- Home
- Investigative
- การทำผิดของเอกชน
- เปิดหนังสือ“ซี 9”บางรัก ให้ระงับจดทะเบียนบริษัทคืนภาษี หลังเสียหาย 3.6 พันล.
เปิดหนังสือ“ซี 9”บางรัก ให้ระงับจดทะเบียนบริษัทคืนภาษี หลังเสียหาย 3.6 พันล.
เปิดหนังสือ “ซี 9”สรรพากร บางรัก ร่อนถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระงับจดทะเบียน“เสร็จชำระบัญชี”เลิกบริษัทเครือข่ายคืนภาษี หลังตัวเองสั่งคืนไปแล้ว 3.6 พันล้าน แต่ไร้ผล นายทะเบียนรับจดชำระฯเกือบหมด
กรณีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นิติบุคคลที่จดทะเบียนก่อตั้งอย่างมีเงื่อนงำ 30 บริษัทในพื้นที่บางรัก กรุงเทพฯ วงเงิน รวมประมาณ 3.6 พันล้านบาท (ไม่รวมพื้นที่สมุทรปราการและนนทบุรี รวมทั้งสิ้นกว่า 60 บริษัท) ซึ่งสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานข่าวครั้งแรกวันที่ 9 มิถุนายน 2556 และนำเสนออย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ขณะที่กระทรวงการคลังและกรมสรรพากรได้ตั้งคณะกรรมการอย่างน้อย 2 ชุดตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบนั้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 (หลังตกเป็นข่าว) นายศุภกิจ ริยะการ สรรพากรพื้นที่ 22 ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 5 ฉบับ (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ขอให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทที่ถูกตรวจภาษีอากรไว้ก่อน ภายในกำหนดเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่ที่ได้รับหนังสือนี้ โดยให้เหตุผลว่า สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ได้ตรวจสอบภาษีอากรบริษัทดังกล่าว (ฉบับละ 1 บริษัท)
ทั้งนี้ นิติบุคคลที่ถูกขอให้ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ได้แก่ บริษัท เดอะสตาร์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท บี.เค.แอล.เมทัล จำกัด บริษัท พีพีทรัพย์โลหะ จำกัด บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด
อย่างไรก็ตาม หนังสือขอให้ระงับการรับจดทะเบียนชำระบัญชีทั้ง 5 ฉบับทำขึ้นพร้อมกันเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 แต่ทว่า สำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 ได้ลงรับวันที่ 17 มิถุนายน 2556 จำนวน 3 ฉบับ คือกรณี บริษัท พีพีทรัพย์โลหะ จำกัด บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด ส่วนอีก 2 ฉบับคือกรณี บริษัท เดอะสตาร์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท บี.เค.แอล.เมทัล จำกัด สำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 ลงรับหนังสือดังกล่าววันที่ 18 มิถุนายน 2556
น่าสังเกตว่า นายศุภกิจ ริยะการ ผู้ออกหนังสือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 30 บริษัทที่ก่อตั้งอย่างมีเงื่อนงำในพื้นที่บางรัก ในฐานะสรรพากรพื้นที่ 22 ขณะเดียวกันเมื่อตกเป็นข่าวกรณีคืนภาษีอาจมีเงื่อนงำ นายศุภกิจก็มีคำสั่งขอให้ระงับการรับจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีบริษัทดังกล่าว
จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท พีพีทรัพย์โลหะ จำกัด บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด นายทะเบียนได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 บริษัท ที.ที.เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด นายทะเบียนได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556
ขณะที่ บริษัท เดอะสตาร์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท บี.เค.แอล.เมทัล จำกัด ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้วเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 และ วันที่ 20 พฤษภาคม 255 ตามลำดับ ขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภกิจเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกสอบสวนข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงการคลัง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษจากกระทรวงการคลัง
………
อ่านประกอบ:
เปิดโฉมหน้า 14 กรรมการ 30 บริษัทปริศนา!12 คนอยู่“พิจิตร”
เปิด“ชื่อ -วงเงิน” 30 บริษัทปริศนา! ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.6 พันล้าน
พบ 30 บริษัทปริศนา!ขอคืนภาษี 3.6 พันล้าน เพิ่งก่อตั้ง-ใช้เบอร์โทร.เดียวกัน
ข้อมูลฉบับเต็ม 58 บริษัทเครือข่ายคืนภาษี 4.2 พันล้านใช้กรรมการ 31 คน