- Home
- Investigative
- การทำผิดของเอกชน
- เปิดจุดตาย!'ศูนย์ปฏิบัติฯธรรมกายเขาใหญ่'สร้างอาคารใหญ่โตอลังการ ขออนุญาตหรือยัง?
เปิดจุดตาย!'ศูนย์ปฏิบัติฯธรรมกายเขาใหญ่'สร้างอาคารใหญ่โตอลังการ ขออนุญาตหรือยัง?
"..ยังตรวจไม่พบข้อมูลว่ามีการทำเรื่องขออนุญาตก่อสร้างอาคารสถานที่เข้ามาหรือไม่ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่ จึงยังไม่อยากฟันธงอะไร ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ยืนยันข้อมูลเป็นทางการอีกครั้งก่อน"
ยังเป็นปริศนาที่ต้องค้นหาความจริงกันต่อไป!
สำหรับกรณี ศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิร์ลพีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ หรือ World peace valley ของวัดพระธรรมกาย ที่ปรากฎข้อมูลว่าเข้าไปตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง จ.นครราชสีมา
และมาพร้อมคำถามที่ว่า พื้นที่ตรงนั้นเป็นของราษฎรรายใดบ้าง? ใช้วิธีการใดในการเข้ามาก่อสร้าง? ซื้อต่อหรือได้รับบริจาค? และที่สำคัญมีการดำเนินการที่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับอะไรหรือไม่?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อกำหนดในพ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ควบคุมดูแลการใช้ที่ดินในเขตนิคมสร้างตนเอง
พบว่า มีการระบุชัดเจนใน มาตรา 9 ว่า สมาชิกนิคมจะต้องใช้ที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ตามมาตรา 8 เฉพาะเพื่อทําการเกษตรตามระเบียบที่อธิบดีกําหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ถ้าจะทําการอย่างอื่นด้วยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี
ขณะที่มาตรา 8 ระบุให้อธิบดีมีอํานาจอนุญาตให้สมาชิกนิคมเข้าทําประโยชน์ในที่ดินของนิคมตามกําลังแห่งครอบครัวของสมาชิกนิคมนั้น แต่ไม่เกินครอบครัวละห้าสิบไร่
(อ่านพ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ประกอบ http://webhost.cpd.go.th/rlo/download/law/actcoopland_update50.pdf)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2559 ได้ติดต่อไปยัง นายปิฎก อ่อนแก้ว ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำตะคอง จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนี้
นายปิฎก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมที่ดิน ขณะนี้สามารถยันยืนได้ว่า ศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิร์ลพีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง จ.นครราชสีมา
โดยพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 480 ไร่ แบ่งออกเป็น 20 แปลง แยกเป็นโฉนดที่ดิน 3 แปลง น.ส.3 อีก จำนวน 10 แปลง ส่วนที่เหลืออีก 7 แปลงอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลประเภทที่ดินอยู่
"ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ดินทั้ง 20 แปลง ว่า ใครเป็นเจ้าของ และทำไมวัดพระธรรมกาย ถึงเข้ามาก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมในพื้นที่เหล่านี้ได้ โดยวิธีการใด"
เมื่อถามว่า พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 มาตรา 9 กำหนดให้สมาชิกเข้าทําประโยชน์เฉพาะเพื่อทําการเกษตร ถ้าจะทําการอย่างอื่นด้วยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลนิคมสร้างตนเองก่อน กรณีการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกาย ดังกล่าว มีการทำเรื่องขออนุญาตปลูกสิ่งก่อสร้างเพื่อใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรมหรือไม่
นายปิฎก ตอบว่า "ยังตรวจไม่พบข้อมูลว่ามีการทำเรื่องขออนุญาตก่อสร้างอาคารสถานที่เข้ามาหรือไม่ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่ จึงยังไม่อยากฟันธงอะไร ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ยืนยันข้อมูลเป็นทางการอีกครั้งก่อน"
เมื่อถามว่า ได้รายงานข้อมูลเรื่องนี้ให้อธิบดีอธิกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ รับทราบหรือยัง นายปิฎก ตอบว่า ได้รายงานข้อมูลให้ทางอธิบดีรับทราบแล้ว
นายปิฎก ยังกล่าวถึงท้ายด้วยว่า "วันนี้ (23 มิ.ย.2559) มีเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาติดต่อเพื่อร่วมตรวจสอบกรณีนี้ด้วย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ 23 มิ.ย.2559 ได้พยายามติดต่อ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อให้ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิร์ลพีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ว่าได้รับอนุญาตจากอธิบดีตามระเบียบแล้วหรือไม่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ทั้งหมดนี่ คือ ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิร์ลพีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ของวัดพระธรรมกาย ที่กำลังถูกจับตามองจากสาธารณชนอยู่ในขณะนี้
พร้อมกับคำถามใหม่ที่เกิดขึ้น คือ ถ้าไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารสถานที่จาก อธิบดีอธิกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ก่อนดำเนินการ 'ผลลัพธ์' ที่ตามมาจากกรณีจะเป็นอย่างไร?
อ่านประกอบ :
ไขปมร้อน ศูนย์ปฏิบัติฯ'ธรรมกาย'เขาใหญ่ ที่ดินนับพันไร่ พระท่านได้แต่ใดมา?
ไม่ใช่ที่ส.ป.ก.! ปฏิรูปที่ดินโคราช ยันศูนย์ปฏิบัติฯธรรมกายพันไร่ อยู่ในนิคมสร้างตนเอง