- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- พลิกปูม! เอ็ม-โฮมเอสพีวี 2 ชื่อศุภชัยโผล่ ต้นทาง'บรรณพจน์-อนันต์' ถูกปปง.อายัดทรัพย์
พลิกปูม! เอ็ม-โฮมเอสพีวี 2 ชื่อศุภชัยโผล่ ต้นทาง'บรรณพจน์-อนันต์' ถูกปปง.อายัดทรัพย์
"...จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น พบว่า ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ปรากฏชื่อของบริษัท โมเดอร์นฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มาตลอด พร้อมกับบริษัท เงินทุนทิสโก้ จำกัด (มหาชน) บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย และบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน เป็นผู้ร่วมถือหุ้น กระทั่ง เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2555 ปรากฏชื่อของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร เข้าไปร่วมถือหุ้นด้วย จำนวนหุ้น 20,471,989 บาท (หุ้นละ 10 บาท) ซึ่งถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2556 ชื่อของนายศุภชัยได้หายไป และปรากฏชื่อของนายธวัชกิตตน์ ธนานันท์ตระกูล เข้ามาถือหุ้นจำนวนดังกล่าวแทน และถือหุ้นจนถึงปัจจุบัน..."
บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ปรากฎชื่อเป็น 'ต้นทาง' ที่นำไปสู่การออกคำสั่งอายัดทรัพย์ที่ดิน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ (พี่ชายบญธรรม คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) และนายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นผลจากการตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ที่มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอกเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนำเงินไปลงทุนซื้อที่ดินจำนวน 3 แปลง โฉนดที่ดินเลขที่ 31343 ,31344 และ 31345 ตั้งอยู่ตำบลคลองสอง (คลอง 2 ตก) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่รวม 312 ไร่ 1 งาน 17.6 ตารางวา และหุ้นของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด โดยวิธีการสั่งจ่ายเช็คจำนวน 11 ฉบับ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 321,400,000 บาท (อ่านประกอบ : โชว์เช็ค 11 ใบพันล.! “ศุภชัย”เซ็นจ่ายถึง“ธมมชโย-ธรรมกาย-เครือข่าย”, เช็ค 316 ล.มัด‘ธัมมชโย’ก่อนศาลออกหมายจับคดีฟอกเงิน-จับตาเข้าแจงหรือหนี?, เปิดครบพฤติการณ์ฟอกเงิน'ศุภชัย-อนันต์-ธัมมชโย'! ปปง.โชว์หมดคำสั่งอายัดที่ดินฉบับเต็ม, “ศุภชัย”เซ็นจ่ายถึง“ธมมชโย-ธรรมกาย-เครือข่าย”, เช็ค 316 ล.มัด‘ธัมมชโย’ก่อนศาลออกหมายจับคดีฟอกเงิน-จับตาเข้าแจงหรือหนี?)
หลายคนอาจจะลืมกันไปแล้วว่า บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด เป็นใครมาจากไหน? มีที่มาที่ไปอย่างไร?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พลิกปูมข้อมูล บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด มานำเสนอให้สาธารณชนรับทราบข้อมูลอีกครั้ง
ทั้งนี้ ใน 9 คดีที่เกี่ยวข้องพัวพันกับการยักยอก-ฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเสียหายเฉียด 2 หมื่นล้านบาท (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ซึ่งกองอยู่ในมือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น
ปรากฏชื่อของบริษัท เอ็ม-โฮมเอสพีวี 2 จำกัด เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
เนื่องจากการสอบสวนของดีเอสไอ พบว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ได้นำเงินจำนวน 321.4 ล้านบาท โดยสั่งจ่ายเป็นเช็ค 10 ฉบับ ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการยักยอกทรัพย์สินสหกรณ์ฯ ไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็ม-โฮมเอสพีวี 2 จำกัด ทำห้เกิดความเสียหาย 320 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน โดยกรณีนี้ดีเอสไอได้อายัดที่ดินจำนวน 10 รายการด้วย
(อ่านประกอบ : เปิด 9 คดียักยอก-ฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯ-เครือข่ายธรรมกายหมื่นล.ก่อนจับ'ธัมมชโย')
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลบริษัท เอ็ม-โฮมเอสพีวี 2 จำกัด พบว่า ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2544 ทุนจดทะเบียน 254,719,980 บาท
ที่อยู่ปัจจุบัน 41/14 ม.8 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ปรากฏชื่อนายบันลือ กองไชย และนายกรณ์ฐนัน ธนานันท์ตระกูล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ประกอบธุรกิจรับโอนสินทรัพย์ต่าง ๆ จากบริษัท โมเดอร์น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิมบริษัท เอ็ม-โฮมเอสพีวี 1 จำกัด เพื่อนำไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท โมเดอร์นฯ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2544
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า บริษัทดังกล่าว ถูกจดทะเบียนโดยบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 1 จำกัด ที่ประกอบกิจการซื้อ ขาย เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ขายฝาก จำนอง อสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการจำนำ รับจำนำ เช่า และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นเพื่อเป็นการขยายธุรกิจในเครือจึงขอจองชื่อเพื่อจดทะเบียนบริษัทดังกล่าวขึ้น
สำหรับบริษัทในเครือ เอ็ม-โฮมเอสพีวี 1 จำกัดนั้น มีอยู่ด้วยกันอีก 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 3 จำกัด และบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 4 จำกัด (ดูเอกสารประกอบ)
เบื้องต้น บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งด้วยวงเงิน 1,018,879,890 บาท (หรือประมาณ 1 พันล้านบาท) ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2545 ได้แก้ไขบริคณห์สนธิบริษัท ลดทุนเหลือ 254,719,980 บาท จนถึงปัจจุบัน (ดูเอกสารประกอบ)
จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น พบว่า ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ปรากฏชื่อของบริษัท โมเดอร์นฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มาตลอด พร้อมกับบริษัท เงินทุนทิสโก้ จำกัด (มหาชน) บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย และบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน เป็นผู้ร่วมถือหุ้น
กระทั่ง เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2555 ปรากฏชื่อของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร เข้าไปร่วมถือหุ้นด้วย จำนวนหุ้น 20,471,989 บาท (หุ้นละ 10 บาท) ซึ่งถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด
แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2556 ชื่อของนายศุภชัยได้หายไป และปรากฏชื่อของนายธวัชกิตตน์ ธนานันท์ตระกูล เข้ามาถือหุ้นจำนวนดังกล่าวแทน และถือหุ้นจนถึงปัจจุบัน (ดูเอกสารประกอบ)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูล บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ล่าสุด 2553 แจ้งว่ามีรายได้รวม 238,900 บาท รวมรายจ่าย 1,872,819 บาท ขาดทุนสุทธิ 45,197,484 บาท
แจ้งมีสินทรัพย์รวม 929,135,305 บาท รวมหนี้สิน 1,054,445,365 บาท
ปัจจุบัน นายธวัชกิตตน์ ธนานันท์ตระกูล นายบันลือ กองไชย , นายกรณ์ฐธัน ธนานันท์ตระกูล ผู้บริหารบริษัท เอ็มโฮม เอสพีวี 2 จำกัด ปรากฎชื่อเป็นผู้ต้องหาร่วมกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในคดียักยอกเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และฟอกเงิน โดยนำเงินไปให้ บริษัท เอ็มโฮม เอสพีวี 2 จำกัด เพื่อนำไปซื้อที่ดินย่านตลาดไทย จำนวน 312 ไร่ มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท ก่อนจะโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินกับมาสู่การครอบครองของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร
ขณะที่ นายธวัชกิตตน์ เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า เข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2555 โดยการว่าจ้างของนายศุภชัย เพราะทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 30 ปี พื้นที่ใกล้เคียงกับสำนักงานปัจจุบันก็เป็นของตน เป้าหมายที่รับงานนี้ก็เพื่อมาเคลียร์ปัญหากับสหกรณ์คลองจั่นฯ ซึ่งมีการตกลงทำยอมกับผู้บริหารสหกรณ์ฯ แล้วว่าจะคืนเงิน 320 ล้านบาทให้สหกรณ์ฯ แต่ต้องรอให้ดีเอสไอถอนอายัดที่ดินก่อนเพื่อนำที่ดินไปขายแล้วนำเงินไปคืน
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลในส่วนของ บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งเป็นต้นทางนำไปสู่การออกคำสั่งอายัดทรัพย์ที่ดิน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนายอนันต์ อัศวโภคิน ตามที่ปรากฎเป็นข่าวไปแล้ว
ส่วนอนาคตของ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนายอนันต์ อัศวโภคิน นอกจากถูก ปปง.ออกคำสั่งอายัดทรัพย์แล้ว จะต้องเผชิญหน้าอะไรต่อจากนี้บ้าง
โปรดจับตาดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิด!