรพิชิตนาวี และนายพงษ์ศักดิ์ ภักดิ์ศรานุวัต เป็นกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 30 เมษายน 2562 นางสาว วัชรี พรรณเชษฐ์ ถือหุ้นใหญ่สุด 95.9% มูลค่า 43,540,000 บาท บริษัท เอ็มเอ็นเอช โฮลดิ้ง จำกัด 1.2% 600,000 บาท หุ้นที่เหลือกระจายอยู่ในชื่อ นาย พงษ์ศักดิ์ ภักดิ์ศรานุวัต นาย ศรายุทธ ณศิลา นางสาว ถาวร พัวศิริรักษ์ นางสาว วิภาวี อุดมกะวานิช นาย ธวัชชัย วิเชียรวรรณ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2561 มีรายได้รวม 638,408,430 บาท รายจ่ายรวม 582,721,756 บาท เสียภาษีเงินได้ 6,717,618 บาท กำไรสุทธิ 23,116,684 บาท
เมื่อตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พบว่า บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 6 สัญญา ระหว่างปี 2553-2557 รวมวงเงิน 65,790,720 บาท
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า นับตั้งแต่นำเสนอข่าวเรื่องนี้ ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหาร บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแต่ไม่สามารถติดต่อได้
อ่านประกอบ :
พบแล้ว! ข้อมูลสัญญาไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล.! สตช.จัดซื้อวิธีพิเศษ ชนะต่ำกว่าราคากลาง 10 ล.
เผยโฉมประกาศซื้อคอมฯ ไบโอเมตริกซ์ สตช.1.7 พันล.-ชื่อ บ.เอ็มเอสซี หราสืบราคากลางด้วย
เจาะปม 'บิ๊กโจ๊ก' แฉซื้อเครื่องไบโอเมตริกซ์ สตม 2.1 พันล. ป.ป.ช.ลุยสอบ-สะเทือน ผบ.ตร.?
10 ม.ค.‘บิ๊กโจ๊ก’มาให้ข้อมูล ป.ป.ช.ปมไบโอเมตริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-บี้สอบ ผบ.ตร. ด้วย
ป.ป.ช.ยังไม่เรียก‘บิ๊กโจ๊ก’ให้ข้อมูลโครงการไบโอแมทริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-สอบคืบ 50%
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/