ฉบับเต็ม! เหตุผล‘คลัง’เลิกสิทธิพิเศษขุดคลอง อผศ. เจอจ้างช่วง-อ้างชื่อ‘บิ๊กป้อม’กินหัวคิว

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 13 มีนาคม 2560 เวลา 13:16 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

ขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ | อผศ. | กระทรวงการคลัง

เปิดเหตุผลฉบับเต็ม! กระทรวงการคลังระงับสิทธิพิเศษ อผศ. ขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ ได้ข้อมูลคนร้องเรียน-สตง.-สื่อคุ้ยปมไม่ทำเองจริง อ้างขอเช่าเครื่องมือ แต่ให้เอกชนทำแทน มีการปล่อยช่วงให้รายอื่น อ้างชื่อ รมว.กลาโหม เรียกรับหัวคิวด้วย

PIC apsaps 13 3 60 1

จากกรณีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า กระทรวงการคลัง ได้ยกเลิกสิทธิพิเศษในการขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ (อผศ.) ไปแล้ว ประมาณ 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ (ราว ต.ค.-พ.ย. 2559) เนื่องจากพบปัญหาในเรื่องคุณสมบัติ

ขณะที่ พล.ท.สวัสดิ์ ทัศนา รอง ผอ.อผศ. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า กระทรวงการคลังได้ยกเลิกสิทธิพิเศษดังกล่าวจริง ส่วนกรณีการร้องเรียนถึงปัญหาการจ้างช่วงเอกชนทำงาน และการเรียกรับหัวคิวนั้น เบื้องต้นผลสอบภายในของ อผศ. ไม่พบเจ้าหน้าที่ อผศ. เกี่ยว แต่มีการแจ้งความไว้ที่ สน.พญาไท จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจในการเข้ามาสอบสวน

(อ่านประกอบ : เลิกสิทธิพิเศษ อผศ.ขุดคลองแล้ว!รมว. คลังยันเจอปัญหาคุณสมบัติไม่ตรง, ปมจ้างช่วงขุดคลอง-หักหัวคิวรอ ตร.สอบ! รอง ผอ.อผศ.ยันไม่มี‘คนใน’เกี่ยว, เครื่องมือไม่ครบ-จ้างช่วงจริง! เหตุผล‘คลัง’เลิกสิทธิพิเศษ อผศ.ขุดคลอง)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า หนังสือกระทรวงการคลัง เลขที่ กค 0405.2/ล 2908 ประทับตราลับ และด่วนที่สุด ลงวันที่ 24 พ.ย. 2559 ระบุสาเหตุถึงการยกเลิกสิทธิพิเศษของ อผศ. ในการขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศไว้ ดังนี้

ตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2557 มีมติรับทราบ มติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจที่ให้ อผศ. ได้รับสิทธิพิเศษประเภทไม่บังคับ ในการรับจ้างพัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำทั่วประเทศ โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีความประสงค์จะจ้าง อผศ. ให้ดำเนินการโดยวิธีกรณีพิเศษ อยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ เช่น อผศ. ต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยมิได้เป็นการประกอบการงานหรือร่วมการงานหรือสมทบกับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นการค้าหรือการอื่น เป็นต้น

ต่อมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แจ้งว่า ได้รับทราบข้อมูลกรณีการดำเนินงานของ อผศ. ซึ่งได้รับสิทธิพิเศษในการรับจ้างพัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลองดังกล่าว ที่อาจไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของการได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว สรุปประเด็นได้ ดังนี้

1.อผศ. ดำเนินการตามที่ได้รับสิทธิพิเศษอย่างถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยแหล่งข่าวแจ้งว่า การดำเนินการของ อผศ. ในการรับจ้างพัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลองดังกล่าว อาจมีลักษณะไม่โปร่งใส และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ เช่น ไม่มีการทำงานจ้างเอง แต่เป็นการนำงานไปจ้างช่วงต่อโดยทำนิติกรรมเป็นการเช่าเครื่องมือมาทำงานจ้าง

2.บริษัทเอกชนเข้าไปรับงานแทน อผศ. แล้วนำงานไปขายช่วงต่อให้ผู้รับเหมารายย่อย เพื่อทำงานแทนอีกทอดหนึ่งนั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยทุจริตหรือไม่ ซึ่ง อผศ. และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเช่าเครื่องจักร จะถือได้ว่าได้กระทำการทุจริต และผิดเงื่อนไขตามที่ได้รับสิทธิพิเศษหรือไม่

3.อผศ. ได้ทำบันทึกข้อตกลงเช่ายานพาหนะ เครื่องมือ เครื่องจักร และบันทึกข้อตกลงซื้อวัสดุกับบริษัทต่าง ๆ ให้ไปทำงานขุดลอกแทนในลักษณะการเช่าช่วง ถือได้ว่าเป็นสัญญาจ้างทำของนั้น จะเป็นการทำผิดเงื่อนไขของการได้รับสิทธิพิเศษในการรับจ้างพัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลองดังกล่าวให้แก่ส่วนราชการโดยไม่ต้องประกวดราคา แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยให้กระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ ระงับสิทธิพิเศษดังกล่าวได้ กรณีที่ตรวจพบว่า อผศ. นำงานจ้างไปให้เอกชนรับช่วงดำเนินการต่อ

4.กรณีเอกชนร้องเรียน โดยมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาทบทวนมติ คสช. ที่รับทราบกรณีคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ อนุมัติให้ อผศ. ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว แต่จากการตรวจสอบของอดีต ส.ส.เพื่อไทย สำนักตรวจสอบภายใน สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรายงานการตรวจสอบของ สตง. พบว่า อผศ. ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ข้างต้นได้ กล่าวคือ อผศ. ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินงานที่รับจ้างนั้นด้วยตนเอง มีการนำงานไปจ้างช่วงให้เอกชนดำเนินงานต่อ ซึ่งกรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า อผศ. ไม่มีขีดความสามารถ และความพร้อมในการดำเนินการตามสัญญา เป็นเหตุให้งานล่าช้า ไม่แล้วเสร็จตามสัญญา จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่งานของทางราชการ รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้เกิดการเรียกค่าหัวคิวจากการได้รับสิทธิพิเศษของ อผศ. ดังกล่าวด้วย

5.สำนักข่าวเอกชน นำเสนอข่าวว่า อผศ. นำงานที่ได้รับจากการได้รับสิทธิพิเศษไปจ้างช่วงให้เอกชนทำงานต่อ อีกทั้งมีการแอบอ้างชื่อ รมว.กลาโหม เพื่อเรียกรับหัวคิวด้วย

คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ ในการประชุมครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2559 ได้พิจารณาแล้ว มีมติว่า เมื่อพิจารณาจากข้อร้องเรียนตามที่ สตง. ขอให้พิจารณากรณีที่ อผศ. ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รับอนุมัติให้ได้รับสิทธิพิเศษ ในกรณีที่ไม่ได้เป็นผู้ทำงานจ้างนั้นด้วยตนเอง โดยนำงานไปจ้างช่วงต่อ โดยทำเป็นนิติกรรมการเช่าเครื่องมือ เครื่องจักรมาทำงานจ้าง

และกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า อผศ. ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการได้รับสิทธิพิเศษ กล่าวคือ ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเอง แต่นำงานไปจ้างช่วงให้เอกชนทำงานต่อ อาจเป็นช่องทางให้เกิดการเรียกรับหัวคิว รวมทั้งสำนักข่าวเอกชน ได้มีการนำเสนอข่าวว่า อผศ. นำงานที่ได้รับจากการได้รับสิทธิพิเศษไปจ้างช่วงให้เอกชนทำงานต่อ อีกทั้งมีการแอบอ้างชื่อ รมว.กลาโหม เพื่อเรียกเก็บค่าหัวคิว

ประกอบกับเอกสารที่ อผศ. จัดส่งเพื่อประกอบการพิจารณา สรุปได้ว่า เนื่องจากมีส่วนราชการว่าจ้าง อผศ. ในการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบัน อผศ. มีเพียงเครื่องมือ เครื่องจักรชนิดเบาและไม่เพียงพอต่อจำนวนที่ อผศ. ได้รับมา อผศ. จึงได้ดำเนินการเช่าเครื่องมือ เครื่องจักร จากเอกชนเฉพาะในกรณีที่จำเป็น เพื่อปฏิบัติงานให้ทันตามกำหนดระยะเวลาของสัญญา ส่วนแรงงานนั้นใช้การจ้างทหารผ่านศึกที่เป็นสมาชิกในพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ

ซึ่งจากการพิจารณาสัญญาเช่ายานพาหนะ เครื่องมือ เครื่องจักร ได้มีการเช่าเครื่องมือ เครื่องจักร รวมทั้งการจ้างเหมาแรงงาน แม้สัญญาเช่าพาหนะ เครื่องมือฯ ดังกล่าว จะกำหนดเงื่อนไขให้เป็นของฝ่ายคู่สัญญา (เอกชนผู้ให้เช่า) จัดหาพลประจำ พลขับ ผู้ควบคุมเครื่องมือ เครื่องจักร และทำตามกำหนดเงื่อนไขโดยต้องควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามคำสั่งของ อผศ. ซึ่งอาจหมายความว่า อผศ. ไม่ได้เป็ฯผู้ดำเนินการตามสัญญาด้วยตนเอง และอาจทำให้พิจารณาได้ว่า เป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของเงื่อนไขตามมติ คสช.

อย่างไรก็ดีเพื่อให้ อผศ. สามารถรับจ้างดำเนินการตามที่ได้รับสิทธิพิเศษข้างต้นได้ตามศักยภาพของ อผศ. ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในการบริหารทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด และไม่ส่งผลกระทบต่อความล่าช้าในการส่งมอบงานให้หน่วยงานผู้ว่าจ้าง ในขั้นนี้ คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ อาศัยอำนาจตามนัยมติ คสช. ระงับสิทธิพิเศษในการรับจ้างพัฒนา หรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลองดังกล่าวของ อผศ. โดยมิให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐดำเนินการจ้าง อผศ. ในการดำเนินการดังกล่าวจนกว่า อผศ. จะสามารถเป็นผู้ดำเนินการได้ด้วยตนเองตามที่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ และแจ้งเวียนให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติ ยกเว้นกรณีที่ได้มีการลงนามในสัญญาจ้างแล้ว โดยหาก อผศ. มีความพร้อมที่จะรับจ้างดำเนินการได้เองตามที่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว ให้แจ้งคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป (ดูเอกสารประกอบ)

PIC ระงบสทธพเศษ อผศ 3