- Home
- Investigative
- การทำผิดของเอกชน
- ขมวดพฤติการณ์‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ก่อนบุกจับ 7 เอกชน-ปปง.อายัด 1.3 หมื่นล.
ขมวดพฤติการณ์‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ก่อนบุกจับ 7 เอกชน-ปปง.อายัด 1.3 หมื่นล.
ขมวดพฤติการณ์ ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ ก่อนบุกจับ 7 เอกชน ถูก ปปง. อายัดทรัพย์ 1.3 หมื่นล้าน เผยขั้นตอนดีลราชการสวมบัตรคนตาย เมื่อรับทัวร์แล้วเช่ารถ 5 บริษัทนำเที่ยวชื่อดัง บังคับจอดซื้อสินค้าบริษัทในเครือเท่านั้น นายทะเบียนสั่งเพิกถอนแล้ว 1 แห่ง
ปัญหา ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ กำลังตกอยู่ในความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก !
จุดเริ่มต้นมาจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรมการท่องเที่ยว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมเข้าตรวจค้นบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และบริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด
พร้อมจับกุมชาวจีนไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง อายุ 57 ปี ซึ่งถูกตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบสวมบัตรประชาชนของคนไทยซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2550 เพื่อเปิดบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศไทย
กระทั่งนำไปสู่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังตำรวจเข้าบุกค้นบริษัท 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พร้อมด้วยบริษัทเครือข่ายคือ บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด บริษัท รอยัล ไทยเฮิร์บ จำกัด บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟ เซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า เป็นบริษัทที่ทำทัวร์ศูนย์เหรียญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีเครือข่ายเป็นร้านค้ากระจายตัวอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ
เบื้องต้นพบว่าบริษัททั้ง 5 แห่งดังกล่าว เปิดให้บริการรถเช่ามากกว่า 7 พันคัน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมการท่องเที่ยว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ตรวจยึดและอายัดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเพื่อนำไปขยายผลหลายรายการ ซึ่งเชื่อได้ว่ามีเงินหมุนเวียนและทรัพย์สินนับหมื่นล้านบาท
กระทั่งนำไปสู่ ปปง. อายัดทรัพย์สินบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ตฯ บริษัท ฝูอันฯ และบริษัท ซินหยวนฯ รวมวงเงินกว่า 13,200 ล้านบาท เนื่องจากพบพฤติการณ์ซ่า ไม่เรียกเงินค่าเช่ารถบัส แต่มีเงื่อนไขให้นำนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าตามที่บริษัทกำหนด ซึ่งมีราคาสูงเกินจริง และศาลได้ออกหมายจับกรรมการในบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวจีนที่ลักลอบสวมบัตรประชาชนคนไทย ฐานเป็นสมาชิกอั้งยี่ไปแล้ว
อย่างไรก็ดีประเด็นนี้ทางตัวแทนทั้ง 5 บริษัทดังกล่าว ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากการบุกยึดอายัดเอกสาร และการกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริงแล้ว
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ?
เพื่อให้สาธารณชนเห็นภาพชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงที่ปรากฏเกี่ยวกับปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งมีการกล่าวหาเชื่อมโยง 7 บริษัทข้างต้น เรียบเรียงให้เข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้
สำหรับพฤติการณ์ของบริษัททัวร์ทั้ง 7 แห่งดังกล่าว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว สรุปไว้ว่า บุคคลต่างด้าวได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และใช้วิธีการ ‘ดีล’ กับข้าราชการเพื่อดำเนินการ ‘สวมบัตรประชาชน’ คนไทย แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลัก
ขั้นตอนแรก การซื้อขายสิทธิในการจัดทำทะเบียนประวัติบุคคล ในโครงการมิยาซาวาที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติบุคคลที่ราบสูงทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศไทย ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2542
ขั้นตอนที่สอง การสวมบัตรประชาชนและการเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรมีเจ้าพนักงานปกครองบางคนอยู่ในขบวนการโดยการแจ้งเกิดเท็จ หรือสต๊อกลม เจ้าพนักงานการแจ้งเกิดรู้เห็น จากนั้นเจ้าพนักงานที่ร่วมทุจริตจะเข้าไปแก้ไขรายการ โดยใช้ระเบียบที่อนุญาตให้แก้ไขเมื่อเกิดความผิดพลาด ปัจจุบันจะแก้ไขให้เกิดหลังปี 2527 เพื่อไม่ให้เกิดพิรุธ เนื่องจากบัตรประชาชนสัญชาติไทยปัจจุบันขึ้นต้นด้วยหมายเลข 1 หมายผู้ทีเกิดหลังปี 2527
ขั้นตอนที่สาม คนกลุ่มนี้จะใช้คนเป้าหมายที่ไม่เคยทำบัตรประชาชนมาก่อน ไม่มีหลักฐานภาพถ่ายและลายนิ้วมือ ซึ่งอาจจะเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว สูญหาย หรือเป็นข้าราชการที่ไม่เคยไปทำบัตรประชาชนมาก่อน ไม่มีหลักฐานภาพถ่ายและลายนิ้วมือ ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว สูญหาย หรือเป็นข้าราชการที่ไม่เคยไปทำบัตรประชาชน ตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นระบบออนไลน์ ใช้บัตรข้าราชการแทนตัว จึงไม่มีข้อมูลภาพถ่ายและลายนิ้วมือปรากฏ ดังนั้นเมื่อทำตามรูปแบบดังกล่าวได้แล้ว ก็จะถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน และใบสูติบัตรเพื่อมาขอทำบัตร
โดยปัจจุบันพบว่า มีคนต่างด้าวมาสวมบัตรแทนคนไทยมากกว่า 1 แสนราย !
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org และข้อมูลจากหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พบข้อเท็จจริง ดังนี้
บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และบริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด และบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด
สำหรับพฤติการณ์ของ 3 บริษัทดังกล่าว จากการตรวจสอบของ ปปง. ระบุว่า เป็นบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศไทยต่ำกว่าทุน หรือบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญ ที่มีนางถวัล แจ่มโชคชัย และนายสมเกียรติ คงเจริญ (ชาวจีนที่ลักลอบสวมบัตรประชาชนของนายสมเกียรติ คงเจริญ คนไทยซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา) เป็นกรรมการผู้จัดการและมีหุ้นอยู่ในบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด ใช้บริการรถบัสโดยสารของบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารถบัสโดยสาร แต่มีข้อตกลงและเงื่อนไขจะต้องพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าตามร้านหรือสถานที่ตามที่บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด กำหนดไว้ 4 ที่ คือ 1.บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 2.บริษัทรอยัล พาราไดซ์ จำกัด 3.บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด 4.บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด
นอกจากนี้ มัคคุเทศก์ใช้วิธีบังคับ ล่อลวง ขู่เข็ญนักท่องเที่ยว ให้ซื้อสินค้าในราคาสูงเกินจริง โดยบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด (ซึ่งมีนางนิสา โรจน์รุ่งรังสี นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี กับพวก เป็นประธานกรรมการและกรรมการ) จะจ่ายเงินค่าตอบแทนจำนวน 20-30% จากยอดขายที่นักท่องเที่ยวซื้อสินค้า และหากไม่เป็นไปตามข้อตกลง บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด จะต้องถูกปรับค่าเสียหาย
ต่อมาศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายสมเกียรติ คงเจริญ และนางถวัล แจ่มโชคชัย ในความผิดฐานเป็นสมาชิกอั้งยี่ และร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยว
และเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี ประธานกรรมการบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี กรรมการบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต ในความผิดฐานเป็นสมาชิกอั้งยี่ และร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยว
ล่าสุด สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กทม. ได้เพิกถอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ฝูอันฯ ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2559 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่า ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงของกรมการปกครอง แจ้งว่า มีบุคคลนำบัตรประจำตัวประชาชน ผู้เป็นชายไม่ทราบชื่อ ซึ่งได้ทำการทุจริตสวมตัวทำบัตรประชาชนราย นายสมเกียรติ คงเจริญ ใช้เป็นเอกสารประกอบการจดทะเบียน และปกปิกข้อความอันเป็นความจริงแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ใช้เอกสารซึ่งได้มาโดยไม่ถูกต้อง และแจ้งให้นายทะเบียนจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จึงมีผลให้คำสั่งรับจดทะเบียนดังกล่าวเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หรืออธิบายให้ง่ายคือ นายสมเกียรติ ซึ่งเป็นคนจีน ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท ฝูอันฯ ได้ทุจริตสวมทำบัตรประชาชนของนายสมเกียรติ คงเจริญ (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) มาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ก่อนที่จะมีการโอนต่อไปให้นายหวังซื่อ จื่อ ชาวจีน เข้ามาถือครองหุ้นแทน ดังนั้นตามขั้นตอนถือว่าผิดกฎหมาย จึงดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทดังกล่าว
(อ่านประกอบ : โชว์คำสั่งเพิกถอนบ.ฝูอันฯทัวร์ศูนย์เหรียญ! นายทะเบียนระบุชัดทุจริตสวมบัตรคนตาย)
บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และเครือข่ายคือ บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด บริษัท รอยัล ไทยเฮิร์บ จำกัด บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟ เซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด
สำหรับพฤติการณ์ของบริษัทเหล่านี้ ตามข้อมูลของ ปปง. สรุปสาระสำคัญได้ว่า บริษัท ฝูอันฯ และบริษัท ซินหยวนฯ ได้ใช้บริการรถบัสโดยสารของบริษัท โอเอฯ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท รอยัล เจมส์ฯ และบริษัทอีก 3 แห่ง โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารถบัสโดยสาร แต่มีข้อตกลงและเงื่อนไขจะต้องพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าตามร้านหรือสถานที่ตามที่บริษัทในเครือ โอเอฯ ดำเนินการอยู่
จากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจของบริษัททั้ง 5 แห่งดังกล่าว พบว่า
บริษัท รอยัล เจมส์ฯ
แจ้งประกอบธุรกิจจำหน่ายอัญมณี เพชร เงิน ทอง เครื่องหนัง ของที่ระลึก ค่านายหน้า ดอกเบี้ยรับ ปรากฎชื่อ นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ โดยผู้ถือหุ้นทั้งหมดคือคนสกุล ‘โรจน์รุ่งรังสี’
โดยบริษัท รอยัล เจมส์ มีบริษัทในเครือข่ายอีกจำนวนกว่า 20 แห่ง เลิกกิจการไปแล้ว 5 แห่ง ล่าสุดนำส่งงบการเงินเมื่อปี 2558 มีรายได้รวมกว่า 4.1 พันล้านบาท รายจ่าย 3.8 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 214 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากนับรวมทุนจดทะเบียนบริษัท รอยัล เจมส์ และเครือข่าย จะมีมูลค่ากว่า 1,184 ล้านบาท
บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 5 สิงหาคม 2534 ทุนจุดทะเบียน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 165/1-2 ถนนหลวงแพ่ง แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการขายส่งเครื่องหนังและเครื่องใช้สำหรับการเดินทาง ปรากฎชื่อ นาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และนาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,109,031,603.10 บาท รวมรายจ่าย 1,010,483,387.07 บาท กำไรสุทธิ 71,629,840.21 บาท
บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 23 มีนาคม 2536 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 880/1 ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ปรากฎชื่อ นาย วสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และนาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่ามีรายได้รวม 88,636,843.68 บาท รวมรายจ่าย 83,801,397.69 บาท กำไรสุทธิ 3,701,939.13 บาท
บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 16 มิถุนายน 2546 ทุน 150 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 681/8 ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ จำหน่ายอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ของชำร่วย ของฝาก ของที่ระลึก ทุกชนิด ปรากฎชื่อ นาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และนาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,113,177,151.25 บาท รวมรายจ่าย 1,040,529,903.23 บาท กำไรสุทธิ 47,084,396.91 บาท
บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 11 มีนาคม 2556 ทุน 60 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 165/3 ถนนหลวงแพ่ง แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจประเภทภัตตาคาร ปรากฎชื่อ นาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และนาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่า มีรายได้รวม 154,565,055.43 บาท รวมรายจ่าย 142,426,476.10 บาท กำไรสุทธิ 9,040,002.11 บาท
ดังนั้น หากนับรวมเฉพาะรายได้ในปี 2558 ของบริษัท รอยัล เจมส์ และบริษัทในเครือข่ายทั้ง 4 แห่งที่ถูกดำเนินการบุกค้นตรวจสอบดังกล่าว จะมีมูลค่าเบ็ดเสร็จ 6,585,827,757 บาท
ท้ายสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะขยายผลไปถึงบริษัทไหนอีกบ้าง ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด !
อ่านประกอบ :
เปิดหลักฐานบัตรปชช.มัด'สมเกียรติ' ผจก.ทัวร์ศูนย์เหรียญ สวมชื่อคนตาย-โอนหุ้นเกลี้ยง
โชว์คำสั่งเพิกถอนบ.ฝูอันฯทัวร์ศูนย์เหรียญ! นายทะเบียนระบุชัดทุจริตสวมบัตรคนตาย
6.5 พันล!เจาะรายได้ รอยัลเจมส์ฯ-4 บ.เครือข่าย โดนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญใหญ่สุดในไทย
โดนเพิกถอนบริษัทฯแล้ว!แกะรอย2 ทัวร์จีนโยง 'รอยัลเจมส์ฯ'-สวมบัตรคนตายทำธุรกิจ
หมายเหตุ : ภาพประกอบทัวร์ศูนย์เหรียญ จาก neawna