- Home
- Investigative
- การทำผิดของเอกชน
- เปิดไส้ใน ธพว.ปล่อยกู้ 347.5 ล. ซื้อที่ดินโครงการปัญหา‘แก่งกระจาน’บ.นักธุรกิจดัง
เปิดไส้ใน ธพว.ปล่อยกู้ 347.5 ล. ซื้อที่ดินโครงการปัญหา‘แก่งกระจาน’บ.นักธุรกิจดัง
เปิดรายงานข้อสังเกต ธปท.กรณี ธพว.ปล่อยกู้ซื้อที่ดินสิ่งปลูกสร้างโครงการมีปัญหาแก่งกระจานคันทรีคลับ 347.5 ล้าน ระบุชัดมีปัญหาความเสี่ยงสูง พบเป็นของนักธุรกิจดัง ถือหุ้นซับซ้อน ขาดทุนสะสม 170.6 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานก่อนหน้านี้ว่า ลูกหนี้ NPL รายใหญ่ 20 อันดับแรก ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เกิดจากการปล่อยสินเชื่อในช่วงปี 2552-2555 จำนวน 17 ราย ปี 2546 ปี 2548 และปี 2557 ปีละ 1 ราย ในจำนวนนี้บางรายถูกตั้งข้อสังเกตในกระบวนการอนุมัติสินเชื่อ ได้แก่
กรณี ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดรอปอินน์ ลูกหนี้ NPL อันดับ 4 วงเงิน 199 ล้านบาท
กรณี บริษัท ไรซิง (ไทยแลนด์ จำกัด) วงเงิน 195 ล้านบาท NPL อันดับ 5
กรณี ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โรงสี ป.น่ำเฮง ลูกหนี้ NPL อันดับที่ 7 วงเงิน 159 ล้านบาท
กรณี หจก.โรงสีข้าวจงเจริญ วงเงิน 125 ล้านบาท NPL อันดับ 12
กรณี บริษัท โรงพิมพ์ประสานมิตร ลูกหนี้ NPL อันดับ 6 จำนวน 180 ล้านบาท
คราวนี้มาดู กรณีการปล่อยให้แก่ลูกหนี้กรณี บริษัท เอสคอม พลัส (ไทยแลนด์) จำกัด ยอดหนี้ จำนวน 347.5 ล้านบาท
ธพว.อนุมัติสินเชื่อให้แก่ บริษัท เอสคอม พลัส (ไทยแลนด์) จำกัด เมื่อ 10 ก.พ.53 เพื่อซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโครงการแก่งกระจานคันทรีคลับ แอนด์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นโครงการที่มีปัญหาหยุดดำเนินการจากบริษัท เพชรไทยพัฒนา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ จำนวน 305 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงก่อสร้างอาคาร 155 ล้านบาท และเพื่อสมทบค่าใช้จ่ายการตลาด 40 ล้านบาท โดยมีการวิเคราะห์รายได้ว่าลูกหนี้จะมีรายได้หลักจากการให้เช่าห้องพักระยะยาวและค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้าวัยเกษียณ แต่ปัจจุบันสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องดำเนินการโดยบริษัท เพชรไทยพัฒนา จำกัด ก็ยังไม่มีการดำเนินการ โดยมีอสังหาริมทรัพย์ ราคาประเมิน 696.4 ล้านบาท จำนองเป็นประกันในวงเงิน 500 ล้านบาท
จากการตรวจสอบพบว่า กรณีนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีข้อสังเกตระบุว่า การให้สินเชื่อเพื่อซื้อโครงการที่มีปัญหาหยุดดำเนินการจากบริษัทแม่เพื่อมาดำเนินการต่อ ซึ่งมีความเป็นไปได้ยากที่โครงการจะประสบผลสำเร็จ จัดอยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงจากการวิเคราะห์สินเชื่อ
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เอสคอม พลัส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของนาย โอฬาร อัศวฤทธิกุล นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง จดทะเบียนวันที่ 6 กันยายน 2543 ทุน 700 ล้านบาท ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ตั้งเลขที่ 132/16 ซอยพระรามหก 35 ถนนพระรามที่ 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 บริษัท เพชรไทยพัฒนา จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 6,950,000 หุ้น (99.28%) แจ้งผลประกอบการปี 2557 รายได้ 9,080,894 บาท ขาดทุนสุทธิ 54,199,158 บาท สินทรัพย์ 1,088,857,634 บาท (ที่ดินและอาคาร 588,335,080 บาท ) หนี้สิน 559,470,732.88 บาท ขาดทุนสะสม 170,613,098 บาท
ขณะที่ บริษัท เพชรไทยพัฒนา จำกัด บริษัทแม่ จดทะเบียน 25 พฤศจิกายน 2530 ทุน ปัจจุบัน 1,201 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ค้าอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 299/1 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 บริษัท โกลบอล ซินดิเคท จำกัด (Holding Company ของกลุ่ม นายโอฬาร อัศวฤทธิกุล) ถือหุ้นใหญ่ 75%
อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลว่า ธพว.จัดชั้นลูกหนี้รายนี้เป็น NPL
อ่านประกอบ:
ค้างจ่ายภาษีอื้อ!สรรพากรบี้ รร.เกาะพะงัน ลูกหนี้ NPL ธพว. 199 ล. -สาวสึก‘ผู้ถือหุ้น’
ปล่อยกู้ซื้อที่ดินเปล่า ‘โรงพิมพ์ประสานมิตร’ NPL ธพว. 180 ล. -ศาลสั่งล้มละลาย
ใช้เงินสด 30.2 ล. เพิ่มทุนก่อนกู้! ปริศนา โรงสี จ.ชัยนาท ลูกหนี้ NPL ธพว.159 ล.
เพิ่มทุน 50 ล.ด้วยเงินสด!ปริศนา โรงแรมเกาะพะงัน ลูกหนี้ NPL ธพว.199 ล.
แฟ้มลับ ธปท.กรณี ธพว.ปล่อยกู้ ร.ร. นานาชาติ ก่อนติด NPL อันดับหนึ่ง359 ล.
เปิดชื่อ 20 ลูกหนี้ NPL รายใหญ่ ธพว.โรงสีอื้อ 6 แห่ง-ยอดรวม 2.7 หมื่นล้าน
ปิดตำนาน 22 ปี“โรงพิมพ์ประสานมิตร”ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์-ขาดทุนสะสม 7 ล้าน