พบข้อมูล'ลูกเสี่ยเปี๋ยง'ทิ้งหุ้นก่อสร้าง78ล้าน! เปลี่ยนชื่อนักธุรกิจลำปางถือแทน

เขียนวันที่

วันอาทิตย์ ที่ 22 มกราคม 2560 เวลา 20:00 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าวบุคคลดัง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน

Tags

พบข้อมูลใหม่ สรวิศ จันทร์สกุลพร 'ลูกเสี่ยเปี๋ยง' ทิ้งหุ้น 78 ล้าน ที่ร่วมลงทุนธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง กับ เจ้าของบริษัทขายสว่านหุ้นใหญ่ สยามอินดิก้า - เผยชื่อนักธุรกิจลำปางเข้าถือแทน

picsiammememe

จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยตรวจสอบพบข้อมูลว่า บริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ซึ่งทำธุรกิจธุรกิจนำเข้าเครื่องมือและสว่านไฟฟ้า ปรากฎชื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ตัวละครสำคัญในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โดยที่ในช่วงการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัท สยามอินกิก้าฯ ของบริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด นับแต่ตั้งเดือนพฤศจิกายน 2556 จนถึงปัจจุบัน มีการนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า ไม่มีรายได้ต่อเนื่องกันทุกปี

ขณะที่มูลค่าหุ้นในบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ที่บริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ถืออยู่มีจำนวน 690,359 หุ้น หรือคิดเป็นวงเงินกว่า 690,359,000 บาท

(อ่านประกอบ : พลิกปูม! บ.สว่าน ถือหุ้นใหญ่'สยามอินดิก้า' 3 ปี ไร้รายได้-ปริศนาเงิน100ล.ยังไม่เคลียร์?)

นอกจากนี้ สำนักข่าวอิศรา ยังตรวจสอบพบว่า ในช่วงต้นปี 2556 ก่อนหน้าที่ บริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด จะเข้ามาถือหุ้นใหญ่ ในบริษัทสยามอินดิก้า

นายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง เจ้าของ บริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท พีเอเอส (2556) จำกัด (จดทะเบียน 28 กุมภาพันธ์ 2556) ตั้งอยู่เลขที่ 999 หมู่ที่ 1 ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง แจ้งประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง

(อ่านประกอบ : ข้อมูลใหม่!สัมพันธ์ลับ"บ.ขายสว่าน-ญาติเสี่ยเปี๋ยง"ก่อนโผล่หุ้นใหญ่สยามอินดิก้า)

โดยช่วงเริ่มต้นจดทะเบียนจัดตั้ง มีทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 19 มีนาคม 2556 บริษัทฯ ได้แจ้งเพิ่มทุนอีกเป็นจำนวนเงิน 95 ล้านบาท รวมทุนจดทะเบียนทั้งหมด 120 ล้านบาท

ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท พีเอเอส (2556) จำกัด คือ นาย สรวิศ จันทร์สกุลพร บุตรชาย ของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า ซึ่งนายสรวิศ เคยปรากฎชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น บริษัท กีธาฯ (หรือชื่อใหม่ของบริษัท สิราลัย ที่ปัจจุบันถูก ปปง.สั่งอายัดทรัพย์สิน)

โดยรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท พีเอเอส (2556) จำกัด ณ 17 มีนาคม 2556 นาย สรวิศ จันทร์สกุลพร ถืออยู่ 780,000 หุ้น มูลค่า 78,000,000 บาท นาย พีระวัฒน์ เมืองตั้ง ถืออยู่ 360,000 หุ้น มูลค่า 36,000,000 บาท นาง พูนศรี เมืองตั้ง ถืออยู่ 60,000 หุ้น มูลค่า 6,000,000 บาท

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัท พีเอเอส (2556) จำกัด ได้แจ้งเปลี่ยนตัวผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ใหม่

โดยนาย สรวิศ จันทร์สกุลพร ไม่ได้ปรากฎชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทฯ อีกต่อไป

แต่ปรากฎชื่อ นาย ทวี จอมเมืองบุตร เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน ส่วน นาย พีระวัฒน์ เมืองตั้ง และ นาง พูนศรี เมืองตั้ง ยังถือหุ้นอยู่จำนวนเท่าเดิม

ล่าสุด บริษัท พีเอเอส (2556) ยังไม่นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบธุรกิจ ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแต่อย่างใด

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ นายทวี จอมเมืองบุตร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ทำธุรกิจก่อสร้างในจังหวัดลำปาง

ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ของ นาย สรวิศ จันทร์สกุลพร ปรากฎเป็นข่าวว่า ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เพื่อขอพระมหากรุณาเป็นที่พึ่ง ให้กับบิดาของตนเอง ในคดีที่ถูกพนักงานอัยการเป็นโจกท์ฟ้องต่อศาลแขวงสมุทรปราการ ร่วมกับ บริษัทเพรสซิเด้นท์อะกริ จำกัด เป็นจำเลยฐานยักยอกข้าวกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องส่งไปขายอิหร่าน 2 หมื่นตัน มูลค่า 200 ล้านบาท ในความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์รวม 2 คดี โดยศาลชั้นตอนพิพากษาให้จำคุกคดีละ 3 ปี และร่วมกันคืนข่าวแก่กรมการค้าต่างประเทศ ผู้เสียหายหรือชดใช้ราคาแทน ก่อนที่ศาลอุธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนทั้ง 2 คดี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา

โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา นายอภิชาติ ได้วางเงินต่อศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว จำนวน 175,480,000 บาท เป็นแคชเชียร์เช็คธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งนายสรวิศ ประสงค์ขอให้มีการเจรจาเพื่อระงับข้อพิพากษา เนื่องจากบิดาได้ชำระค่าเสียหายจนครบถ้วนแล้ว ประกอบกับบิดาสุขภาพไม่แข็งแรงและถูกคุมขังในเรือนจำมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้ จึงขอพระมหากรุณาเป็นที่พึ่ง