ตีแผ่คดีทุจริตจัดซื้อสารเคมี1.8 พันล. ผลงานข่าวอิศราแห่งปี 60

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 01 มกราคม 2561 เวลา 20:00 น.

เขียนโดย

สำนักข่าวอิศรา

หมวดหมู่

จัดซื้อจัดจ้าง | Isranews | Investigative | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน

Tags

ตีแผ่คดีทุจริตจัดซื้อสารเคมีช่วยเกษตรกร 1.8 พันล. เครือข่ายอดีตผู้ว่าฯ ขรก. เอกชน หลายสิบคน ลุ้นผลชี้มูล ป.ป.ช. หน้าที่สื่อเชิงตรวจสอบเพื่อประโยชน์สาธารณะ

picyaaaaaa

เป็นที่ยอมรับอย่างไร้ข้อกังขาว่า ข่าวคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นข่าวเกี่ยวกับคดีทุจริตที่ใหญ่โตที่สุดในรอบปี 2560 ของประเทศไทย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก เป็นเวลา 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และเอกชน ที่เกี่ยวข้อง ก็ถูกศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลาหลายปี ในจำนวนนี้ที่ได้รับโทษมากที่สุด คือ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ถูกศาลฯ ตัดสินลงโทษเป็นระยะเวลากว่า 48 ปี นอกจากนี้ ยังถูกสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมกับ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และ นายนิมล รักดี (โจ) คนใกล้ชิด เป็นจำนวนเงินกว่า 1.69 หมื่นล้านบาท (อ่านประกอบ: คุก54 ปี ยึดทรัพย์1.5หมื่นล.! ย้อนข้อมูล 'เสี่ยเปี๋ยง' บุคคลทุจริตแห่งปี60)

อย่างไรก็ตาม ในด้านการทำหน้าที่ของสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ในรอบปี 2560 ได้สืบค้นข้อมูลมาตีหลายสิบข่าว ทั้งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และข่าวตีแผ่พฤติกรรมการทุจริตของนักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการระดับสูง และเอกชน ฯลฯ (ดูข้อมูลข่าวเชิงสืบสวน หลายกรณีที่นี่)

ในจำนวนนี้ข่าวเปิดโปงชี้ให้เห็นพฤติกรรมอย่างเป็นขบวนการคือ ข่าวคดีทุจริตจัดซื้อสารเคมีช่วยเหลือเกษตรกรในการกำจัดศัตรูพืชที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (การเกิดโรคหรือการระบาดของแมลงศัตรูพืช) ปีงบประมาณ 2554-2554 ในจ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มหาสารคาม มุกดาหาร และบึงกาฬ นับตั้งแต่เบิกจ่าย ถูกร้องเรียนในปี 2556 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) 2 คดี คือ คดี นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ จ.บึงกาฬ กับพวก 41 ราย และคดีนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กับพวก 22 ราย เป็นผู้ถูกกล่าวหา

ข่าวชิ้นนี้เปิดโปงว่าแท้จริงแล้วเอกชนที่เกี่ยวข้องทำแป็นขบวนการเชื่อมโยงเป็นกลุ่มเดียวกันในการเข้าเป็นคู่สัญญาจัดซื้อสารเคมีในหลายจังหวัดนำไปสู่ความเสียหลายหลายพันล้านบาท มีความเป็นมาดังนี้

ภายหลังจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้เผยแพร่คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2560 อายัดทรัพย์ นายสุรพล สายพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นางนฤมล มะลิวัลย์ และนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล กับพวก รวม 2 ครั้ง 16 ราย รวมทรัพย์สิน 320 รายการ (มูลค่าทรัพย์สินเฉพาะ 234 รายการ 452 ล้านบาท)

สำนักข่าวอิศราได้ตรวจสอบรายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่ถูกอายัดอย่างละเอียดเพื่อสืบค้นว่าบุคคลและนิติบุคคลดังกล่าวเป็นใคร เชื่อมโยง เกี่ยวพันกับการจัดซื้อจัดจ้างสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างไร?

โดยใช้กระบวนการสืบค้นข้อมูลที่เป็นเอกสารจากหน่วยงานราชการจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องและจากการเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์บุคคล กระทั่งได้ข้อเท็จจริงโดยสรุปว่า

1.นายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล ตัวการสำคัญ (ไม่ปรากฎชื่อเป็น 1 ใน 16 รายที่ถูก ปปง.อายัดทรัพย์) นามสกุลเดิม‘ปุยะติ’ มีภูมิลำเนาในจ.สระบุรี ต่อมาย้ายไปอยู่ขอนแก่น และปทุมธานี เป็นเจ้าของธุรกิจรับเหมา 3 แห่ง คือ หจก.สยามไทยโยธาการ หจก. สินวิชัย และ บริษัท เสริมสินการช่าง จำกัด มีประวัติถูกศาลแพ่งและศาลปกครองสั่งอายัดทรัพย์ 4 คดีรวมวงเงินกว่า 24.4 ล้านบาท ให้แก่กรมทางหลวงชนบท ในช่วงปี 2552 ก่อนเป็นคู่สัญญาจัดซื้อสารเคมีในช่วงปี 2554-2555 และเป็นบุคคลล้มละลายตามคำพิพากษา ศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2559 และพบว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงและโดยอ้อมกับบุคคลและนิติบุคคลที่เป็นค่สัญญาและเกี่ยวข้องกับถูกอายัดทรัพย์หลายคน

2.นิติบุคคล 3 รายที่ถูกอายัดทรัพย์ ได้แก่ บริษัท ธนาเอกอนันต์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 10 ม.ค. 2555 ทุน 1 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มเป็น 60 ล้านบาท บริษัท นิลธาร จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2555 ทุน 100 ล้านบาท และ บริษัท ทรัพย์การัณย์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 6 ก.พ. 2558 ทุน 10 ล้านบาท ทั้ง 3 บริษัทมีผู้ถือหุ้นต่างกัน แต่ใช้ ‘ผู้รับมอบอำนาจ’ จดทะเบียนคนเดียวกัน และ ‘พยาน’ ผู้ลงชื่อในเอกสารคนเดียวกัน ทำให้เชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกันและถูกจัดตั้งภายหลังการเป็นคู่สัญญาจัดซื้อสารเคมีซึ่งเกิดขึ้นในปี 2554-2555

2.น.ส.พัชรีย์ ศุภสรรพตระกูล 1 ในผู้ถูกอายัดทรัพย์ เป็น กรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท ทรัพย์การัณย์ จำกัด มีความเกี่ยวข้องเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองเป็นพยานในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท มินถาพร จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญาจัดซื้อสารเคมี 13 สัญญา 112.4 ล้านบาท เป็นผู้รับมอบอำนาจจากนายเกรียงไกรในการยื่นจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมที่ตั้งสำนักงานของ หจก. สยามไทยการโยธา และ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากนายเกรียงไกรในการยื่นจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมที่ตั้งสำนักงานบริษัท เสริมสินการช่าง จำกัด ซึ่งมีนายเกรียงไกรเป็นเจ้าของ

4. น.ส.วิมลสิริ โตวิริยะกุล 1 ในผู้ถูกอายัดทรัพย์ เป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ทรัพย์การัณย์ จำกัด (น.ส.พัชรีย์ ศุภสรรพตระกูล ร่วมถือหุ้น) มีอายุเพียง 24 ปี เจ้าของบัญชีเงินฝาก 4 บัญชี 13.5 ล้านบาท เป็นเจ้าของบ้านมูลค่า 55 ล้านบาท และถือหุ้นธุรกิจรับเหมา 3 บริษัท แท้ที่จริงเป็นลูกสาวนายเกรียงไกร (บุคคลทั้งสองใช้คนละนามสกุลกัน)

5.นายนิคม ปุยะติ 1 ในบุคคลผู้ถูกอายัดทรัพย์ นามสกุลเดียวกับ นายเกรียงไกร เมื่อครั้งที่นายเกรียงไกรใช้นามสกุล ‘ปุยะติ’

6.นายศักดา หอมจันทร์ 1 ในบุคคลผู้ถูกอายัดทรัพย์ มีอายุเพียง 27 ปี ถือหุ้นใหญ่มูลค่า 68 ล้านบาทในบริษัท นิลธาร จำกัด ทำธุรกิจรับเหมาจากทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท อยู่บ้านชั้นเดียวและบ้านหลังดังกล่าวเชื่อมโยงกับบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ติดกัน และเป็นที่อยู่ของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ธนาเอกอนันต์ จำกัด (ถูกอายัด) ต่อมาหญิงสาวคนดังกล่าวได้โอนหุ้นให้ น.ส.วิมลสิริ โตวิริยะกุล บุตรสาวนายเกรียงไกร

7. นายโชคอนันต์ พลเขต นางณุธษา พลเขต น.ส.อัญชรีพร พลเขต และ ด.ญ. ฐิติพร พลเขต ผู้ถูกอายัดทรัพย์ 24 รายการ จากการตรวจสอบพบว่า นายโชคอนันต์ และ นางณุธษา เป็นเจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อ บริษัท โชครับทรัพย์อนันต์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 7 ม.ค. 2552 ทุน 1 ล้านบาท อยู่ในจ.ขอนแก่น ( 7 เม.ย.53 แจ้งเปลี่ยนวัตถุประสงค์เป็นขายยาปราบศัตรูพืช) เป็นคู่สัญญาจัดซื้อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชกับที่ทำการปกครองอำเภอใน จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร และ สำนักงานเกษตรจังหวัดอำนาจเจริญ (2 สัญญา) ในช่วงปี 2553- เม.ย.2556 จำนวน 87 สัญญา รวมวงเงิน 643,297,770 บาท

8. ผู้เกี่ยวข้องในบริษัท มินถาพร จำกัด (จ.ขอนแก่น) และ บริษัท โชครับทรัพย์อนันต์ จำกัด (จ.ขอนแก่น) มีตัวละคร อาทิ ผู้ถือหุ้น นามสกุลเดียวกัน ผู้รับมอบอำนาจ พยาน เชื่อมโยง กับเอกชนอีก 6 ราย คือ หจก.ศ.ศุภฤกษ์ (จ.ขอนแก่น) หจก.รับทรัพย์รุ่งเรือง (จ.กาฬสินธุ์) หจก. นำทรัพย์เจริญ (จ.มหาสารคาม) หจก.เมืองเลยเพิ่มทรัพย์รุ่งเรือง (จ.เลย) หจก. นัติชดา (จ.ขอนแก่น) และ หจก.โชติชนิด (จ.ขอนแก่น) รวมเอกชน 8 ราย เป็นคู่สัญญาจัดซื้อสารเคมีกับที่ทำการปกครอง 25 อำเภอ 4 จังหวัด จำนวน 307 สัญญา 1,818,300,645 บาท ไม่รวมกรณีจัดซื้อเคมีในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ ที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรการไต่สวน นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา อดีตผู้ว่าฯบึงกาฬกับพวกรวม 41 คน (เฉพาะข้าราชการ 37 ราย) น่าสังเกตว่าเอกชนทั้ง 8 ราย จดทะเบียนจัดตั้งในปี 2552-2554 เลิกกิจการในปี 2555 โดยใช้ผู้รับมอบอำนาจคนเดียวกัน

เห็นได้ว่าผู้ถูกอายัดทรัพย์มีความเชื่อมโยงกับบริษัทคู่สัญญาจัดซื้อสารเคมีช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด

เป็นเพียงตัวอย่างในการทำหน้าที่สื่อเชิงตรวจสอบเพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องรอผลการไต่สวนในขั้นสุดท้ายของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าจะชี้มูลเอาผิดบุคคลใดหรือไม่อย่างไร และจะนำไปสู่คดีอื่นอีกหรือไม่

สำนักข่าวอิศราจะยังคงทำหน้าที่นี้ต่อไปในปี 2561